...จุดเริ่มต้น...

Climb the mountain not so the world can see you, but so you can see the world. - unknown

หลังจากการพิชิตยอดเขาที่สูงที่สุดในสิงคโปร์ (Bukit Timah Hill: 163 เมตร) เมื่อวานนี้ วันนี้เราตัดสินใจว่าจะไปเดินออกกำลังกายแบบผ่อนคลายตามเส้นทางเดิน Mount Faber Park – Telok Blangah Hill Park – HortPark – Kent Ridge Park ซึ่งมีระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร

เราขับรถไปจอดที่ Harbour Front จากความอลหม่านของผู้คนที่มาเดินในช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ที่ Vivo City พอเริ่มออกเดินตามเส้นทาง Marang Trail ซึ่งอยู่ตรงข้ามห้างสรรพสินค้า ไปตามทางเดินขึ้นเขา Mount Faber ซึ่งสูงประมาณ 70 เมตรจากระดับน้ำทะเล เราเริ่มสัมผัสได้ถึงความสงบ สดชื่นของป่าดิบเขาที่เป็นป่ารุ่นที่สอง เสียงนกร้องดังไปทั่วสองข้างทางเดิน เราเดินไปตามเส้นทางเดินซึ่งโปรยไปด้วยผลสีแดงสดใสสวยงามของมะกล่ำตาควายที่กำลังสุกและตกเกลื่อนอยู่

ทางเดินขึ้นเขาสั้นๆ แต่ก็ทำให้เหงื่อตกได้ท่วมตัว เมื่อถึงยอดเขา Mount Faber เราจึงพักเหนื่อยและชมวิวของเกาะ Sentosa ซึ่งอยู่ทางด้านใต้ มีกระเช้าลอยฟ้าที่เคลื่อนตัวไปมาระหว่างสองเกาะ และวิวของเมืองทางด้านเหนือ ที่นี่มีร้านอาหารและคาเฟ่ให้ได้หยุดดื่มกาแฟหรือทานไอศครีมได้หลายร้าน แต่เรายังไม่หิวจึงออกเดินต่อไปตามถนนไปยัง Telok Blangah hill park ซึ่งเราจะเดินผ่านสะพาน Henderson Wave ซึ่งเป็นสะพานไม้ที่สร้างอย่างสวยงามเพื่อเชื่อมต่อสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติทางตอนใต้ของเมือง ที่นี่เราพบกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยมาถ่ายรูปที่นี่หลายกลุ่มทีเดียว

หลังชื่นชมวิวที่สวยงามจากสะพาน Henderson Wave เราเดินต่อไปตามทางเดินไปยัง Forest Walk ซึ่งเป็นทางเดินลอยฟ้าเหนือเรือนยอดไม้ ระยะทาง 1.3 กิโลเมตร พาเราไปยังสะพาน Alexandra แต่ในวันนี้เราชวนกันเดินตามทางเดิน Earth Trail ซึ่งอยู่ใต้ทางเดินลอยฟ้า เพราะเรายังไม่เคยเดินทางนี้มาก่อน วันนี้เราจึงพาร่างกายไปในที่ที่ยังไม่เคยไปอีกที่ ตามทางเดินนี้มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Singing Forest เพราะที่นี่มีต้นไม้พรรณไม้สำหรับนกกว่า 200 ต้นที่ปลูกเพื่อเป็นแหล่งอาหารและชักชวนให้นกมาอยู่อาศัย ฉันได้พบนกตัวหนึ่งกำลังหาไยไม้ไปทำรังด้วย

จากสะพาน Alexandra Arch ซึ่งดีไซน์ให้เหมือนใบไม้ เป็นจุดเชื่อมระหว่าง Forest Walk ไปยัง Floral Walk ที่ Hort Park เราพักทานอาหารกลางวันที่ Hort Park ท่ามกลางหลากหลายพรรณไม้และการจัดสวนแบบต่างๆ มากมาย ในพื้นที่ 23 เฮกเตอร์

จากนั้นเราจึงเดินต่อไปตาม Canopy Walk อีกหนึ่งทางเดินลอยฟ้าเหนือเรือนยอดไม้ ระยะทาง 280 เมตร ทางเดินนี้มีเสียงจั๊กจั่นคลอเคลียตลอดสองทางเดิน เพื่อให้ถึงจุดหมายที่ Kent Ridge Park ซึ่งมีวิวของท่าเรือใหม่ให้ชมอย่างตื่นตา จากนั้นเราจึงเดินตามถนนต่อไปยัง Science Park เพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้าที่สถานี Kent Ridge กลับมายัง Harbour Front ที่เราจอดรถไว้

วันนี้อากาศร้อนมากและแดดค่อนข้างจัดทั้งวัน เราดื่มน้ำกันไปคนละสองลิตรในช่วงเวลาการเดินประมาณ 3 ชั่วโมง ในระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร

ดังที่ใครบางคนเคยกล่าวไว้ว่า เราปีนเขาไม่ใช่เพื่อให้โลกเห็นเรา แต่เพื่อให้เราได้เห็นโลก วันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวันสำหรับจุดเริ่มต้นขอการเดินที่เราตั้งโจทย์กับตัวเองว่า การเดินของเราจะทำให้เราเป็นคนที่สมบูรณ์ทั้งทางกายและใจขึ้นได้แค่ไหนและอย่างไร เราจะมีความสุขมากขึ้นไหม เราจะมองโลกต่างไปจากเดิมมากน้อยอย่างไร การเดินในธรรมชาติจะทำให้จิตใจที่แข็งกระด้างของเรากลับมาอ่อนโยนและเป็นธรรมชาติได้หรือไม่ เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ค่ะ

มีความสุขในวันทำงานสัปดาห์หน้าค่ะ

[สุรา ๑ ป้าน]

ผมชอบภาพนกมากๆให้อารมณ์