หลักการเทศนาพระคริสธรรม...ตอนที่ 1 นักเทศน์
โดย....ดร.สุทธิชัย ปัญญโรจน์
อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัย ม.พิษณุโลก
การเทศนาพระคริสธรรมหรือการเทศนาความจริงของพระคัมภีร์ ตามคริสตจักรต่างๆมีความสำคัญอย่างมาก บุคคลที่ต้องการเทศนามีความจำเป็นจะต้องเรียนรู้หลักการเทศนาเพื่อให้การเทศนาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
การเทศนา ในที่นี้หมายถึง การสื่อสารความจริงของพระเจ้าซึ่งมีอยู่ในพระคัมภีร์หรือไบเบิ้ล โดยผ่านบุคคลคือผู้พูด ไปยังผู้ฟังได้อย่างมีประสิทธิภาพกล่าวคือ ผู้ฟังเกิดความสนใจและผู้ฟังเกิดเข้าใจในพระคัมภีร์มากขึ้น ซึ่งผลของการเทศนาอาจส่งผลทำให้เกิดเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้ฟัง อีกทั้งผู้ฟังต้องการติดตามเรื่องราวของพระเจ้าและพระเยซูมากยิ่งขึ้น
ผู้เทศนาหรือนักเทศน์พระคริสธรรมควรมีลักษณะอย่างไร
นักเทศน์ ต้องเป็นบุคคลที่พระเจ้าทรงใช้ นักเทศน์ ต้องเป็นบุคคลที่รับใช้งานของพระเจ้า โดยต้องสื่อสารข้อมูลข่าวสารของพระเจ้าสู่ผู้ฟังหรือมนุษย์
ปัจจัยที่ทำให้การเทศนาไม่ประสบความสำเร็จมีดังนี้
1.ผู้เทศนาหรือนักเทศน์ ไม่ได้เรียนรู้หลักการเทศนา พูดมาก เนื้อหาน้อย พูดจาสับสน ไม่รู้จักการเรียงลำดับ ขาดการเตรียมตัวที่ดี ขาดการสอดใส่อารมณ์ในเวลาเทศน์และที่สำคัญคือ ต้องมีความรู้ในเนื้อหาของพระคัมภีร์เป็นอย่างดี โดยต้องทำการศึกษาพระคัมภีร์ให้เกิดความเข้าใจเพราะการเทศนา นักเทศน์จะต้องพูดเรื่องราวโดยเน้นเนื้อหาที่มีความเกี่ยวข้องกับพระคัมภีร์ นักเทศนาหรือนักเทศน์ไม่ควรเทศนาเรื่องราวภายนอกหรือเรื่องราวทางโลกมากจนเกินไป
2.ผู้ฟัง ไม่มีความเข้าใจหรือไม่มีความเชื่อเกี่ยวกับพระเจ้า ความเชื่อถือ ความศรัทธามีความสำคัญมากเพราะถ้าผู้ฟังขาดความศรัทธา ขาดความเชื่อหรือผู้ฟังบางคนมีความคิดที่เกิดการต่อต้านเรื่องราวของพระเจ้าแล้ว เขาก็จะฟังแบบจับผิดและไม่สนใจฟัง ส่วนเรื่องอื่นๆ เช่น เรื่องสุขภาพ การพักผ่อนไม่เพียงพอนอนดึก เรื่องที่เทศนาไม่น่าสนใจและไม่ตรงกับความต้องการของผู้ฟัง เป็นเรื่องรองๆลงมา
3.สิ่งแวดล้อมหรือบรรยากาศ เช่น ห้องแคบเกินไป ห้องกว้างเกินไป อากาศร้อน อากาศหนาว เครื่องเสียงหรือไมโครโฟนไม่ดัง ไม่มีคุณภาพ รอบๆห้องเทศนามีเสียงดังรบกวนจนทำให้ขาดสมาธิ เป็นต้น
คุณสมบัติของนักเทศนา
1.ต้องเป็นบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือ เป็นผู้มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องราวของพระเจ้าเป็นอย่างดีโดยต้องหมั่นศึกษาหาความรู้จากแหล่งต่างๆไม่ว่าจากสถาบันการศึกษาที่สอนเกี่ยวกับพระธรรมหรือพระคัมภีร์ของพระเจ้า หรืออาจจะเรียนรู้ด้วยตนเองจากหนังสือหรือสื่อต่างๆ ที่เกี่ยวกับพระเจ้าหรือพระเยซู
2.ต้องเป็นบุคคลที่รับใช้พระเจ้าทางด้านฝ่ายวิญญาณ คือ มีความสัมพันธ์กับพระเจ้า เป็นบุคคลที่ดำเนินชีวิตตามหลักการของพระวจนะของพระเจ้า มีประสบการณ์เกี่ยวกับพระเจ้า และสามารถเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับผู้ฟังได้
3.ต้องเป็นบุคคลที่รับใช้ทางฝ่ายสังคม กล่าวคือ ต้องเป็นบุคคลที่มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี มีความรัก มีความเข้าใจ มีความเมตตากับผู้คน
4.ต้องเป็นบุคคลที่มีร่างกายที่สมบูรณ์ มีสุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยจนกระทั่งเกิดปัญหาหรือเป็นอุปสรรคต่อการเทศนา อีกทั้งยังต้องมีบุคลิกภาพทั้งภายในและภายนอกที่ดี บุคลิกภายนอก เช่น การแต่งกาย หน้าตา ทรงผม ท่าทาง ส่วนบุคลิกภายใน เช่น การแสดงออก อารมณ์ ความรู้สึก ความปรารถนา ที่ออกมาจากจิตใจ
จริยธรรมหรือคุณธรรมของนักเทศนา
นักเทศนาไม่ควรเทศนาโดยบิดเบือนความเป็นจริงจากพระคัมภีร์ หรือบิดเบือนพระวจนะ อีกทั้งควรสอนพระวจนะหรือสอนเนื้อหาในพระคัมภีร์เป็นหลัก และไม่ควรเทศนาถ้อยคำที่ลามก หยาบคาย สองแง่ สามง่าม ไม่แสดงอารมณ์ร้าย เช่น อารมณ์โกรธ อารมณ์หงุดหงิดใส่ผู้ฟัง อีกทั้งควรยอมรับฟังคำวิพากษ์วิจารณ์จากผู้ฟังเพื่อนำไปปรับปรุงการเทศนาในครั้งต่อๆไป
ไม่มีความเห็น