เมื่อวันเสาร์ที่แล้วผู้เขียนได้มีโอกาสกลับจังหวัดกำแพงเพชรอีกครั้ง ด้วยต้องไปร่วมงานฌาปนกิจศพศพญาติที่ล่วงลับไปด้วยโรคภัยที่มาเร็วมากจนตั้งรับกันไม่ทันเพราะเป็นคนที่ร่างกายแข็งแรง ออกกำลังกายอยู่เสมอ ไม่ค่อยมีโรครุมเร้า แต่พอมาเป็นก็รักษาไม่ทันเสียแล้ว เรียกว่าช็อกไปตามๆกันที่ต้องมาสูญเสียญาติผู้ใหญ่อีกคนในวัย 65 ปี
กลางคืนหลังจากเลี้ยงข้าวปลากันเสร็จสรรพก็มีคนมาชวนไปดูลิเกกัน ที่อีกหมู่บ้านหนึ่งชื่อ โค้งวิไล เขามีงานประจำปีกัน มีลิเกเงินล้านชื่อดัง ศรราม น้ำเพชร ก็เลยตามกันไปดู
บรรยากาศงานวัดโค้งวิไล เด็กๆดูจะมีความสุขกันมาก...
ผู้เขียนถ่ายภาพไฟประดับงานสวยงาม แต่ติดผู้คนที่ใส่ชุดดำแปลกๆ เหมือนชาวเผ่าอะไรสักอย่าง สวยงามดี...
ระหว่างเบียดกันเพื่อเข้าไปดูลิเก ศรราม น้ำเพชร ให้ใกล้ๆสักหน่อย มองไปเห็นแต่ชุดลิเกเป็นเพชรระยิบระยับ ลอยไปมาเหมือนเทวดาลอยอยู่บนท้องฟ้า อยู่ๆไฟหน้าเวทีก็ดับลง ทีนี้ก้ถ่ายเวทีได้ชัดเพราะแสงไม่สะท้อน ได้ความว่าลิเกจะไม่แสดง จนกว่าเสียงลำโพงของโฆษกเรียกคนทำบุญที่อยู่ด้านตรงข้ามจะเงียบลง เพราะเสียงมันสะท้อนตีกันจนฟังไม่รู้เรื่อง จนกระทั่งเสียงจากทางวัดเงียบลง ลิเกจึงแสดงต่อ
ภาพนี้ถ่ายแล้วเห็นป้ายชื่อคณะหลังปิดไฟ เพื่อจะไม่แสดงต่อจนกว่าทางวัดจะงดเสียงโฆษกเชิญชวนคนทำบุญ...
หลังจากนั้นผู้เขียนก็ได้ชมลิเก เรื่อง ยุพราชม้าทอง ดูถึงตอน ศรรามออกโรงมาเป็นม้าทองแล้วโดนเพื่อนแกล้งกลับร่างมาเป็นคนไม่ได้อีก ก็ชวนกันกลับบ้านนอน ด้วยเด็กเล็กที่ไปด้วยหลังอิ่มขนม เดินเที่ยวหมดสนุกก็อ้อนกลับ
แต่ก็ถือว่าเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตที่ได้เที่ยวงานวัดแล้วได้มีโอกาสชมลิเกคณะดังๆ ศรราม น้ำเพชร
........................
ไม่มีความเห็น