ปัจจุบัน มะเร็งในระยะที่ 2 มีวิธีรักษาทางการแพทย์อยู่หลากหหลายวิธี เช่น การทำคีโม เคมีบำบัด รังสีรักษา การรักษาด้วยความร้อน เป็นต้น
1. การออกกำลังกาย
การออกกำลังกายสำหรับผู้รับบริการเนื่องจากการรักษาต่างๆทางการแพทย์ จะทำให้ผู้รับบริการมีความอ่อนเพียง และเมื่อยล้าในการทำกิจกรรมต่างๆ นักกิจกรรมบำบัดจึงต้องมีบทบาทในการรักษาความแข็งแรงของร่างกายเอาไว้ ซึ่งการออกกำลังกาย ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้าจากการทำกิจกรรม ซึ่งการออกกำลังกายสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็ง จะเป็นการออกกำลังกายที่เน้นไปในเรื่องของความทนทานของกล้ามเนื้อ เพื่อให้สามารถทำกิจกรรมได้นานขึ้นโดยที่ความอ่อนล้าเกิดขึ้นได้ช้าลง
2. การพักผ่อน
การผ่อนคลายจากการที่ผู้รับบริการได้รับการรักษามาต่อเนื่องกัน การพักผ่อนก็สามารถทำได้หลายวิธี การสวดมนต์ นั่งสมาธิ เพื่อให้จิตใจสงบก็ถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่ดี และการให้ทำในสิ่งที่ผุ้รับบริการนั้นชอบ เช่น ดูหนัง ฟังเพลง หรือทำกิจกรรมอื่นๆเพื่อความเพลิดเพลินก็ได้เช่นเดียวกัน การพักผ่อนจะทำให้ผู้รับบริการรู้สึกสดชื่น มีความสุข และสามารถทำกิจกรรมอื่นต่อได้
3. การให้กำลังใจ
การให้กำลังใจนี้เป็นวิธีที่ช่วยให้ผู้รับบริการมีแรงผลักดัน และเห็นคุณค่าในตัวเอง เพื่อให้สามารถต่อสู้กับโรคมะเร็งได้ โดยคนที่จะสามารถเป็นกำลังผลักดันให้กับผู้รับบริการมากที่สุดก็คือครอบครัว
ในอนาคตการต่อยอดของการรักษาโรคมะเร็งในไทย ควรที่จะให้ความสำคัญในด้านของการฟื้นฟูร่างกายและจิตใจของผู้รับบริการ เพื่อให้ผู้รับบริการมีสุขภาพกาย และสุขภาพจิตที่ดี มีกำลังใจในการต่อสู้กับโรคมะเร็งต่อไป ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ได้เป็นเพียงแค่หน้าที่ของบุคคลากรทางการแพทย์เพียงอย่างเดียว เราควรให้ความสำคัญกับคนที่จะมีส่วนช่วยให้ผู้รับบริการสามารถต่อสู้กับโรคมะเร็งได้ก็คือครอบครัวของผู้ป่วยเองด้วย
อ้างอิง
ดร.ศุภลักษณ์ เข็มทอง. การจัดการตนเองเมื่อเป็นมะเร็ง. นนทบุรี: เทพประทานการพิมพ์, 2553
Hadassah Fortinsky. (มปป). Occupational Therapy and Cancer Rehabilitation. The Israeli Journal of Occupational Therapy, 5, หน้า 131-132
ธีรวุฒิ คูหะเปรมะ. (2558,ตุลาคม-ธันวาคม).ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากการรักษาด้วยความร้อนในผู้ป่วยโรคมะเร็ง โดยใช้เครื่อง Thermotron RF8 ในโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชย์การุณย์. วารสารโรคมะเร็ง, 35, หน้า 139
ไม่มีความเห็น