จากคำถาม ...
วิธีคิด หรือ ทัศนคติของตนเองที่มีต่อ "พ่อแม่และครอบครัว" ที่เปลี่ยนไปจากเดิม
ดิฉันเป็นเด็กดีขึ้น ตั้งใจเล่าเรียน อ่านหนังสือ เชื่อฟังพ่อแม่
หลังจากที่ดิฉันดูวีดิทัศน์ที่อาจารย์เปิดให้ดิฉันดู เมื่อดิฉันกลับบ้านไป ดิฉันก็กอดแม่ ดิฉันยอมรับว่าตัวเองเป็นคนขี้อายมาก การที่จะกอดแม่ กราบแม่ บอกรักแม่นั้นมันเป็นสิ่งที่ทำยากมากสำหรับดิฉัน แต่ดิฉันก็ทำได้
ดิฉันกอดแม่ แม่ถามดิฉันว่า เป็นอะไรวันนี้ ทำไมมากอด ทุก ๆ วันไม่เห็นมากอด
ดิฉันน้ำตาคลอเหมือนจะร้องไห้ แต่ดิฉันก็พยายามไม่ให้ตัวเองร้องไห้ออกมา ก็เลยตอบแม่ด้วยน้ำเสียงแหบ ๆ ว่า "อยากกอดแม่ คิดถึง ไม่อยู่ที่หอ ไม่สนุกเลย ไม่มีคนทำอาหารให้กิน"
แม่ดิฉันจึงยิ้ม ดิฉันยอมรับว่า การที่ดิฉันอยู่กับแม่ ได้กอดแม่ ได้พูดคุยในเรื่องต่าง ๆ ดิฉันรู้สึกสบายใจมาก แม่เป็นเพื่อน เป็นทั้งพ่อ เป็นทั้งพยาบาล เป็นทั้งครู ให้ดิฉัน
ดิฉันไม่คิดเลยว่า ชีวิตนี้ดิฉันจะได้พบสิ่งที่ดี สิ่งที่มีค่ามหาศาล สิ่งที่ต่อให้เอาอะไรมาแลก ดิฉันก็ไม่ยอมยกให้
แม่เป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่อดทนเพื่อดิฉันมาตลอด ทำหน้าที่แทบทุกอย่างเพื่อฉัน
ดิฉันไม่สบาย แม่ก็คอยหายามาให้ พาไปหาหมอ หรือคอยแม้ฉันนอนโรงพยาบาล แม่ไม่ยอมห่างดิฉันไปไหน แม่กลัวว่า ดิฉันตื่นมาจะไม่พบใคร ท่านจึงรออยู่ข้างเตียง ท่านไม่ยอมไปกินข้าว เข้าห้องน้ำ ท่านรอดิฉันตื่นก่อน แล้วคำแรกที่ท่านถาม คือ "อยากกินอะไรไหม เอาน้ำไหม"
ดิฉันเห็นหน้าแม่ตอนนั้น ดิฉันร้องไห้ออกมาเลย โดยที่ไม่คิดว่าใครจะมาเห็นน้ำตาดิฉัน
ดิฉันรู้สึกภูมิใจมาก และโชคดีมากที่ได้เกิดเป็นลูกของแม่
บางที การสอนให้ลูกสักคนหนึ่ง มีความกล้าหาญมากขึ้นที่จะตอบแทนพระคุณของพ่อแม่อย่างง่าย ๆ
เป็นเรื่องที่น่าภูมิใจมิใช่น้อย
.. การกอด
.. การบอกรัก
.. การกราบ
เชื่อเถอะ ครูผู้สอนภูมิใจไม่น้อยในสิ่งที่เกิดขึ้น
ในสิ่งที่เด็กคิดได้
บุญรักษาทุกท่าน ;)...
-สวัสดีครับ
-ครูคือครู...
-อบอุ่นใจมากๆครับ
-ด้วยความระลึกถึงพระคุณแม่ครับ..
ขอบคุณมากครับ คุณเพชรฯ เพชรน้ำหนึ่ง ;)...
อ่านครั้งใดก็มีความสุข
แม่ของเด็กน้อย
ที่จะเติบโตเป้นคนดีในภายหน้าครับ
ครับผม อาจารย์ ขจิต ฝอยทอง ;)...
น้ำตาซึมเลยค่ะ อาจารย์
ขอบคุณครับ อ....ปริม ทัดบุปผา... ;)...