-ด้วยความตั้งใจที่จะขอนำเอาเรื่องราวอันเป็นสิริมงคลกับชีวิตมาบันทึกเอาไว้ให้กัลยาณมิตรได้ร่วมติดตามอ่านกัน กับเหตุการณ์ต่างๆ ที่ได้เกิดขึ้นในครั้งหนึ่งที่ต้องจดจำและเก็บเอาไว้เป็นประวัติชีวิตครับ...สำหรับตัวผมเองแล้วบันทึกนี้ถือว่าเป็นบันทึกที่ทรงคุณค่ามากอีกเรื่องหนึ่งครับ เพราะมันคือ"จดหมายเหตุชีวิต"ที่หากวันเวลาผ่านพ้นไปจากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี แล้วหากวันใดได้กลับมาย้อนอ่านหรือเล่าต่อถึงความเป็นสิริมงคลยิ่งในครั้งนี้ไปสู่คนรุ่นหลังให้ได้รับรู้ด้วยแล้ว ความอบอุ่นและอิ่มเอมใจก็จะกลับมาพร้อมกับความสุขที่ได้รับพร้อมกับความตั้งใจในครั้งนี้อย่างแน่แท้เลยล่ะครับ...เพราะนี่คือเรื่องเล่าของชีวิตที่ผมขอตั้งชื่อว่า "เพลินบุญ"ครับ...
1.เวลา 03.00 น. ของวันที่ 3 ตุลาคม 2560 ครอบครัวเล็กๆ ของผมพร้อมกับกัลยาณมิตร ได้เดินทางไปถึง ณ ท้องสนามหลวง เพื่อต่อแถวเข้าร่วมกราบพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 ครับ...โดยการเดินทางไปในคราวนี้พวกเราทุกคนที่ได้ตั้งใจเอาไว้ว่าจะมาขอกราบพ่อเป็นครั้งสุดท้าย การรอคอยด้วยใจอันอิ่มอุ่นทำให้พวกเราไม่มีความเมื่อยล้าแม้แต่น้อยเลยล่ะครับ...เพราะว่าใจของเราได้หลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียวพร้อมๆ กับพสกนิกรของพ่อที่ต่างก็มาจากทั่วทุกสารทิศ รอยยิ้ม และมิตรภาพดี ดี ได้ก่อเกิดขึ้นได้ ณ ที่แห่งนี้ แม้ว่าเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่สิ่งที่เราได้สัมผัสนอกจากรอยยิ้มแล้ว สิ่งที่สัมผัสได้อีกอย่างหนึ่งก็คือ"ความจงรักภักดีต่อพ่อหลวง"ที่เราต่างก็มีอย่างเต็มเปี่ยมหัวใจครับ...
2.หลังจากเราต่อแถวและปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลในงานพิธีตามขั้นตอนต่างๆ แล้ว เมื่อเวลา 09.49 นาที เราก็ได้เข้าไปกราบพระบรมศพในหลวงราชกาลที่ 9 ในพระบรมโกศ ณ เวลานั้น ความปลื้มปิติได้ก่อเกิดขึ้นอย่างท่วมท้นใจ สำหรับตัวผมเองแล้วแม้ว่าช่วงเวลาในขณะนั้นจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ความรู้สึกกลับเสมือนว่ายาวนาน ผมได้นั่งอยู่แถวหน้าสุด ทำให้ได้โอกาสสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพ่อหลวงที่ได้มอบให้กับพวกเราอย่างมากมาย ความอิ่มอุ่นในหัวใจ ได้ก่อเกิดขึ้นอย่างมากมาย น้ำตาที่ไหลออกมามิได้หมายถึงความเศร้าโศกเสียใจ แต่กลับเป็นน้ำที่ไหลออกมาเพื่อเพิ่มพลังกาย พลังใจ ให้กับตัวผมเองอย่างหาสิ่งใดเปรียบมิได้เลยล่ะครับ...สิ่งใดที่ว่าหนักหน่วงใจได้ถูกลบเลือนไป ต่อจากนี้สิ่งที่ต้องทำก็คือการสานต่อแนวทางของพ่อหลวงให้มากที่สุดเท่าที่ช่วงชีวิตหนึ่งจะทำได้ครับ....เพราะคำสอนของพระองค์ท่านได้บอกเอาไว้มากมาย และจะเกิดคุณค่ามากขึ้นหากเราได้น้อมนำเอามาปฏิบัติและส่งต่อไปยังคนรุ่นหลัง...เพราะ "ธ สถิตย์ในดวงใจไทยนิรันดร์" นั่นเองครับ...
3.เมื่อเสร็จสิ้นจากการกราบพ่อหลวงแล้ว เราก็ได้เดินทางกลับ โดยระหว่างเส้นทางได้มีโอกาสแวะทำบุญ ณ วัดหลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ อยุธยา(วชิรธรรมมาราม) ซึ่งเป็นเส้นทางผ่าน ดังนั้นเมื่อมีโอกาสจึงได้เข้าไปสักการะและขอพรพระพร้อมกับเดินชมตลาดที่จัดเอาไว้ภายในวัดครับ "ตลาดต้องชม"ที่นี่ถือว่าหากใครผ่านมาต้อง"แวะชม"ด้วยนะครับ...ด้วยบรรยากาศต่างๆ ทำให้วัดแห่งนี้ดูน่าเข้าไปเยี่ยมชมมากๆ เลยล่ะครับ..ที่สำคัญหากท่านใดชอบถ่ายรูปสวยๆ แล้วละก็ ผมว่าที่นี่ต้องไม่พลาดที่จะไปนะครับ....
4.เดินทางกลับถึงบ้านในเวลาสองทุ่มกว่าๆ เราพักผ่อนกันตั้งแต่หัวค่ำ เก็บแรงเอาไว้ไปทำบุญที่"วัดเขาแก้ว"ซึ่งอยู่ใกล้ๆ บ้านกันในรุ่งเช้าของวันที่ 4 ตุลาคม 2560 ซึ่งทางวัดได้กำหนดจัดกิจกรรมการตักบาตรเทโว ในวันออกพรรษาครับ ถือเป็นกิจกรรมในทุกปีที่"วัดเขาแก้ว"จะต้องจัดกิจกรรมก่อนวันออกพรรษา 1 วัน ทั้งนี้ก็เพราะว่าวันออกพรรษานั้น วัดที่อยู่ในเขตอำเภอพรานกระต่ายจะจัดกิจกรรมและเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ร่วมกิจกรรมอีกรอบหนึ่งนั่นเองครับ..กิจกรรมในเช้าของวันนี้...อิ่มบุญ..อิ่มใจ..ครับ...
5.และถือเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่ครอบครัวเล็กๆ ของผมได้ถือปฏิบัติติดต่อกันมาในทุกๆ ปี นั่นก็คือ "พิธีการรับขวัญข้าว หรือ พิธีการรับท้องข้าว"ในแปลงนาเล็กๆ ของเราครับ...ซึ่งพิธีกรรมดี ดี นี้ผมเคยได้นำเอามาบันทึกเอาไว้ และบอกเอาไว้ถึงขั้นตอนและความเชื่อต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้แล้ว ที่นี่ครับ รับท้อง(ขวัญ)ข้าว...สืบราก..สานเหง้าประเพณี และปีนี้เราก็ได้นำเอาพิธีกรรมดี ดี มาสืบทอดต่อด้วยตนเอง เพราะหลังจากนี้ต่อไปเราก็จะต้องปฏิบัติเช่นนี้ทุกๆ ปี และจะขอส่งต่อไปยังคนรุ่นหลังต่อไปด้วยล่ะครับ...
6.และนี่ก็คือ"จดหมายเหตุชีวิต"ของผมทีี่ได้บันทึกเอาไว้บนสมุดออนไลน์เล่มนี้ครับ...สิ่งที่หวังใจเอาไว้นั่นก็คือการได้เก็บเอาเรื่องราวต่างๆ เอาไว้ เพื่อวันใดที่ต้องการพลังใจ ก็จะกลับมาอ่านและซึมซับเอา"ความสุข"และ"พลังใจ"กลับไปเพื่อต่อสู้กับปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ให้ผ่านพ้นไปด้วยใจที่"เข้มแข็ง"นั่นเองครับ...
สำหรับวันนี้.......
สวัสดีครับ
เพชรน้ำหนึ่ง
05/10/60
ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11
(วันปวารณาออกพรรษา)
อ่านแล้ว ตื่นเต้น ตื้นตัน ไปด้วย
สาธุ ทั้งกราบพ่อหลวง และกราบพระด้วยค่ะ
เพลินบุญจริง
-สวัสดีครับยายธี
-ขอบคุณที่มาเยี่ยมยามและมาร่วม"เพลินบุญ"ด้วยกันนะครับ
-สาธุ....
-สวัสดีครับอาจารย์ต้น
-ยินดีที่ได้แบ่งบันเรื่องราวอันเป็นสิริมงคลนี้ครับ
-ขอบคุณครับ
-สวัสดีครับความสุขอยู่ที่ใจ
-ขอบคุณที่มาเยี่ยมและให้กำลังใจบันทึกนี้ด้วยนะครับ
-ขอเดินตามรอยเท้าพ่อครับ
-สวัสดีครับพี่หมอธิ..
-เพลินบุญ เพลินใจ นะขอรับพี่หมอ
-ด้วยความระลึกถึงพี่หมอครับ
-ขอบคุณครับ
สาธุๆ
ได้รับขวัญข้าวด้วย
เย้ๆ
-สวัสดีครับอาจารย์ขจิต
-เป็นกิจกรรมที่ยึดถือเอาไว้เป็นสิริมงคลต่อชีวิตครับ
-ขอบคุณที่มาเยี่ยมและให้กำลังใจนะครับ