วันที่ ๓๐มีนาคม ๒๕๖๐ สี่สหายนัดพบกันที่บ้าน ศ. ดร. ฉัตรทิพย์ นาถสุภา เวลา ๑๑ น. และรับประทานอาหารเที่ยงที่นั่น โดยเจ้าภาพสั่งติ๋มซำมาจากภัตตาคาร China House อันแสนอร่อย (และแพง) และสั่งก้ามปูทะเลมาจากภัตตาคารผ่านฟ้า ที่คณะสี่สหายไปกินเมื่อวันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๕๘ และได้เล่าไว้ ที่นี่ ส่วนข้าวผัดปูนั้น เป็นฝีมือของคุณจรรยา ภรรยาของ อ. ฉัตรทิพย์ รวมแล้วอาหารเลิศรสทุกอย่าง รวมทั้งชาเขียว และผลไม้
ศ. ดร. วิสุทธิ์ ใบไม้ ไม่ค่อยสบาย แต่ก็ยังมาคุยและกินอาหารเที่ยงร่วมกัน แต่ขอตัวกลับบ้านเมื่อเราออกเดินทางไปชมวัด โดย ศ. ดร. ฉัตรทิพย์ ประสานงานกับฝ่ายส่งเสริมและพัฒนาอย่างยั่งยืน สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ขอให้จัดอำนวยความสะดวกในการชมวัดราชาธิวาส และวัดราชผาติการราม ในสภาพผู้สูงอายุ ซึ่งเราก็ได้รับการต้อนรับและบริการอย่างดียิ่ง ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้
ผมได้ความรู้เรื่องภูมิสถานเมืองบางกอกสมัยโบราณก่อนตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ ว่ามีวัดเก่าตั้งเรียงรายอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งกรุงเทพ เหนือจากพระบรมมหาราชวังตามลำดับมี ๓ วัดคือ วัดสมอแครง (วัดเทวราชกุญชร), วัดสมอราย (วัดราชาธิวาส), และวัดส้มเกลี้ยง (วัดราชผาติการาม)
เราไปที่ วัดราชาธิวาสวิหาร ก่อน ที่นี่มีพระอุโบสถที่งดงามมาก มีบริเวณกว้างขวาง ที่เตะตาคือพระอุโบสถทรงขอม แถมยังมีมอญปนตรงมีเสาหงส์ที่ไม่สูงมากนักสองต้นอยู่หน้าโบสถ์ พระอุโบสถนี้ออกแบบโดยสมเด็จกรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ และทรงใช้แบบเดียวกันนี้เป็นหอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จุดเด่นของพระอุโบสถอีกอย่างหนึ่งคือภาพฝาผนังเรื่องเวสสันดรชาดก อายุกว่าร้อยปี ที่เป็นจิตรกรรมสีปูนเปียกแบบฝรั่ง (fresco) วาดโดยจิตรกรอิตาเลียนที่วาดภาพในพระที่นั่งอนันตสมาคม
พระประธานในโบสถ์งามมาก ชื่อพระสัมพุทธพรรณี (จำลอง) โดยองค์จริงอยู่ที่วัดพระแก้ว
อาคารเด่นอีกหลังหนึ่งคือศาลาการเปรียญไม้สักทั้งหลัง อายุร้อยปี เด่นที่เสาเป็นไม้สักทั้งต้น ไม่มีรอยต่อเลย เสาแต่ละต้นมีชื่อ ตามตัวละครในเรื่องขุนช้างขุนแผน วิหารนี้ยังใช้งานได้เป็นอย่างดี มีแท่นหรือตั่งลักษณะคล้ายบุษบก ทำด้วยไม้ฉลุลายมีเรือนยอดสวยงาม ที่ในงานศพพระ ๔ รูปขึ้นไปนั่งสวด ในอาคารมีพระเชียงแสนกับพระพุทธสันติภาพ ประดิษฐานเป็นประธานคู่
ที่วัดราชาธิวาส เราได้รับคำอธิบายจากท่านพระครูสุนทร เล่าเกร็ดเรื่องราวต่างๆ อย่างดีเยี่ยม ท่านชี้ให้เราดูพระรูปพระพุทธเจ้าไปโปรดพระประยูรญาติ และแสดงปาฏิหาริย์เหาะขึ้นไปบนฟ้าบันดาลให้ฝนโบกขรพรรษซึ่งมีสีแดงตกลงมา รวมทั้งรูปอุณาโลมที่เป็นตราประจำรัชกาลที่ ๑ เพราะเดิมท่านชื่อด้วง จึงเอาตราบนเงินพดด้วงซึ่งเป็นรูปอุณาโลมเป็นตราประจำรัชกาล ท่านเล่าเรื่องที่มาของตราประจำรัชกาลที่ ๒ - ๕ ด้วย แต่ผมไม่ได้จดไว้ จำไม่ได้
จากวัดราชาธิวาส เรานั่งรถเลาะขึ้นเหนือไปตามซอย ไปหน่อยเดียวก็ไปลอดใต้สะพานซังฮี้ เข้าสู่ วัดราชผาติการามวรวิหาร ซึ่งพื้นที่ไม่กว้าง จุดสำคัญคือพระอุโบสถ ซึ่งสร้างแบบศิลปกรรมญวณ ตรงหน้าบันเป็นรูปค้างคาว และภาพเขียนเพดานก็เป็นศิลปะญวณ องค์พระประธานคือพระเวียงจันทร์เชียงแสน ที่เรียกกันว่า “หลวงพ่อสด” ตามที่อธิบาย ที่นี่
จุดเด่นในพระอุโบสถคือจิตรกรรมฝาผนังที่เพิ่งสร้างเสร็จ โดยผนังด้านทิศเหนือเป็นเรื่องราวของพระมหาชนก ทิศตะวันออกเป็นภาพโลกสวรรค์ตามคติโบราณ ทิศใต้สะท้อนชีวิตผู้คนยุคปัจจุบัน และทิศตะวันตกเป็นเรื่องพระพุทธประวัติตอนผจญมาร
ผู้อธิบายเรื่องราวของวัดราชผาติการามคือคุณอาทิตย์ เจ้าหน้าที่ของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ที่อธิบายและตอบคำถามได้ชัดเจนมาก ทำให้ผมได้ความรู้ว่าภาพฝาผนังแบบของพระอุโบสถวัดราชผาติการามดูแลรักษายากมาก มักอยู่ได้เพียง ๒๐ ปี และมักเสียหายจากความชื้นที่ขึ้นมาจากดิน หรือจากน้ำหยด ในขณะที่ภาพจิตรกรรมสีปูนเปียกทนทานกว่ามาก ที่พระอุโบสถวัดราชาธิวาส อายุกว่า ๑๐๐ ปี (สร้างเสร็จ พ.ศ. ๒๔๕๒) สภาพยังดีมาก
ก่อนกลับ ทีมของสำนักงานทรัพย์สินฯ ยังมอบหนังสือ ราชผาติกานุสรณ์ ซึ่งเป็นหนังสือที่ได้รับรางวัลในงานบุ๊กแฟร์ เมื่อสองวันก่อน แก่พวกเราคนละเล่มด้วย กลับมาอ่านที่บ้าน ได้รายละเอียดของประวัติศาสตร์รัตนโกสินทร์ และของวัดนี้มาก
วัดทั้งสองที่เราไปเยี่ยมชม มีความเกี่ยวข้องกับราชวงศ์จักรี เป็นเหตุให้สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เข้าไปร่วมบูรณะ และเราได้มีบุญไปเยี่ยมชมและเรียนรู้ ผ่านบารมีของ ศ. ดร. ฉัตรทิพย์ นาถสุภา ผู้มีสายเลือดทางแม่ ในราชตระกูล อิศรางกูร
วิจารณ์ พานิช
๓๑ มี.ค. ๖๐
1 วัดราชาธิวาสวิหาร พระอุโบสถทรงขอม
4 ในพระอุโบสถ ใต้พระบาทพระพุทธเจ้าในรูปเป็นฝนสีแดง ...ฝนโบกขรพรรษ
7 ที่ยอดสูงสุดคือตราอุณาโลม ตราประจำรัชกาลที่ ๑
8 สององค์หน้าเป็นพระพุทธรูปสมัยละโว้ องค์หลังสมัยอู่ทอง
9 รูปปั้นและภาพฉาย ร. ๔
10 ร. ๕ สมัยเสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ ๑
11 ภาพจิตรกรรมสีปูนเปียกร่างโดยสมเด็จกรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ลงสีโดยช่างชาวอิตาลี
12 บนศาลาการเปรียญไม้สักอายุร้อยปี
13 บุษบกไม้แกะสลักสำหรับพระขึ้นไปนั่งสวดงานศพ
14 องค์หลังพระเชียงแสน องค์หน้าพระพุทธสันติภาพสร้างฉลองการยุติสงครามโลกครั้งที่ ๑
15 วัดราชผาติการาม พระอุโบสถนอกแบบ (unconventional) สมัย ร. ๓
16 พระพุทธรูปปางประทับรอยพระบาท
17 ภายในพระอุโบสถ
18 หลวงพ่อสด
19 ภาพเพดานศิลปะญวณ
20 ภาพพระมหาชนก
21 ภาพพระพุทธประวัติตอนผจญมาร
22 สามสหายในโบสถ์วัดราชาธิวาสวิหาร
ไม่มีความเห็น