บทที่ 1
บทนำ
1.1 หลักการและเหตุผล
ในโลกแห่งการติดต่อสื่อสารเช่นในปัจจุบันนี้ เราสามารถติดตามข่าวสารข้อมูลได้ในแทบทุกเรื่องราวที่เกิดขั้นรอบๆตัวเรา นอกจากนั้นข่าวสารที่เราสนใจเราก็ยังสามารถเลือกรับชมรับฟังได้หลากหลายรูปแบบ อีกทั้งการนำเสนอข่าวสารของฝ่ายสื่อเองก็พยายามพัฒนาคิดหารูปแบบและวิธีการที่จะทำให้ผู้รับชมรับฟังติดตามการนำเสนอของตนและมีความนิยมชมชอบการนำเสนอ ทั้งนี้เพื่อผลประโยชน์ตอบแทนทางธุรกิจที่สื่อจะได้รับนั่นเอง
การที่สื่อพยายามพัฒนารูปแบบและวิธีการที่จะทำให้ผู้รับชมรับฟังติดตามการนำเสนอของตนและมีความนิยมชมชอบการนำเสนอของตนนั้น มีหลายครั้งที่การกระทำของสื่อส่งผลกระทบต่อสิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นคนของผู้ถูกนำเสนอข่าวนั้นๆ โดยเฉพาะข่าวของผู้ต้องหาในคดีอาญา ทั้งนี้ไม่ว่าจะกระทำไปโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม
การนำเสนอข่าวอาชญากรรมของสื่อ โดยเฉพาะสื่อประเภทหนังสือพิมพ์นั้นถือได้ว่าปัจจุบันการนำเสนอมีลักษณะเป็นการละเมิดสิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นคนของผู้ต้องหาในคดีอาญามากขึ้นทุกขณะ ในการศึกษาปัญหาที่มุ่งพิจารณาเฉพาะแต่การกระทำของหนังสือพิมพ์นั้นก็เพราะหนังสือพิมพ์เป็นสื่อที่มีลักษณะพิเศษ สามารถเข้าถึงผู้รับสื่อได้ง่าย สามารถสร้างกระแสสังคมได้ง่าย สามารถเก็บรักษาได้นาน และสามารถนำมาพลิกอ่านทบทวนได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ตัวอย่างเช่นการนำเสนอข่าวผู้ค้ายาบ้าหรือผู้ร้ายฆ่าข่มขืน หนังสือพิมพ์มักลงรูปผู้ต้องหาที่เห็นใบหน้าชัดเจน พร้อมกับลงชื่อ นามสกุล ที่อยู่ อันมีลักษณะเป็นการระบุตัวบุคคลอย่างชัดเจนตั้งแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการจับกุมตัวได้ ซึ่งในการจับกุมดังกล่าวเห็นได้ว่ายังไม่มีการดำเนินคดีในชั้นศาลเพื่อให้กระบวนการยุติธรรมพิจารณาหาความจริงที่เกิดขึ้นแต่อย่างใดเลย ในทางกลับกันผลของการนำเสนอข่าวของหนังสือพิมพ์กลับกลายเป็นการลงตราบาปให้กับคนๆหนึ่งที่เพียงต้องหาว่ากระทำผิดอาญา เอขาผู้นั้นอาจไม่สามารถกลับเข้าสู่สังคมเดิมของตนได้อีกต่อไป ทั้งที่ในท้ายที่สุดกระบวนการยุติธรรมอาจพิจารณาแล้วว่าไม่เป็นความจริงก็ได้ การนำเสนอข่าวอาชญากรรมของหนังสือพิมพ์ในลักษณะดังกล่าว หนังสือพิมพ์มักอ้างประโยชน์จากกฎหมายเพื่อคุ้มครองการกระทำของตนโดยเฉพาะข้ออ้างที่ว่าการนำเสนอนั้น “เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ”
นอกจากนี้ การกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็มีหลายกรณีที่เข้าข่ายละเมิดสิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นคนของผู้ต้องหาในคดีอาญา โดยสามารถพบเห็นการกระทำละเมิดของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคู่ไปกับการนำเสนอข่าวของหนังสือพิมพ์
การนำเสนอผลการศึกษาในครั้งนี้จึงถือเป็นการสะท้อนปัญหาการละเมิดสิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่เกิดขึ้นและยังมีอยู่จริงในสังคมไทย โดยที่คนในสังคมกลับรู้สึกเฉยชา ไม่ตระหนักถึงปัญหาและไม่รับรู้ที่จะแก้ไข แต่กลับปล่อยให้ปัญหาหยั่งรากลึกในสังคม ดังนั้นก่อนที่สิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นคนจะถูกกระทบกระเทือนไปมากกว่าที่เป็นอยู่ ก่อนที่ประโยชน์ส่วนรวมจะถูกนำมากล่าวอ้างจนบทบังคุณค่าความเป็นคนจนหมดสิ้น จึงเห็นสมควรที่จะหยิบยกปัญหาดังกล่าวมาทำการศึกษาวิจัยไว้ ณ ที่นี้
1.2 วัตถุประสงค์
1. เพื่อให้สังคมไทยตระหนักถึงปัญหาการล่วงละเมิดสิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้ต้องหาในคดีอาญาและหาทางแก้ไขที่เหมาะสมได้
2. เพื่อให้สังคมไทยตระหนักถึงปัญหาที่เกิดจาการใช้สิทธิของบุคคลที่มีลักษณะเป็นการละเมิดสิทธิของบุคคลอื่นและหาทางแก้ไขที่เหมาะสมได้
3. เพื่อกระตุ้นเตือนสื่อมวลชนนักหนังสือพิมพ์ให้รับรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจากการนำเสนอข่าวผู้ต้องหาในคดีอาญาในลักษณะละเมิดสิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
4. เพื่อกระตุ้นเตือนเจ้าหน้าที่ตำรวจให้รับรู้ถึงปัญหาที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ต่อผู้ต้องหาในคดีอาญาในลักษณะละเมิดสิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
5. เพื่อให้สังคมไทยรู้จักคำว่า “สิทธิมนุษย์ชน ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์” และสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างถูกต้อง
1.3 ขอบเขตการศึกษา
รายงานการศึกษานี้จะศึกษาถึงปัญหาที่เกิดจากการปฏิบัติงานของหนังสือพิมพ์และการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ อันมีลักษณะเป็นการละเมิดสิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้ต้องหาในคดีอาญา โดยศึกษาจากหนังสือ วิทยานิพนธ์ และบทความที่เกี่ยวข้อง จากนั้นจะนำเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้ต้องหาคดีอาญาจากการกระทำของหนังสือพิมพ์และเจ้าหน้าที่ตำรวจ
1.4 เค้าโครงการศึกษา
ผลงานการศึกษาฉบับนี้ได้แบ่งการศึกษาออกเป็น 5 ดังนี้ คือ
บทที่ 1 บทนำ
บทที่ 2 หลักประกันสิทธิของผู้ต้องหาในคดีอาญาตามกฎหมายไทย
บทที่ 3 การปฏิบัติงานของหนังสือพิมพ์อันมีลักษณะเป็นการละเมิดสิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้ต้องหาคดีอาญา
บทที่ 4 การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจอันมีลักษณะเป็นการละเมิดสิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้ต้องหาคดีอาญา
บทที่ 5 แนวทางแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้ต้องหาคดีอาญาจากการกระทำของหนังสือพิมพ์และเจ้าหน้าที่ตำรวจ
1.5 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1. เพื่อเป็นแนวทางในการศึกษาเปรียบเทียบการใช้สิทธิของบุคคล ที่กระทำไปด้วยความเข้าใจว่าตนมีสิทธินั้นอยู่อย่างบริบูรณ์ แต่ในความเป็นจริงสิทธินั้นอาจถูกจำกัดด้วยสิทธิของบุคคลอื่นอยู่
2. เพื่อให้ผู้ใช้สิทธิในลักษณะที่การกระทำของตนมีผลไปกระทบต่อสิทธิของบุคคลอื่นได้รับรู้ถึงปัญหาและสำนึกในการกระทำดังกล่าว และลด ละ เลิกการกระทำนั้นในที่สุด
ดูดีและสวยงามจังจนเนื้อหาแทบไม่อยากอ่านแต่อ่านแล้วค่ะละเอียดและชัดเจนดี
มาติดตามอ่านค่ะ