๔๘๙. มะเขือเปราะ..ผักคู่ควรในสวนครัว
ปีการศึกษานี้...ก็เดือนนี้เท่านั้น ที่ผมกับนักเรียนช่วยกันปลูกผักกวางตุ้งแล้วได้ผลดี อาจไม่ถึงกับงอกงามดีมาก แต่ก็เป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง อันเกิดจากการที่ไม่ได้ใส่แต่ปุ๋ยอินทรีย์อย่างเดียว แต่ใส่ใจอย่างเต็มเปี่ยม..มากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
ผมวางแผนจะปลูกผักสวนครัวให้หลากหลาย ป้อนโรงครัว ในโครงการอาหารกลางวัน..คิดแล้วต้องทำให้ได้ จริงๆก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องยาก เอาเข้าจริง..ก็ไม่ง่ายเลย เพราะแต่ละวันไม่ได้มีงานหน้าเดียว..แต่ไม่เป็นไร..แค่คิดก็มีความสุขแล้ว
๓ – ๔ สัปดาห์มาแล้ว..นำเมล็ดมะเขือเปราะไปเพาะ..ส่วนหนึ่งก็นำไปโปรยในรั้วของสวนข้างโรงครัว มะเขือแตกต้นอ่อนมากมาย ยังไม่ได้แยก คงต้องปล่อยให้ขึ้นไปตามธรรมชาติแบบนั้น เติบโตร่วมกับพริก กระเพราและตะไคร้
ส่วนที่เพาะในถาดหลุม แตกต้นอ่อนสวยงามน่าสนใจ รากที่งอกโยงใยแข็งแรง บ่งบอกการเพาะเมล็ดสมบูรณ์ดี นับได้ถึง ๒๓ ต้น พอเพียงกับความต้องการ แต่คิดก่อนว่าจะปลูกที่ไหนดีนะ...
มีสถานที่ให้เลือก ๒ ที่ ที่สุดก็ปลูกทั้ง ๒ ที่ ถือเป็นการทดลองเปรียบเทียบคุณภาพการปลูก ระหว่างแปลงเกษตรปลอดสารพิษ กับนาข้าวที่มีดินอุดมสมบูรณ์อยู่พอสมควร อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสริมสนับสนุนการปลูกมะเขือเปราะครั้งนี้ คงหนีไม่พ้นมูลวัว น้ำหมักชีวภาพและฮอร์โมนนม..ที่เป็นอาหารเสริมพิเศษ
น้ำหมักชีวภาพ(EM)และมูลวัว ช่วยบำรุงดิน ปรับปรุงดินให้มีธาตุอาหารเพิ่มขึ้น ส่วนฮอร์โมนนม..ช่วยเร่งดอก ให้มะเขือเปราะออกดอกออกผลเต็มต้น.. ๒๐ กว่าต้น ถ้าออกลูกดกทุกต้น ก็สามารถนำไปผัด หรือแกง รวมทั้งเป็นส่วนหนึ่งของผักรวม ในเมนูน้ำพริกปลาทูก็ยังได้..
มะเขือเปราะ..จึงเป็นผักสวนครัวที่มีคุณค่าอเนกอนันต์ ที่ผมบอกนักเรียนให้ตั้งใจบรรจงปลูก จากนั้น..ก็จะเอาใจใส่เช่นเคย เพื่อติดตามการเจริญเติบโต ตลอดจนเสริมแรงด้วยปุ๋ยอินทรีย์ที่จะจัดให้เต็มพิกัด เร่งรัดคุณภาพมะเขือเปราะ..ที่ปลูกเคียงข้างกับมะเขือเทศ..
ท้ายบันทึกนี้..ผมมีข้อคิด..ในท่ามกลางการเรียนรู้งานเกษตรในโรงเรียนเล็กๆ..”หลายปีมานี้..ผมเปลี่ยนไป สามารถอดทน แบกรับความทุกข์ในหลากหลายรูปแบบ มีความแกร่งในชีวิต เหมือนต้นกระบองเพชร ที่สามารถจะอยู่รอดได้ทุกสถานะ..”
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๓๑ มกราคม ๒๕๖๐
ความเห็น (1)
ชื่นชมกับกิจกรรมของท่านผอ. เสมอครับ โดยเฉพาะปลูกผักและต้นไม้ เด็กๆ ควรได้สัมผัสกับธรรมชาติบ้างครับ