Paranoid personality disorder คือ บุคคลที่มีความระแวดระวังตนเองอยู่เสมอ
มักคิดว่าคนอื่นต้องการทำร้าย ข่มขู่ตนเอง หรือบางครั้งมีความคิดว่าตนเองกำลังถูกตักตวงผลประโยชน์
บ่อยครั้งจะหมกมุ่นอยู่ในความคิดสงสัย ระแวงในเรื่องความซื่อสัตย์หรือความน่าเชื่อถือไว้วางใจของบุคคลอื่น
บุคคลประเภทนี้มักจะตึงเครียด ไม่ผ่อนคลาย และคอยสอดส่องสิ่งแวดล้อม ไม่มีอารมณ์ขัน
และมีการกล่าวโทษผู้อื่นอยู่เสมอ
จากการศึกษาบทความนั้น แสดงให้เห็นว่าพฤติกรรมส่วนใหญ่เกิดจากความคิดภายในตนเอง ซึ่งเป็นความคิดที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ส่งผลให้เกิดพฤติกรรมนี้อยู่เสมอ เช่น คิดว่าคนที่เข้ามาพูดคุยกับตนเองต้องการผลประโยชน์จากตนอยู่ตลอดเวลา หรือแม้กระทั่คิดว่ารถคันอื่นที่ขับอยู่ในเส้นทางเดียวกัน คอยขับรถตามตนเอง
โดยวิธีการรักษาในบทความนั้น คือ cognitive analytic therapy
cognitive analytic therapy คือ การรักษาโดยการวิเคราะห์ถึงความคิดและความรู้ความเข้าใจ ของบุคคลนั้น
วิธีการสำคัญในการรักษา มีดังนี้
1. การให้เขียนเรื่องของตนเอง (Narrative reformulation) เกี่ยวกับประวัติ ครอบครัว การดำเนินชีวิต ความคิดที่มักเกิดขึ้นอยู่เสมอ และให้คิดทบทวนว่าความคิดเหล่านั้นส่งผลอย่างไรต่อพฤติกรรมบ้าง
2. การนำข้อมูลที่ได้มาเขียนแผนภาพ (Diagram) เพื่อเป็นการให้เห็นลำดับขั้นตอนทางความคิดที่ชัดเจนขึ้น และช่วยให้สามารถรับรู้ตนเองได้ดีขึ้นว่าเมื่อเกิดความคิดนี้แล้ว จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป และจะส่งผลอย่างไรต่อ พฤติกรรมหรือบทบาทของตนเอง (Reciprocal role) ยกตัวอย่างเช่น
คิดว่ามีคนคอยตาม ---> เกิดความหวาดระแวง -----> มีพฤติกรรมไม่ไว้วางใจบุคคลอื่น
ซึ่งในความคิดเดียวของตนเองนั้น อาจส่งผลให้เกิดพฤติกรรมหรือบทบาทที่หลากหลายได้
3. การตรวจสอบตนเอง (self-monitoring ) เป็นการตรวจสอบตนเองว่ารู้หรือไม่ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ และความคิด นั้นอยู่ในลำดับขั้นใดในแผนภาพ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เกิดการยอมรับและตระหนักถึงความคิดและพฤติกรรมของตนเอง และเพื่อเป็นการดึงความคิดของตนเองกลับเข้าสู่ปัจจุบัน
4. การสะท้อนความคิดของตนเอง (Reflection) เป็นการใช้แผนภาพที่สร้างขึ้นเพื่อสะท้อนตนเองว่ากำลังอยู่ในขั้นใด และจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปตามแผนภาพ หากความคิดนั้น ยังไม่สามารถยับยั้งได้ แผนภาพนี้จึงเปรียบเสมือนการเตือนตนเอง เกี่ยวกับความคิดที่เกิดขึ้น และเป็นการส่งเสริมให้หาทางออกจากความคิดนั้นด้วย เช่น
คิดว่ามีคนคอยตาม ---> หยุดความคิดนั้น ---> ลดพฤติกรรมไม่ไว้วางใจบุคคลอื่นและหลีกหนีจากสังคม
5. การส่งเสริมให้เกิดพฤติกรรมและบทบาทใหม่ ( New reciprocal role ) ทำได้โดยเริ่มจากการสร้างความไว้วางใจ จากการเริ่มเปิดเผยตนเองและแสดงให้เห็นถึงความโปร่งใสในการสร้างปฏิสัมพันธ์ จากนั้นเป็นการให้ตระหนักรู้ถึงความคิดและบทบาทของตนเองที่เกิดขึ้น การกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมที่เหมาะสม
6. การเขียนบทความเพื่อบอกลา (goodbye letter) เป็นการสะท้อนถึงพฤติกรรมและความพึงพอใจที่เกิดขึ้นหลังจากที่ได้รับการรักษา เพื่อเป็นการดูการเปลี่ยนแปลงทางความคิดและพฤติกรรม
สรุปผลของการรักษา การรักษาวิธีนี้จะทำให้ตนเองได้ตระหนักรู้และยอมรับในความคิดของตนเองมากขึ้นและจะช่วยให้ตนเองสามารถควบคุมความคิดของตนเองได้ ส่งผลให้มีพฤติกรรมและบทบาทที่ดีขึ้น สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข
ไม่มีความเห็น