เย็นวันที่ ๒๔ มี.ค. ๕๖ นั่งรถผ่านอาคารเย็นศิระ (๑, ๒) ที่วัดโคกนาว หน้าโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ประกอบกับเมื่อเช้าวันเดียวกัน ท่านคณบดี รศ. นพ. สุธรรม ปิ่นเจริญ แห่งคณะแพทยศาสตร์ ม. สงขลานครินทร์ ถามจุดเริ่มต้นหรือที่มาของอาคารเย็นศิระ ทำให้รำลึกถึงความหลังที่ภูมิใจ และคิดว่าเป็นบุญกุศลมาก เพราะได้ทำประโยชน์แก่ผู้ป่วยผู้ยากไร้ จำนวนมากมาย
อาคารนี้ริเริ่มขึ้นโดยทีมบริหารคณะแพทยศาสตร์ สมัยที่ผมเป็นคณบดี และกำลังจะเปิดโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ตอนต้นปี ๒๕๒๕ ร่วมกับทีมผู้บริหารของสโมสรโรตารีสงขลา โดยที่สโมสรโรตารีสงขลาต้องการมีส่วนช่วยโรงพยาบาลในการทำคุณประโยชน์แก่สังคม ผมจึงเสนอให้หาเงินสร้างอาคารที่พักผู้ป่วยและญาติ ที่มารักษาที่ รพ. สงขลานครินทร์ แต่ผู้ป่วยไม่หนัก ไม่จำเป็นต้องรับไว้ในโรงพยาบาล แต่ต้องการที่พักเพื่อรับการรักษาหลายวันติดต่อกัน เช่นฉายแสง หรือให้ยาอย่างอื่น หรือผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาล ญาติไม่มีที่พัก และไม่มีเงินไปค้างโรงแรม ก็ให้พักที่อาคารที่พักได้
โชคดีที่สำนักสงฆ์โคกนาว อยู่ตรงข้ามคนละฟากถนนกาญจนวนิชย์ กับ รพ. สงขลานครินทร์ เราจึงไปขอใช้พื้นที่ส่วนหนึ่งสร้างอาคารที่พักผู้ป่วยดังกล่าว โดยสโมสรโรตารีสงขลาทำหน้าที่หาเงิน สร้างอาคารนี้ เป็นอาคารไม้ชั้นเดียว พักได้ ๔๘คน เป็นฝั่งหญิงชาย ข้างละ ๒๔คน จำได้ว่าค่าก่อสร้าง ๓ แสนบาท
อาคารนี้มีผู้มาพักแน่นอย่างรวดเร็ว ตามประวัติในเว็บไซต์ของอาคารระบุว่า เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินประกอบพิธีเปิดอาคารโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ทรงทราบเรื่องอาคารนี้ จึงพระราชทานเงิน ๓ แสนบาท ให้ขยายอาคาร และพระราชทานนามว่า “อาคารเย็นศิระ” ความตอนนี้ผมจำไม่ได้ ความจำของผมแย่มาก
ส่วนประวัติที่หลวงพ่อเล่าให้คุณชำนาญ ณ อันดามัน นั้น ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เราไปขอสร้างอาคารที่พักผู้ป่วยและญาติหลังแรกตอนที่วัดยังเป็นสำนักสงฆ์ และยังไม่มีผู้ป่วยมาพักที่สำนักสงฆ์โคกนาว ไม่ว่าจะเป็นพระหรือฆราวาส
ต่อมามีการรับบริจาคเงินขยายอาคารอีกหลายครั้ง แต่ผมไม่อยู่ในเหตุการณ์แล้ว วันนี้นั่งรถผ่านแว่บๆ เห็นอาคารสูงหลายชั้น มีคนมาพักมากมาย
แนวความคิดให้มีอาคารที่พักผู้ป่วยและญาติบ้านไกลเช่นนี้ ผมได้แนวความคิดมาจากโรงพยาบาลพระปกเกล้า จังหวัดจันทบุรี ที่ผมเดินทางไปเยี่ยมชมกิจการโครงการร่วมมือผลิตแพทย์เพื่อชนบท ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และที่ รพ. พระปกเกล้ามีคนยากจนมารับการรักษา แล้วญาติไม่มีที่พัก จึงไปขอใช้ศาลาแห่งหนึ่ง ดัดแปลงเป็นที่พักชั่วคราวให้
ผมคิดว่า รพ. สงขลานครินทร์อยู่ต่างจังหวัด และเชื่อว่าจะมีคนยากจนจากไกลๆ มารับบริการ และญาติหรือผู้ป่วยไม่มีเงินจ่ายค่าโรงแรม จำเป็นต้องมีที่พักไว้สงเคราะห์คนเหล่านี้
เวลาผ่านมา ๓๑ ปี การริเริ่มนี้เป็นประโยชน์ต่อผู้คนมากมาย และได้เกิดระบบการจัดการอาคารเย็นศิระเปลี่ยนแปลงมาหลายสมัย ที่ดีมากคือ มีคนมุสลิมมาใช้บริการมากมาย ให้ผู้คนเห็นว่า ต่างศาสนา ก็พึ่งพาเกื้อกูลกันได้
วิจารณ์ พานิช
๒๔ มี.ค. ๕๖
ห้องพักรับรอง บี ๒๐๑ อาคารประสานใจ
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
บุญกุศลนี้ใหญ่หลวงค่ะอาจารย์ เกือบทุกครั้งเมื่อขับรถเข้าไปในวัดโคกนาวจะเห็นญาติผู้ป่วยจำนวนนับสิบนั่งพักใต้ร่มไม้ใหญ่ที่อยู่หน้าอาคารเย็นศิระกันค่ะอาจารย์
ขอบพระคุณมากค่ะท่านอาจารย์
ที่รพ.มะเร็งชลบุรี รพ.มะเร็งในภาคอื่นๆ หรือรพ.ใหญ่ๆของรัฐฯ ยังมีปัญหาเช่นนี้อยู่อย่างต่อเนื่อง และทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น เนื่องจากผู้ป่วยมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกๆวัน ในทุกๆโรค พวกเราทุกคนได้แต่คิด เห็นใจ แต่ยังไม่ได้ลงมือทำ ..
ขอบพระคุณที่ได้อ่านบทความของท่านอาจารย์ จะเป็นกระบอกเสียงเล็กให้คนไข้ที่ยากไร้ กระจายข่าวและขอความร่วมมือให้มีการช่วยเหลือผู่ป่วยต่อไป ขอกราบขอบพระคุณ