“..เป็นไปได้ยากยิ่งที่ทุกคนจะมีโอกาสได้ทำงานตรงกับวิชาที่เรียนมา หรือพอดีกับคุณวุฒิที่มีอยู่ บางคนอาจต้องทำงานต่ำกว่าระดับวิทยฐานะ.."
"..บางคนอาจต้องทำงานคนละแนวทางกับที่ศึกษา จะเป็นอย่างไรก็ตาม ก็ควรยินดีและเต็มใจทำ เพราะแต่ละคนมีพื้นฐานการศึกษาเพียงพออยู่แล้วที่จะคิดหาแนวทางปฏิบัติงานทั้งนั้นให้ดีได้.."
"..ข้อสำคัญจึงอยู่ที่ว่าจะต้องตั้งใจทำงานให้จริง ด้วยความคิด ด้วยความพยายาม ด้วยความพอเหมาะพอดี และด้วยความรู้จักสังเกตศึกษา เพื่อให้ทำงานได้สำเร็จสมบูรณ์ทุกสิ่ง พร้อมทั้งได้รับความรู้และประสบการณ์เพิ่มพูนขึ้นเป็นลำดับด้วย.."
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา วันที่ ๙ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๓๐....
ผมอ่านพระบรมราโชวาทของพระองค์ท่านหลายเที่ยว..จนเข้าใจถึงชีวิตข้าราชการ..งานที่ทำอยู่ ต้องบริหารสถานศึกษาขนาดเล็ก ทั้งที่ผมเรียนจบด้านวิธีสอน..บ่อยครั้ง..ในบางช่วงบางตอนของชีวิตประจำวัน ยังต้องดูแลปรับปรุงซ่อมแซม..อาคารสถานที่ สำรวจน้ำและไฟฟ้า ให้เกิดการประหยัดและปลอดภัย..
บางครั้งก็เข้าใจได้ว่า..การถึงขั้นลงมือปฏิบัติเช่นนี้..ไม่ใช่หน้าที่ ไม่มีภาพลักษณ์ของนักบริหาร แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นใด ที่ดีกว่า"ยินดีและเต็มใจทำ" ด้วยมีพื้นฐานมาจากการศึกษาเดิมๆที่ชอบเรียนรู้และหาประสบการณ์ชีวิตที่ดี ตลอดจน..สู้งาน..แม้จะพบปัญหาและอุปสรรคก็ตาม..
ด้วยความเชื่อที่ว่า..ไม่มีอะไรยาก เกินกว่าความตั้งใจในการทำงานให้จริงจัง..ด้วยความรักและศรัทธาในงาน จึงผ่านการบริหารจัดการสถานศึกษามาได้.และมาได้ไกลพอสมควร ประคับประคอง ค่อยๆก้าวไปเรื่อยๆ หาจุดที่พอเหมาะพอดี มีความสอดคล้องกับบริบท ไม่ทำอะไรเกินตัว..เพราะความรู้สึกที่ตระหนักอยู่เสมอว่าเราไม่ได้เรียนมาโดยตรง..จึงไม่ใช่ผู้บริหารมืออาชีพ...
ผมมีโอกาสได้ใช้ความรู้เดิม.จึงสามารถ.เป็นครูช่วยสอน..ปฏิบัติหน้าที่สอนทุกวัน ทำให้รู้ปัญหาการเรียนการสอน เข้าถึงวิธีการแก้ปัญหาทางวิชาการได้ไม่ยาก ข้อค้นพบต่างๆ จึงเป็นที่มาของการ "อ่านคล่องเขียนคล่อง"ของนักเรียน..ที่ครูทุกคนต่างภาคภูมิใจ..
ถึงแม้ว่า..งานวิชาการอันเป็นหัวใจสำคัญ จะหมดห่วงหมดกังวลไปได้มากมาย แต่จากการศึกษาและสังเกตพบว่า นักเรียนยังต้องเรียนรู้คู่การปฏิบัติ ที่ต้องใช้แหล่งเรียนรู้และสิ่งแวดล้อม ที่มีความมั่นคงและยั่งยืน เพื่อสร้างรากฐานทักษะชีวิตให้นักเรียน ให้สามารถคิด วิเคราะห์และแก้ปัญหา สามารถปฏิบัติงานร่วมกันอย่างรู้รักสามัคคี..
ณ เวลานี้..หลังจากที่ผมได้ไปกราบพระบรมศพพ่อหลวง..เป็นที่เรียบร้อย งานนอกห้องเรียนของผมก็คือนำนักเรียน ช่วยกันเพาะและทำแปลงปลูกดาวเรือง คาดหมายและมุ่งหวัง..ตั้งใจ..จะให้เดือนตุลาคม ๒๕๖๐ มีดอกไม้สีเหลือง เรืองรองอร่ามเต็มโรงเรียน...
ผมไม่เคยมีความรู้ด้านเกษตรกรรมมาก่อน..การมีอาชีพครู ทำให้ต้องศึกษาเรียนรู้และลงมือทำ ลองผิดลองถูก สนุกกับกิจกรรมไร่นาสวนผสม บ่มเพาะประสบการณ์มานานนับ ๑๐ ปี วันนี้..มีหลายสิ่งหลายอย่าง ที่เห็นพัฒนาการ เห็นการทำงานที่เชื่อมโยงปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงอย่างชัดเจน
งานพิเศษ..ผมไม่เคยมองข้าม ผมถือเป็นสีสันของโรงเรียนขนาดเล็ก ทั้งในด้านศิลปวัฒนธรรมและสัมพันธ์ชุมชน..นอกจากจะช่วยก่อเกิดสำนึกดีตามวิถีไทยแล้ว ยังเป็นการสร้างภูมิกันให้โรงเรียนเข้มแข็งและช่วยสร้างคนดีให้เกิดขึ้นในสังคม..
ด้วยการอนุรักษ์เพลงพื้นบ้าน..เพลงฉ่อย..ที่มีเนื้อหาที่สามารถทำให้นักเรียน..ค้นพบตัวเอง การบรรเลงดนตรีกันทุกวัน..มีโอกาสสื่อสารให้ชุมชนรับรู้ ความใส่ใจและมุ่งมั่นของครู ผนวกกับความกล้าแสดงออกของนักเรียนในทางที่ถูกที่ควร ล้วนเป็น รั้วแห่งศรัทธา นำมาซึ่งการจัดการศึกษาที่ยั่งยืน..
วันนี้..เทศบาลมอบป้ายนิเทศขนาดใหญ่ติดกระจกใสเลื่อนปิดเปิดได้ให้โรงเรียน ตรงกับความใฝ่ฝันของผม ที่อยากเห็นอยากมีที่หน้าห้องสมุด..ผมจะประเดิมเริ่มต้นติดข้อความที่ป้ายนิเทศ ด้วยพระบรมราโชวาทของในหลวงรัชกาลที่ ๙..รายล้อมด้วยภาพดาวเรือง..
นี่คืออีกหนึ่งเรื่องเล่าในโรงเรียนขนาดเล็ก..ที่ผมภูมิใจ..ครับ
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๕ สิงหาคม ๒๕๖๐
เรียน อาจารย์
ขอแสดงความยินดี และร่วมภาคภูมิ กับการปฏิบัติในบทบาทครูค่ะ
สมกับเป็นครูในยุคสมัยนี้ที่สุดค่ะ
คุณลิขิต