ตามที่ผมเคยเขียนถึงความเป็นมาของหนังสือประวัติวัติครู ของคุรุสภาไว้ในบันทึกก่อนหน้านี้ว่า แต่ละคนที่เขียนประวัติครูแต่ละท่านลงในหนังสือประวัติครูล้วนเป็นบุตร เป็นเครือญาติ เป็นผู้ร่วมงาน เป็นเพื่อนที่สนิทชิดเชื้อกัน จึงสามารถสรรหาเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยอันเป็นจุดเด่นมาเล่า ผมจึงถือว่าหนังสือนี้เป็นแหล่งปฐมภูมิ(primary source)หนึ่งทางประวัติศาสตร์ของการศึกษาได้เลย เพราะแต่ละคนเขียนเล่าขณะยังมีชีวิตอยู่ นั้น
ผมอยากยกตัวอย่างประวัติครูท่านหนึ่ง ซึ่งตีพิมพ์ในหนังสือประวัติครู พ.ศ.2502 คือ พระสารประเสริฐ(ตรี นาคะประทีป) ซึ่งท่านถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2488 และคนเขียนประวัติท่านก็คือ พระยาอนุมานราชธน (ยง เสถียรโกเศศ) ซึ่งพวกเราคงจำกันได้ว่า สองท่านนี้คุ้นเคยกันมาก โดยแปลหนังสือร่วมกันหลายเรื่องโดยใช้นามปากกาว่า “เสถียรโกเศศและนาคะประทีป” หนังสือเด่นๆที่แปลร่วมกัน คือ หิโตปเทศ กามนิต ลัทธิของเพื่อน เป็นต้น
หนังสือประวัติครู พ.ศ. 2502 ตีพิมพ์ประวัติครูทั้งหมด 19 ท่าน แต่ละท่านล้วนเป็นสุดยอดครูทั้งนั้น โดยเฉพาะประวัติพระสารประเสริฐ พระยาอนุมารราชธนท่านเรียบเรียงไว้ถึง 33 หน้า เล่าประวัติชีวิตพระสารประเสริฐอย่างละเอียดทุกซอกทุกมุม หากคนอื่นเขียนไหนเลยจะเล่าได้ลึกซึ้งถึงเพียงนี้ ผมคิดว่าหลายคนคงอยากทราบถึงเรื่องราวตอนแปลหนังสือเรื่องกามนิต (ทั้งภาคพื้นดินและภาคสวรรค์) วรรณคดีรักโรแมนติก อิงพุทธศาสนาที่เราเคยเรียนกันว่าพระยาอนุมานราชธนท่านเขียนไว้ในประวัติของพระสารประเสริฐว่าอย่างไร ผมจึงขอยกข้อความบางตอนมาให้อ่านกันเลยครับ “หนังสือเรื่องกามนิตต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษ ข้าพเจ้า(หมายถึงพระยาอนุมานราชธน...ผู้เขียน)สั่งซื้อเข้ามานานหลายปีทีเดียวจึงได้แปลสู่ภาษาไทย เมื่อข้าพเจ้าได้หนังสือกามนิตเข้ามาใหม่ๆอ่านแล้วจับใจ เล่าเรื่องให้พระสารประเสริฐ หลวงสรรสารกิจและ “ธัญยวัน” ฟัง ทั้ง 3 คนก็ขอร้องให้แปล แต่ก็ไม่ได้แปล เพราะหนังสือเรื่องนั้นเกี่ยวกับวรรณคดีอินเดีย และของพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน ซึ่งเวลานั้นเรา(หมายถึงพระยาอนุมานราชธนกับพระสารประเสริฐ)ยังมีความรู้เรื่องเหล่านี้ไม่พอ แต่เป็นเรื่องที่เราหมายใจไว้แล้วว่าจะต้องแปล ระหว่างนั้นคิดหาคำไทยได้เหมาะกับคำภาษาอังกฤษ คำใดที่มีอยู่ในหนังสือกามนิต เราก็จดคำนั้นไว้ เช่น gateway ก็จดไว้ว่า ทวารบถ เป็นต้น ...จนถึงปีอะไรก็จำไม่ได้ หลวงสรรสารกิจจะมีอายุครบ 3 รอบดำริมีงานทำบุญอายุเป็นพิเศษ เราเห็นว่ามีความรู้บ้างแล้วพอจะทำได้ จึงตกลงแปลเรื่องกามนิตจากภาษาอังกฤษออกเป็นภาษาไทยลงในหนังสือพิมพ์ไทยเขษมก่อน แล้วยกเรื่องทั้งหมดให้เป็นของขวัญของหลวงพระสรรสารกิจในวันเกิดนั้น การแปลภาคพื้นดินตอนที่กามนิตโต้ตอบกับพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าจงใจแปลให้เป็นคำดาดๆ ง่ายๆ ให้มีคำเป็นศัพท์แสงน้อยที่สุด และขอร้องไม่ให้พระสารประเสริฐแก้เป็นคำศัพท์ นอกจากจำเป็นจริงๆ ส่วนภาคบนสวรรค์จะใช้ศัพท์สูงๆอย่างไรก็ได้ เพราะฉะนั้นท่านที่เคยอ่านเรื่องกามนิต จะเห็นข้อความตอนภาคสวรรค์แพรวพราวไปด้วยศัพท์เพราะๆและงามๆ ข้าพเจ้าจำได้ว่าแปลคำว่า mat ในภาษาอังกฤษว่า อาสนะ เพราะเป็นเรื่องพระพุทธเจ้าทรงลาดอาสนะลง พระสารประเสริฐเห็นแล้วก็หัวเราะ บอกว่าที่รองนั่งของพระพุทธเจ้าเขาไม่เรียกว่าอาสนะ เขามีคำใช้เฉพาะเรียกว่า นิสีทนสันถัด ต่างหาก แล้วก็กล่าวต่อไปว่า จะติก็ติไม่ลง เพราะเป็นเรื่องของศาสนา ถ้าไม่ได้เรียนก็ไม่รู้ อย่างไรก็ดีหนังสือกามนิตสำเร็จเป็นภาษาไทยได้งดงาม เป็นเพราะพระสารประเสริฐเลือกหาคำมาใช้ได้เหมาะๆ เป็นอย่างที่ในภาษาอังกฤษว่า “คำเหมาะอยู่ในที่เหมาะ” ฉะนั้น ถ้าท่านมีโอกาสเปรียบเทียบเรื่องกามนิตฉบับภาษาอังกฤษกับฉบับแปลเป็นภาษาไทย จะเห็นว่าเราแปลใกล้กับต้นฉบับตลอดไป ยกเว้นแต่ตอนเดียวซึ่งกล่าวด้วยรหัสยลัทธิของโจร ที่ว่าเอาดาบตัดคอใครขาดก็ไม่มีใครฆ่าใคร เพราะไม่มีคอของใครขาด ตอนนี้ต้องศึกษาปรัชญาของโจรเสียเวลาอยู่หลายวัน พอเข้าใจบ้างแล้วจึงเรียบเรียงใหม่เอาจากความเข้าใจมากกว่าแปลตามตัว...”
พระสารประเสริฐท่านบวชที่วัดเทพศิรินทราวาสหลายพรรษา ได้เปรียญ 7 ประโยค พระยาอนุมานราชธนจะเรียกท่านว่า มหาตรี ท่านเกิดวันที่ 25 พฤศจิยายน 2432 ส่วนพระยาอนุมานราชธนท่านเกิด 14 ธันวาคม 2431 จึงแก่กว่าพระสารประเสริฐ 1 ปี แต่พระสารพระเสริฐท่านถึงแก่กรรมก่อน ส่วนพระยาอนุมานราชธนท่านมาถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2512 และประวัติท่านพระยาอนุมานราชธนที่ตีพิมพ์ในหนังสือประวัติครูเมื่อ พ.ศ. 2514 ผู้ที่เรียบเรียงประวัติท่านก็เป็นผู้ที่คุ้นเคยกับท่านเช่นกัน คืออาจารย์ สุลักษณ์ ศิวรักษ์
ดังนั้นเมื่อเราอ่านประวัติครูหลายๆท่านก็จะเกิดความเชื่อมโยงกัน ผมจึงยืนยันอีกครั้งว่าหนังสือประวัติครู คือแหล่งปฐมภูมิ(primary source)หนึ่งทางประวัติศาสตร์ของการศึกษาจริงๆครับ...
ไม่มีความเห็น