พระพุทธเจ้าเปลี่ยนคนที่แสนจะธรรมดาให้กลายเป็นมนุษย์เป็นพระอริยะด้วยการพูดเป็นหลัก คนฟังคำสอนพระพุทธเจ้านั้นต้องฟังและติดตาม ซึ่งกระบวนการทำให้ชีวิตงอกงามขึ้นคือการมีสมาธิ แต่สมาธิจะไม่มีถ้าคนนั้นไม่มีปัญญา เพราะสิ่งนี้ต่างอิงอาศัยกันและกันอยู่นะ
เหมือนท่านท่านเว่ยหล่างพูดทำนองว่า สมาธิเปรียบเหมือนดวงไฟ แต่ปัญญาคือแสงสว่างจากดวงไฟนั้น
ในทางธรรมมองว่าคนปกตินั้นมีปัญญาเท่าเทียมกัน ด้วยทุกคนล้วนมีเมล็ดมะม่วงอยู่ในกำมือ 1 เมล็ดเท่ากัน ปัญหาอยู่ที่ว่าใครจะสามารถนำเมล็ดมะม่วงนั้นไปปลูกลงดินรดน้ำพรวนดินดูแลจนเจริญงอกงามออกดอกออกผลจนสามารถได้ชิมผลมะม่วงสุกได้ ก็เมล็ดมะม่วงนี้ละที่เป็นตัวเจริญงอกงามขึ้นมาได้ สิ่งที่เจริญงอกงามขึ้นมาได้คือตัวปัญญา นี่คือทำไมแง่พุทธให้คนเจริญปัญญาละ ก็การเรียนรู้จักตน ยินดีในความเป็นตัวตนของเรา รู้ประมาณตน เหมือนนกน้อยสร้างรังแต่พอตัว มีความสุขอยู่กับความเป็นตัวตนอย่างนี้คือความเจริญงอกงามของชีวิตหรือคือปัญญา
มีปัญญาว่าเมื่อรู้ว่าตนตกอยู่ในกรงขังโซ่ตรวนของธรรมชาติอย่างนี้แล้วจะใช้ชีวิตอย่างไรดีละ แต่คนเรานี้หลุดพ้นจากโซ่ตรวนนั้นได้ก็ทางใจเป็นอิสระเท่านั้นละ
ไม่มีความเห็น