PLC มหาสารคาม : อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ (ขยายผลครูตุ๋ม) _๒. กรณีเด็กชายกร (นามสมมติ)


ทึกต่อเนื่องจากบันทึกที่ ๑

๒) เด็กชายกร (นามสมมติ)

ครู : เด็กชายกรเป็น ๑ ใน ๓ ของนักเรียนที่อ่านไม่ออก จากนักเรียนทั้งหมด ๑๓ คน อ่านไม่ออก สะกดคำไม่ได้ โดยเฉพาะคำที่มีสระผสม ตอนอ่านออกเสียงพร้อมกัน จะไม่ออกเสียงกับเพื่อน ให้อ่านเดี่ยวก็อ่านเสียงเบามาก เวลาส่งงานจะรั้งท้ายตลอดบางทีก็ไม่ส่ง ดื้อ มึน ขี้เกียจ พ่อแม่ก็ไม่ดู อยู่กับตายาย บอกยายว่า ไม่มีเคยมีการบ้าน ทั้ง ๆ ที่ครูให้การบ้านทุกวัน

ในกระบวนการ ๖ ขั้น ที่นำไปใช้ แต่มีข้อจำกัดเรื่องเด็กจิตอาสา เด็กชายกรจะชอบวาดรูปมาก แต่จะมีปัญหาเรื่องการเขียน ช่วงแรก ๆ จะวาดรูปเยอะ แต่ตอนหลังพอรู้ว่าจะให้เขียน ก็วาดน้อยลง หลังจากใช้ไปสักระยะก็ดีขึ้น ได้ผลดีขึ้นจากผลการทดสอบด้วยเครื่องมือของทาง สพป. พบว่าอ่านขึ้นได้มาก


คลิปเล่าเรื่องของคุณครู อยู่ที่นี่ครับ


ครูตุ๋ม: แนะว่าอย่าเพิ่งให้วาดเยอะ อย่าเพิ่งวางเป้าหมายใหญ่เกินไปให้วางเป้าหมายเล็ก ๆ สั้น ๆ วาดแล้วให้เขียนคำให้ ให้เอาไปแปะ เริ่มจาก ๒-๓ คำ ค่อย ๆ ชม และใช้เรื่องเล่าสลับกับการยกย่องให้ความสำคัญ ต้องมีวิธีการดึงความสนใจ

"...ต้องมีวิธีอ่อย วิธีล่อแหมะค่า เริ่มเต้นอาจซิสองสามคำก่อน และค่อยเพิ่มจำนวนคำขึ้น เริ่มต้นเลยไม่ต้องให้เขียนอะไรเลย ไม่ต้องให้เขียนคำหรือคัดลายมือใด ๆ เลย ให้วาดรูปแล้วแปะลงใบบนกระดาษเลย ... ค่อย ๆ ตั้งคำถาม ... มื่อนี่บักหล่าไปใสลูก ไปโถ่งนา ไปตลาดติ ? ... กะให้วาดเลยค่า ... สมจริงไม่สมจริงก็ไม่เป็นไร ... วาดไปตามประสาเลย ให้เขาชอบและสนุกก่อน ... เมื่อบ่อย ๆ เข้าก็ให้เริ่มใช้คำถาม เช่น บักหล่าไปทะเลเห็นหยังแหน่ ได้กินอาหารทะเลเบาะ ทะเลงามบ่อ? เป็นต้น ... แล้วก็ค่อย ๆ ให้ลองแต่งประโยค เช่น ทะเลสวย ฉันกินอาหารทะเล ... คือเอาคำว่าทะเล มาให้คิด ทีละ ๒ หรือ ๓ ประโยค ... บักหล่าคือเก่งแทะ เอาไปติดไว่ผนังให้หมู่เมิ่งนำแนะ ... ให้โอกาสเล่าให้เพื่อนฟัง... บักหล่าต่อไปเว่าซื่อ ๆ มันบ่อค่อยโก้ปันได๋เด้ ให้เขียนนำจั่งซิสุดยอด .... คือหากุลสโลบายให้ฝึกเขียนด้วยตนเอง...สำคัญคือ ต้องทำให้เขารู้สึกว่า เขาทำได้ ชมเพื่อพัฒนา ไม่มีการลงโทษ..."

ผมเสนอ : สิ่งที่ครูตุ๋มบอกว่า ต้องทำให้เด็กรู้สึกว่าตนเองทำได้ ตรงกับทฤษฎีทางประสาทวิทยา ที่พบว่า สมองจะมีแนวโน้มที่จะขี้เกียจ หลีกเลี่ยงและหลบหลีกในสิ่งที่ตนเองทำไม่ได้ ดังนั้นการปฏิสัมพันธ์กับเด็กจะต้อง "ไม่เป็นภาระสมอง" เกินไป

ครูตุ๋มเล่าต่อว่า : ที่ ร.ร.บ้านหินลาด มีเด็ก "แฟดนรก" แต่ก่อนไม่เคยยิ้มหรือปฏิสัมพันธ์กับใครเลย ก้าวร้าว ไม่เอาอะไรเลย แต่ชอบวาดรูปเหมือนเด็กชายกร ตอนนี้เด็กสองคนนี้กลายเป็นคนละคน ยิ้มแย้ม ตอบถามเพื่อนและครู

ฟังเสียงครูตุ๋มและเสียงผมช่วยกันแนะนำเรื่องนี้ที่นี่ครับ


















ขอบูชาคุณครูเพื่อศิษย์ทุกท่านครับ


หมายเลขบันทึก: 624752เขียนเมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2017 22:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2017 22:32 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

เป็นกำลังใจให้กับคุณครู

ผู้มีจิตวิญญาณครูทุก ๆ ท่านจ้ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท