ผมเป็นอีกคนหนึ่ง..ในหลายล้านคนที่จงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพ่อหลวง “รัชกาลที่ ๙” และน้อมนำคำพ่อสอน..มายึดถือและปฏิบัติ และทุกวันนี้..ยังได้สานต่อที่พ่อทำ นำมาเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมการเรียนการสอน..ที่โรงเรียน...
ก่อนหน้านี้..ไม่นานนัก ยังอยู่ในความทรงจำไม่รู้ลืม ที่ได้มีโอกาสไปกราบพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมหาราชวัง..วันนั้น..วันที่เดินทางไกล แต่ไม่รู้สึกเหนื่อยล้า วันที่รอนานเกือบห้าชั่วโมง แต่ไม่รู้สึกท้อถอย..
และ ๒๓ – ๒๖ ตุลาคม ๒๕๖๐ ..กับภารกิจสำคัญ..นำเพื่อนครูจัดทำนิทรรศการครั้งประวัติศาสตร์ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ...ผมและครูทุกคน..ทุ่มเทแรงกายแรงใจ ปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังความรู้ความสามารถ..
ทุกคน..น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้..ทุกคน..ตระหนักและซาบซึ้งในหลักการทรงงาน จึงจัดนิทรรศการศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน..และร่วมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย..
งานพระราชพิธี..ที่ตราตรึงอยู่ในใจพสกนิกรทั่วหล้าผ่านพ้นไป พระเมรุมาศ..ที่ถูกสร้างขึ้นอย่างวิจิตรบรรจง..สมพระเกียรติ..ที่คนไทยและชาวต่างชาติ มุ่งมาดปรารถนาจะได้เข้าชม..
แล้วโอกาสนั้นก็มาถึง..คลื่นมหาชน..วันละหลายหมื่นคน เดินทางไปเข้าชม... “นิทรรศการพระเมรุมาศ” อย่างปลื้มปิติ..ผมก็เป็นหนึ่งในจำนวนนั้น..วันที่เดินก้าวไปข้างหน้าอย่างมุ่งมั่นตั้งใจ วันที่ไม่ยอมท้อแท้..สิ้นหวัง..ต่ออุปสรรคใดๆทั้งสิ้น..
วันศุกร์ ที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ ผมเสร็จธุระที่มุ่งหวังตั้งใจแล้ว..ก็เดินไปที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ..เพื่อเรียกแท็กซี่ให้ไปส่งที่สนามหลวง เกือบ ๑ ทุ่ม.. หลังจากรอคอยแท็กซี่นานนับชั่วโมง.แท็กซี่ทุกคันปฏิเสธผู้โดยสาร ในช่วงเวลาเร่งด่วนและรถติด..ไม่ยอมไปส่งผมยังจุดหมายปลายทาง..ผมเมื่อยล้าขาแข้งอ่อนแรง..แต่บอกตัวเองว่า..อดทน..นะ อดทนเพื่อไปให้ถึงความหวังที่ตั้งใจ..
นาทีนั้น..สามล้อเครื่อง..มาพอดี..ผมรีบโบก ทั้งที่ไม่คุ้นเคยกับรถแบบนี้ โชเฟอร์พยักหน้าด้วยรอยยิ้มแห่งความเมตตาปรานี..ยอมไปส่งให้ ผมรีบขึ้นในทันที แล้วขอบคุณด้วยท่าทีตื่นเต้นดีใจ..และจำฝังใจเลยว่า โชเฟอร์สามล้อเครื่องในค่ำคืนนั้น ชื่อ..พี่วุฒิ..
รถติดมากมาย..จนถึงหน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์..ใกล้กับจุดคัดกรอง..เดินรายเรียงต่อแถวกันยาวเหยียด..สองทุ่มกว่าแล้ว..ผู้คนยังแน่นขนัด ได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่แนะนำเส้นทางเดินและจุดพักก่อนเข้าชมนิทรรศการ..
ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมง ผมก็ได้มายืนอยู่หน้า..พระเมรุมาศ..บริเวณงานที่จัดนิทรรศการอันโอ่โถงและเป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงาม…ใจกลางท้องสนามหลวง...
ยามค่ำคืนเช่นนี้..แสงสีระยิบระยับจับตาจับใจ เหมือนเมืองฟ้าเมืองสวรรค์ในภาพวาด ประดุจดังวิมานที่เนรมิต สถิตย์อยู่ ณ แดนดินถิ่นไทย สดใสสว่างไสวพร่างพราวไปทั่ว ดังทุ่งพระเมรุอย่างแท้จริง .....
เวลานี้..เต็มไปด้วยพสกนิกรของพ่อหลวง รัชกาลที่ ๙ ที่เดินทางมาเฝ้าชื่นชมพระบารมีพระเมรุมาศ..จากฝีมือตัวแทนคนไทยนับร้อยชีวิต ที่เป็นช่างวังหลวงและจากท้องถิ่นแดนไกล ที่สร้างสรรค์จิตรกรรมและประติมากรรม..บันลือโลก..
พระเมรุมาศ..ตรงหน้าผม..ทำให้ผมต้องนิ่งและสำนึก..แต่หัวใจยังเต้นระทึกและตื่นตะลึง..ความรักและความศรัทธาต่อองค์พ่อหลวงของคนไทยโดยแท้..ที่ทำให้เกิดพระเมรุมาศ..อันสง่างามยิ่งนัก..งานทุกชิ้นบ่งบอก ความทุ่มเท อุตสาหะ และใช้ “หัวใจ”สร้างสรรค์ การใช้เวลาและใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่า ตลอดจนใช้ศาสตร์การสร้างงานศิลป์อย่างลงตัว..เชื่อว่าที่สุดแล้ว..ในศตวรรษนี้
งานทำมือ..ที่บรรจงลงรายละเอียด มีที่มาและความหมาย..ควรค่าแก่การศึกษาเรียนรู้และเข้าถึงเพื่อรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ..อันหาที่สุดมิได้..
เมื่อเห็นพระเมรุมาศ..ที่งดงามสมพระเกียรติ..และเห็นห้องโถงนิทรรศการที่มีผู้คนแน่นขนัด ทุกคนต่างชื่นชมและถ่ายรูปกันทุกวินาที..เป็นช่วงเวลาที่ ผมคิดว่า.พ่อหลวงยังอยู่กับพสกนิกรชาวไทย อยู่ในใจเสมอ ยาวนานและตลอดไป..
สมดังถ้อยคำที่ผมรู้มาว่า..พ่อหลวงเป็นศูนย์รวมของจิตใจคนไทย ตราบนิรันดร์ ความกตัญญูกตเวทีของช่างวังหลวงและช่างศิลป์ที่มาจากทุกสารทิศ นับเป็นตัวแทนที่พิสูจน์ให้เห็นแล้ว..ณ พระเมรุมาศ..เบื้องหน้า..ผลงานแห่งคุณงามความดีที่เป็นรูปธรรม..ที่ตอบแทนพระองค์ท่าน..
ผมล่ะ..ผู้ซึ่งเป็นข้าราชการครู..และคนไทยที่เข้าชมนิทรรศการ.หลายหมื่นคนได้เรียนรู้อะไร...ในค่ำคืนวันนี้บ้าง...
ผมคิดว่า..พระเมรุมาศ..ที่สวยสว่างสดใส.น่าจะช่วยสะท้อนจิตใจให้วับวาวเช่นเดียวกัน..อันเป็นแสงแห่งศรัทธา..นั่นคือ..๗๐ ปี ที่พ่อทรงงานหนักมาเพื่อคนไทย..
จนมีวันนี้..ที่เด่นชัดยิ่งนักประจักษ์แจ้งและพิสูจน์ได้ ทำให้ลูกต้องสำนึก..และเดินตามรอยพ่อ..สานต่อที่พ่อทำ...ให้จงได้..
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๐
งดงามมาก ๆ เลยครับ
ขอบคุณครับ
พรุ่งนี้เช้า จะเดินทางจากปากช่อง ไปชมบารมีพระองค์ท่านเช่นกันค่ะ