ในวันที่ 13 ตุลาคม 2560 เป็นอีกวันในความทรงจำอันยิ่งใหญ่ เนื่องเพราะเป็นวันที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้จัดกิจกรรมจุดเทียนถวายความอาลัยน้อมรำลึกวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ณ สนามหญ้าอาคารพัฒนานิสิต กองกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
กิจกรรมดังกล่าวนี้ องค์กรผู้รับผิดชอบหลักคือ “กลุ่มนิสิตชาวดิน” หรือที่เรียกทั่วไปว่า “พรรคชาวดิน”
รวมถึงองค์กรนิสิตอีกจำนวนหนึ่งที่หลอมรวมใจขยับมาเป็นเจ้าภาพร่วม เช่น
ก่อนกิจกรรมจะเริ่มขึ้นเพียงไม่ถึงชั่วโมง – ผมตัดสินใจทักไปหาศิษย์เก่า “เจ้าโบอิ้ง” หรือ “คุณครูโบอิ้ง” เพื่อเชื้อเชิญมาร่วมอ่านบทกวีถวายอาลัยและการแสดงความจงรักภักดีต่อในหลวงรับกาลที่ 9
ครับ-ยอมรับว่า ผมไม่ได้ตระเตรียมเรื่องนี้ล่วงหน้ามาก่อน ...
อันที่จริงในกิจกรรมวันนี้ก็มีกิจกรรมหลากหลายแล้ว ทั้งการกล่าวคำถวายอาลัย การแสดงศิลปะว่าด้วยการร่ายรำและร้องลำผ่านศิลปะการแสดงของภูมิภาคอีสาน ฯลฯ กระนั้นผมก็มีเหตุผลเป็นการส่วนตัวหลายประการ เช่น “เจ้าโบอิ้ง” หรือชื่อจริงๆ คือ “นายกานต์ชนก ใครอุบล” เป็นอีกบุคคลหนึ่งที่ผมสัมผัสได้ว่าเป็นผู้ที่รักและศรัทธาต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างที่สุด
ใช่ครับ- ผมเห็นและสัมผัสได้มาตั้งแต่เมื่อครั้งที่เป็นนิสิต ซึ่งปัจจุบันจบการศึกษาไปเป็นอาจารย์สอนในโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม (ฝ่ายประถม) ก็ยังคงเสมอต้นเสมอปลายต่อเรื่องของชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์
และดูเหมือนนับวันยิ่งทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ
ในอดีต “เจ้าโบอิ้ง” (นายกานต์ชนก ใครอุบล) มีสถานการณ์เป็นผู้นำนิสิตอย่างชัดเจน เช่น ก่อตั้งพรรคมอน้ำชี จนในที่สุดก็ก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นนายกองค์การนิสิต ปีการศึกษา 2556 รวมถึงได้รับทุนภูมิพลในปีการศึกษา 2555 อันเป็นทุนการศึกษาที่เข้ารับในพิธีพระราชปริญญาบัตรฯ ซึ่งเป็นทุนแห่งความดีพร้อม เพราะหลักๆ แล้วคือเรียนดี ประพฤติดี มีจิตอาสา เป็นนักกิจกรรม และมีทัศนคติที่ดีต่อชาติ ศาสนาและมหากษัตริย์ฯ
หรือกระทั่งในปัจจุบัน น้องก็ยังโพสข้อความในสังคมออนไลน์ว่าด้วยเรื่องของสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างต่อเนื่อง และเป็นการนำเสนอในมุมอันสร้างสรรค์
นี่คือในบางเหตุผลที่ผมคิดและตัดสินใจเชื้อเชิญให้ “เจ้าโบอิ้ง” เดินทางมาร่วมอ่านบทวีถวายอาลัย ซึ่งต้องยอมรับน้ำจิตน้ำใจของเขาเป็นที่สุด เพราะเชิญไปด่วน เจ้าตัวก็ไม่ปฏิเสธ ตรงกันข้ามกลับยินดีและเป็นเกียรติที่จะมา -
แถมยังเป็นการเดินทางมาในแบบรีบเร่งสุดๆ ..
เป็นการมาในชนิดเอาใจมาล้วนๆ เป็นการมาในแบบ “ใจนำพา ศรัทธานำทาง” .แต่งกายยังไงก็มาอย่างนั้นเลย
เรียกได้ว่าไม่มีเวลาอื่นใดเหลือพอที่จะแต่งองค์ทรงเครื่องได้อีกแล้วฯ
และนี่คือบทกวี/บทกลอนสั้นๆ ที่เจ้าตัวเขียนไว้ใน เฟซบุ๊ก ดังว่า
นอกรั้วกำเเพงวัง
คับคั่งเหล่าประชา
ท่วมทั่วน้ำตาฟ้า
ผ่านหน้าประชาชน .
สองมือถือมาลัย
ร่ำไห้ในกมล
หนึ่งปีตรมทุกข์ทน
สำนึกล้นพระกรุณา .
ใกล้วันจวนขาดใจ
จิตหมองไหม้ถวิลหา
เกิดเป็นดินไม่ไกลฟ้า
พระราชาไม่ทิ้งดิน
ภาพ : กลุ่มนิสิตชาวดิน / พรรคชาวดิน / สุริยะ สอนสุระ / กานต์ชนก ใครอุบล
สวัสดีจ้ะน้องอาจารย์แผ่นดิน
ช่วงนี้ปิดเทอม แต่ครูไม่ได้ปิดเลยสักวัน
ต้องเตรียมงาน เตรียมสถานที่
เตรียมรับเปิดเทอมจ้ะ
ชื่นชมกิจกรรมดี ๆ นะจ๊ะ เป็นกำลังใจ
ให้กับคนทำงานจ้ะ
เข้มข้น เข้มขลัง พลังแผ่นดิน
ขอชื่นชมการทำงานของชมรมทุกชมรม
ได้ศิษย์เก่านิสิตดีๆเป็นนี้เยี่ยมเลย ขอชื่นชมน้องกานต์ชนก ใครอุบล
อยากเห็นนิสิตแบบนี้มากๆนะครับ
ในฐานะคนทำงานกิจกรรม
นิสิตบางคนโดนระบบราชการหรือระบบสังคมกลืนไปหมดอย่างน่าเสียดาย
สวัสดีครับ
พี่ครูมะเดื่อ
การเตรียมการรองรับเปิดเรียนของคุณครู เหมือนปัดกวาดบ้านรอรับลูกสาวลูกชายที่กลับจะกลับมากระมังครับ สมัยผมยังเด็ก ก็ตื่นเต้นเสมอเมื่อใกล้ถึงเวลาเปิดเรียน อยากรู้ว่าจะได้นั่งโต๊ะไหน ใครจะเป็นครูคนใหม่ หรือกระทั่งเราจะมีเสื้อใหม่กางเกงใหม่หรือไม่ ฯลฯ
อารมณ์นั้นเลยครับ
สวัสดีครับ
ผมเห็นด้วยนะครับ ว่าหลายคนจบไปรับราชการแล้วโดนวัฒนธรรมบางอย่างครอบงำ หรือปิดกั้น จนในที่สุดไฟฝันก็มอดไหม้ หรือเผาไหม้ตัวเองไปในที่สุด
จึงเชื่อว่าเหล่าบรรดานักกิจกรรม จะมีภูมิต้านทานต่อเรื่องเหล่านี้ รู้จังหวะกาละ
รู้ถนอมตน เฝ้ารอ หรือรู้ว่าอย่าทดท้อ สิ้นหวัง -