คาบวิทยาศาสตร์วันนี้เป็นครั้งแรกที่พาเด็กไปเรียนรู้นอกห้องเรียน ที่ผ่านมาเกิดความกลัว กลัวว่าจะพาเด็กไปนอกห้องเรียนแล้วจะคุมนักเรียนได้ยากเพราะเด็กมีจำนวนมาก วันนี้ลองบอกกับตัวเองว่าถ้าไม่ลองก็ไม่รู้ ไม่ลองพาไปเด็กไปเรียนนอกห้องเรียนแล้วจะรู้ได้ไงว่าจะคุมนักเรียนไม่ได้ พอถึงคาบเรียนก็เริ่มการสอนจากในห้อง แล้ววันนี้มีกิจกรรมให้เด็กได้ทดลองเรื่องผลของแรงดึงและแรงผลักที่มีต่อการเคลื่อนที่ของวัตถุ ซึ่งให้นักเรียนแต่ละคนทดลองกับโต๊ะเรียนของตัวเอง ดึงโต๊ะเรียนเข้าหาตัว ดันโต๊ะเรียนออกห่างจากตัวแล้ววัตถุเกิดการเคลื่อนที่หรือไม่ จากนั้นลองให้นักเรียนผลักผนังห้องเรียน แล้วสังเกตว่าเกิดการเคลื่อนที่หรือไม่ เพราะอะไรถึงเป็นเช่นนั้น พยายามใช้คำถามกระตุ้นความคิดของนักเรียน เปิดโอกาสให้นักเรียนได้คิดและแสดงความคิดเห็น พอถึงกิจกรรมการทดลองสุดท้ายคือให้เด็กดึงเชือกที่ผูกกับต้นไม้ ตอนแรกลองให้เด็กหนึ่งคนดึงเชือกปรากฏว่าดึงแล้วไม่เกิดอะไรขึ้น ลองให้เด็กสองคนดึงเชือกที่ผูกกับต้นไม้ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง จากนั้นให้แต่ละแถวจับเอวเพื่อนแล้วช่วยกันดึงเชือก ต้นไม้ยังอยู่เหมือนเดิม จากนั้นก็ถามเด็กว่าจากกิจกรรมค้นพบอะไรบ้าง เด็กก็ช่วยกันตอบ บางคนบอกว่าต้นไม้ไม่เคลื่อนที่ ต้นไม้ยังอยู่เหมือนเดิม ใช้แรงดึงหลายคนต้นไม้ไม่เกิดการเคลื่อนที่
ใช้แรงดึงสองคนดึงเชือกที่ผูกกับต้นไม้
ใช้แรงดึงหลายคนดึงเชือกที่ผูกกับต้นไม้
จากการสอนนอกห้องเรียนค้นพบว่านักเรียนส่วนใหญ่ตั้งใจเรียน เพราะมีการใช้กระบวนการกลุ่มและคะแนนเป็นตัวกำหนด นักเรียนสนุกกับการทำกิจกรรมเป็นอย่างมาก หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสกว่าการเรียนในห้องเรียน นักเรียนมีความสุข ครูก็มีความสุขไปด้วย วันนี้ได้รู้แล้วว่าถ้าไม่ลองหรือไม่กล้าทำในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น ก็ไม่มีทางรู้ว่าจะประสบความสำเร็จกับเรื่องนั้นหรือไม่
ไม่มีความเห็น