วันที่ ๒๒ - ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๐ มีกิจกรรม “๓ สถาบัน วิ่ง-ปั่น ปันน้ำใจ” โดยคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์มีเป้าหมายระดมทุนสร้างอาคารเย็นศิระ ๓
ผมเคยเขียนบันทึกเล่าเรื่องอาคารเย็นศิระที่ ๑ และอาจารย์หมอธนพันธ์ ชูบุญเขียนเล่าที่ ๒
วันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ทีมงานประชาสัมพันธ์กิจกรรมวิ่งปั่น ปันน้ำใจ ของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ขอมาสัมภาษณ์ไปประกอบวีดิทัศน์ และหนังสือประวัติของอาคารเย็นศิระ ผู้มาสัมภาษณ์ประกอบด้วย คุณพิชญา ศรเลิศล้ำวาณิช อดีตรองผู้อำนวยการ/หัวหน้าฝ่ายอำนวยการ/เลขามูลนิธิ รพ.มอ., คุณสุกุญญา ปฐมระวี หัวหน้างานสิทธิประโยชน์ผู้ป่วย / ผู้ดูแลอาคารเย็นศิระ, และคุณประภัสสร ชุมนุม นักวิชาโสตทัศนศึกษา
ก่อนมา เขาส่ง เอกสารนี้ มาให้ ทำให้ผมได้รับรู้เรื่องราว รายละเอียด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณค่าของอาคารนี้ต่อสังคม ที่มีมากอย่างที่ผมนึกไม่ถึงตอนริเริ่มอาคารเย็นศิระ ๑ ในปี พ.ศ.๒๕๒๕ แต่ประวัติการริเริ่มก่อตั้งในเอกสารคลาดเคลื่อน ผมดีใจที่คุณสุกุญญาไปสัมภาษณ์ รศ. นพ. อุดม ชมชาญ ได้ความมาตรงกับที่ผมบอกเธอเมื่อเช้านี้ว่า การริเริ่มก่อตั้งอาคารนี้เริ่มจากคณะแพทยศาสตร์เอง ที่ต้องการกำหนดให้ไม่มีญาติผู้ป่วยมานอนเฝ้าที่โรงพยาบาล เหมือนโรงพยาบาลต่างจังหวัดทั่วไปในสมัยนั้น (พ.ศ. ๒๕๒๕) รวมทั้งเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยที่ต้องรับยา (เช่นยาเคมีรักษา) เป็นเวลาหลายวัน แต่ไม่มีอาการหนัก ที่จะต้อง เข้าอยู่โรงพยาบาล มีที่พักหากไม่มีเงินไปพักโรงแรม โดยผมบอกให้อาจารย์หมออุดม ในฐานะผู้อำนวยการ โรงพยาบาล ไปขออนุญาตเจ้าอาวาสสำนักสงฆ์โคกนาว ขอที่สร้างอาคารค้างแรมสำหรับผู้ป่วยและญาติ
สโมสรโรตารี่สงขลาเข้ามาช่วยจัดงานบอกบุญสมทบทุนสร้างอาคาร ซึ่งพบว่ามีคุณประโยชน์ต่อ ผู้ทุกข์ยากจำนวนมากมาย เป็นที่ที่มนุษย์ได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์และยกระดับจิตใจเมตตากรุณา และที่สำคัญ มีการค้นพบว่าคนไทยพุทธกับไทยมุสลิมมาอยู่ร่วมกันได้เป็นอย่างดี จนเกิดอาคารเย็นศิระ ๒ จากเงิน พระราชทานเบื้องต้น และกำลังจะเกิดอาคารเย็นศิระ ๓
วิจารณ์ พานิช
๑๓ ก.ค. ๖๐
ไม่มีความเห็น