ข้อคิดวันมาฆะ


ท่านสอนว่าให้ละความชั่ว ทำความดี ทำจิตให้บริสุทธิ์ นั่่นคือ โอวาทปาฏิโมกข์.....แต่เราขอถามย้อนว่า

.ความชั่วคืออะไร..เราเองพยายามทำความดีมานาน แต่บางคนมันก็หาว่าเราทำชั่วก็มี

.ความดีคืออะไร ..ยิ่งแล้วใหญ่ พพจ.เองยังไม่รู้ แต่ท่านเคยตรัสไว้ว่า ความดีคือสิ่งที่นักปราชญ์ไม่ติเตียน..อ้าวแล้วถ้านักปราชญ์มันโง่ หรือขี้ขลาด กลัวขั้วอำนาจเล่า เช่นไม่กล้าด่ารัฐบาลชั่ว

.ทำจิตให้บริสุทธิ์...ยิ่งแล้วใหญ่ จิตคืออะไรยังไม่รูู้กันเลย บางเกจิว่า จิตคือลูกแก้วใส ก็มี

---คนถางธรรม ๑๒ กพ. ๖๐

คำสำคัญ (Tags): #ข้อคิดวันมาฆะ
หมายเลขบันทึก: 623032เขียนเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2017 03:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2017 03:57 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

คนโง่และขี้ขลาดเรียกเป็นปราชญ์ได้รึ? คุณเข้าใจคำว่าปราชญ์ดีแค่ไหนกัน แค่เรียนมากศึกษามาเยอะมันไม่พอที่จะเรียกปราชญ์ได้หรอกนะครับ ส่วนเรื่องดีชั่วทั้งคุณและผมคงรู้อยู่แก่ใจ ไม่จำเป็นต้องอธิบาย เพราะข้อความคุณที่ผมอ่านเนี่ยมันเป็นลักษณะแถออกข้างออกคูซะมากกว่า ประเภทฟังไม่ได้ศัพท์แล้วจับไปกระเดียด ผมก็ไม่รู้ว่าคุณต้องการอะไรกันแน่

คุณกียรติศักดิ์... ก่อนด่าเสียดสีคนอื่นคุณดูจิตตนเองหรือยังว่า บริสุทธิ์เพียงใด

ผมด่าตรงไหน?.....ผมแค่พยายามจะแสดงความหมายคำว่าปราชญ์ให้คุณได้เข้าใจเท่านั้น ปราชญ์ในทางพระพุทธศาสนาน่ะเค้าหมายเอาอริยะบุคคลระดับพระโสดาบันขึ้นไปนะครับ พวกเรียนมากจบสูงไม่นับว่าเป็นปราชญ์หรอกเพราะพวกนี้บางทีก็เอาตัวไม่รอดเรียนมามากแต่กลับแก้ปัญหาชีวิตตนเองไม่ได้สุดท้ายก็หาทางออกด้วยการฆ่าตัวตายมีถมไป และส่วนที่ว่าผมมองกระทู้คุณว่ามีลักษณะแถออกข้างออกคูนั้นก็เพราะว่าคุณไม่ได้ศึกษาคำสอนในพระพุทธศาสนาให้เข้าใจ..สักแต่ว่าฟังๆมาแล้วเอามาเขียน ผมจึงต้องถามคุณว่าคุณต้องการอะไรกันแน่? เพื่อแสดงให้คนอื่นมองว่าพุทธศาสนาสอนผิดรึ? รึว่าคำสอนไม่น่าเชื่อถือรึ? รึว่าพุทธศาสนาลวงโลกไม่ประเสริฐเท่าศาสนาที่คุณนับถือรึ? สุดท้ายนี้ผมขอแนะนำให้คุณลองถามตัวเองดูก่อนว่า ปราชญ์ในความคิดของคุณกับปราชญ์ในพระพุทธศาสนามันตรงกันรึเปล่า?มันใช่คนประเภทเดียวกันรึปล่าว? ผมเองก็ไม่ได้ประกาศตัวว่าผมเป็นคนดี แต่ผมก็เพียรพยายามจะทำตัวให้เป็นคนดี .........สุดท้ายนี้ผมขอฝากสุภาษิตให้คุณไปพิจารณาเล่นๆ ว่า "วิญญูชนและคนถ่อย ต่างกันแค่ความคิด" สวัสดี

ผมตามอ่านบันทึกอาจารย์มาพอสมควร.... หลายครั้งที่ข้อเขียนสั้น ๆ กระตุกและประเทืองปัญญายิ่ง ... จะเป็นปราชญ์หรือไม่ใช่สำคัญ....


อ.ต๋อย ครับ เรื่องของเรื่องมันคือแนวคิดทางพุทธศาสนาน่ะครับ พระศาสดากล่าวว่าความดีคือสิ่งที่นักปราชญ์ไม่ติเตียน ความชั่วคือสิ่งที่นักปราชญ์ติเตียน คุณสมบัติของปราชญ์ย่อมยกย่องคุณธรรมและความถูกต้องมากกว่าชีวิตตัวเอง และปราชญ์ในทางพระพุทธศาสนาท่านหมายเอาพระอริยะเจ้าระดับพระโสดาบันขึ้นไป แต่อาจารย์คนถางทางกลับแย้งว่าถ้าปราชญ์มันโง่และขี้ขลาดล่ะ? ผมจึงตั้งคำถามว่า คนโง่และคนขี้ขลาดสมควรเรียกเป็นปราชญ์ได้รึ? ด้วยกระทู้ที่เค้าตั้งผมจึงทราบได้ทันทีว่า ปราชญ์ในความคิดของเค้าคือพวกนักวิชาการที่เพียงแค่เรียนมามากศึกษามามาก ดังนั้นความโง่หรือความขลาดกลัวอำนาจจึงมีอยู่ในคนพวกนี้ ซึ่งคนพวกนี้ไม่ใช่ปราชญ์ในความหมายทางพระพุทธศาสนา และไม่คู่ควรเรียกว่าปราชญ์ด้วย พูดง่ายๆคือ ไอ้พวกที่มีคำนำหน้า ดร. หรือรศ. หรือ ศ. นั้นไม่ถือว่าเป็นปราชญ์ เพราะเป็นแต่เพียงผู้มีความรู้แต่ไม่ใช่ผู้มีปัญญา ความรู้กับปัญญามันคนละอย่างกันนะครับ ดังนั้นเมื่อคิดจะวิจารณ์คำสอนในทางพระพุทธศาสนาก็ควรเอาแนวคิดและความหมายของคำในพระพุทธศาสนามาร่วมวิจารณ์ด้วย ไม่ใช่เอาความคิดของตนมาใส่ พระศาสดาใช้คำว่าปราชญ์ในความหมายหนึ่ง แต่อาจารย์คนถางทางกลับใช้คำว่าปราชญ์ในอีกความหมายหนึ่งมาวิจารณ์ มันก็มั่วสิครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท