บทที่ 4
บทสรุป
มนุษย์ทุกคนมีศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ และการที่มนุษย์มีศักดิ์ศรีจึงทำให้มนุษย์ได้รับการยอมรับว่ามีสิทธิขั้นพื้นฐานในชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน หรือชื่อเสียง ผู้ถูกล่าวหาในฐานะที่เป็นมนุษย์คนหนึ่งจึงเป็นผู้ทรงไว้ซึ่งศักดิ์ศรี และมีสิทธิได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย มิให้ผู้ใดมาลบหลู่เกียรติด้วยการประจานจนทำให้ศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ลดลง
ดังที่ได้กล่าวมาแล้วถึงการเสนอข่าวของหนังสือพิมพ์ที่มีการระบุตัวผู้ต้องหาในคดีอาญาอย่างละเอียด จนแทบจะทุกครั้งแลดูคล้ายกับเป็นการประจานตัวบุคคล โดยปล่อยให้สังคมตัดสินและพิพากษาความผิดของบุคคลนั้นไปพลางก่อน ก่อนที่กระบวนการยุติธรรมจะได้เริ่มต้นเสียอีกนั่น ผู้ทำการศึกษาเห็นว่าการอ้างถึงประโยชน์สาธารณะของหนังสือพิมพ์เป็นการอ้างเพื่อประโยชน์ในการขายข่าวของตนมากกว่า ทั้งนี้หากจะประเมินถึงส่วนได้เสียที่สังคมจะได้รับกับการทำลายศักดิ์ศรีของบุคคลแล้วหนังสือพิมพ์ควรมีวิจารณญาณมากกว่านี้
ในการอ้างว่าเป็นการช่วยเหลือผู้เสียหายในการตรวจสอบบุคคลว่าบุคคลดังกล่าวเป็นผู้กระทำความผิดจริงหรือไม่นั้น ผู้ทำการศึกษาเห็นว่าเป็นการอ้างที่เกินเลยไปจากความพอดี เพราะในความเป็นจริง เมื่อผู้เสียหายได้รับความเสียจากการกระทำความผิดทางอาญาของบุคคลอื่น หากผู้เสียหายประสงค์จะให้กฎหมายติดตามลงโทษบุคคลผู้นั้น ผู้เสียหายย่อมต้องมาแจ้งความ ร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้เสียหายจึงสามารถพึ่งพาเจ้าหน้าที่ตำรวจในการช่วยสืบหาตัวคนร้ายได้อยู่แล้ว และเมื่อได้ตัวคนร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะแจ้งให้ผู้เสียหายที่เคยแจ้งความร้องทุกข์ทราบและมาทำการชี้ตัวผู้ต้องหา ผู้เสียหายที่มาทำการแจ้งความร้องทุกข์มีอยู่กี่คนก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะต้องแจ้งให้ทราบทั้งหมดเท่าที่จะสามารถทำได้ และนอกจากนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติเองก็มีฐานข้อมูลอาชญากรที่จะช่วยติตามคนร้ายและให้ผู้เสียหายชี้ตัวคนร้ายได้ง่ายยิ่งขึ้น ดังนั้นจึงเห็นได้ว่าเรื่องดังกล่าวแม้จะไม่มีหนังสือพิมพ์เข้ามาเกี่ยวข้อง ผู้เสียหายก็สามารถใช้บริการจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เป็นอย่างดี ไม่จำเป็นเลยที่หนังสือพิมพ์จะต้องมาลงรูปใบหน้า ชื่อ นามสกุล หรือที่อยู่ให้สาธารณชนได้ทราบ เพราะแท้จริงแล้วเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องระหว่างผู้เสียหายที่ได้รับความเสียหาย ผู้ต้องหา และกระบวนการยุติธรรมเท่านั้น บุคคลอื่นๆไม่ได้มีความจำเป็นต้องรับรู้รายละเอียดลึกซึ้งอย่างที่หนังสือพิมพ์ได้นำเสนออยู่ในปัจจุบัน
ส่วนกรณีการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐของเจ้าหน้าที่นั้น ผู้ทำการศึกษาเห็นด้วยกับข้ออ้างนี้ เพียงแต่ยังไม่เห็นด้วยกับวิธีการกระทำที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน การนำเสนอข่าวการจับกุมผู้ต้องสงสัยถือเป็นการแจ้งเตือนให้สังคมได้รู้ว่าขณะนี้มีภัยร้ายที่คุกคามสังคมอยู่ คนในสังคมจะได้ไหวตัวและช่วยเฝ้าระวังเหตุการณ์นั้น เมื่อมีการใช้อำนาจรัฐก็ย่อมต้องมีผู้เฝ้ามองการใช้อำนาจดังกล่าวอย่างใกล้ชิดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมิได้ใช้อำนาจไปทางที่ไม่ชอบ ลักษณะการนำเสนอข่าวดังกล่าวผู้อ่านมักเห็นผ่านภาพการนำตัวผู้ต้องหาออกแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน และภาพการนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
ไม่มีความเห็น