หญ้าม้า.....


ต้นหญ้าแปลกๆ ..ถูกนำมาปลูกเอาไว้ที่บ้านไร่ Hi Hug House แต่กว่าจะได้รับรู้ว่ามันคือ"สมุนไพรชั้นดี"ก็ต้องใช้เวลาในการสืบหาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ มาถึงวันนี้มีโอกาสได้รับทราบข้อมูลและได้ลิ้มลองรสชาติของหญ้าสดๆ ที่มีชื่อว่า"หญ้าม้า"แล้ว งานนี้จึงต้องขอเก็บข้อมูลและภาพพร้อมกับเรื่องราวมาบันทึกเอาไว้เพื่อแบ่งปันและขอแลกเปลี่ยนข้อมูลกับผู้รู้ที่ผ่านเข้ามาอ่านบันทึกนี้ ขอบคุณแหล่งข้อมูลดีๆ จาก Internet และขอบคุณ G2K ที่เอื้ออำนวยให้ผู้เขียนได้นำเอาเรื่องราวมาบันทึกและส่งต่อไปยังผู้อ่าน ได้อย่างอบอุ่นใจ....

-เปิดสมุดออนไลน์เล่มนี้"อนุรักษ์ผักพื้นบ้าน"ขึ้นมาเขียนบันทึกต้อนรับปีใหม่เป็นปฐมฤกษ์กันหน่อยก็แล้วกันนะครับ กับเรื่องราวของ"สมุนไพร"ที่หากเอ่ยชื่อแล้วผู้อ่านบางท่านอาจจะยังไม่ค่อยคุ้นหูกันมากนัก หากแต่ผู้อ่านท่านใดอยู่ในแวดวงของการแพทย์แผนไทยแล้วละก็ อาจจะมีความรู้และสามารถบอกได้ถึงสรรพคุณของ"สมุนไพร"ชนิดนี้ได้เป็นอย่างดีเลยล่ะครับ...แต่สำหรับตัวผมเองแล้ว"สมุนไพร"ชนิดนี้ืถือเป็นพืชชนิดใหม่ที่น่าสนใจเพราะกว่าจะหาคำตอบได้ว่า"หญ้าชนิดนี้"มันชื่อะไรหนอ? ก็ต้องใช้เวลาในการสืบหาข้อมูลกันพักใหญ่ ๆ เอาเป็นว่า"สมุนไพร"ชนิดนี้จะมีที่มาและสรรพคุณอะไรบ้างนั้น พร้อมแล้วตามผมไปทำความรู้จักกับ"หญ้าม้า"พร้อมๆ กันได้เลยคร้าบ!!!!




1.หลังจากสืบหาข้อมูลจนได้คำตอบที่แน่ชัดแล้วว่า"ต้นหญ้า"ที่ผู้อ่านกำลังเห็นอยู่นี้ชื่อว่า"หญ้าม้า"นั่นเอง ความจริงแล้วตัวผมเองได้เอาตันพันธุ์หญ้าชนิดนี้มาจาก"บ้านพี่แสงเธียร หรือ พี่แดงน้อย ตำบลนครชุม อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร"โดยตอนนั้นได้ข้อมูลจาก"พี่แดงน้อย"ว่าหญ้าชนิดนี้เรียกว่า"หญ้าหวาน"วิธีการกินก็คือนำมาปั่นแล้วคั้นน้ำดื่มแก้โรคต่างๆ เมื่อได้ต้นพันธุ์มาแล้ว ตัวผมก็ได้นำมาปลูกเอาไว้ที่บ้านไร่ Hi Hug House โดยยังไม่ได้หาข้อมูลอะไรเพิ่มเติม จนกระทั่ง"ต้นหญ้า"เจริญเติบโตและขยายกอมากขึ้น จึงมีความสนใจที่จะสืบค้นข้อมูล ผลปรากฎว่าตามหาตามชื่อที่ได้บอกมาคือ"หญ้าหวาน"แต่ข้อมูลที่ได้กลับมีลักษณะของต้นที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นจึงมีความเข้าใจว่า"หญ้าชนิดนี้"คงจะต้องมีชื่อเรียกอย่างอื่นเป็นแน่แท้...จนเมื่อวันที่มีโอกาสได้ไปสัมมนาที่บ้านของ"พี่สมมาตร"ผมจึงได้พบกับ"ต้นหญ้าชนิดนี้"อีกครั้ง แล้วก็ได้สอบถาม"พี่สมมาตร"ว่า"ต้นหญ้าชนิดนี้มีชื่อเรียกว่าอะไร?"คำตอบที่ได้มาก็คือเรียกว่า"หญ้าแส้ม้า"วิธีการนำมากินก็เหมือนกับข้อมูลทีได้จาก"พี่แดงน้อย"ครับ...ผมกลับมาถึงบ้านไร่ Hi Hug House แล้ว ก็รีบเดินไปยัง"แปลงหญ้าที่ปลูกเอาไว้ และได้ลองนำเอามาเคี้ยวชิมดู แต่เพื่อความมั่นใจงานนี้ก็เลยนำมาปั่นแล้วก็คั้นน้ำสีเขียวๆ ชิมดูในวันหยุดที่ผ่านมาครับ...แต่ด้วยความสงสัยว่า"หญ้านี้จะมีชื่อว่า"หญ้าแส้ม้า"จริงๆ หรือเปล่า จึงได้ลองสืบค้นข้อมูลจาก Internet อีกครั้ง ผลปรากฎว่าลักษณะของ"ต้นแส้ม้า"ก็ยังไม่ใช่แบบเดียวกัน ดังนั้นการสืบค้นข้อมูลจึงถูกตั้งเป้าเอาไว้ว่าต้องหาข้อมูลเกี่ยวกับ"หญ้าชนิดนี้"ให้ได้ ลองสืบค้นโดยใช้คำสำคัญและลักษณะของหญ้าและข้อมูลต่างๆ ไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็เจอเข้ากับข้อมูลของ"หญ้าม้า"ครับ..หลังจากนั้น ข้อสงสัยของผมก็สิ้นสุดลง พร้อมกับได้ข้อมูลที่ชัดเจนว่าหญ้าที่กำลังหาข้อมูลอยู่นี้มีชื่อว่า"หญ้าม้า"โดยมีข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือได้บอกเอาไว้ ตามนี้ครับ ฐานข้อมูลสมุนไพร ในฐานสมุนไพรแม่โจ้(ชีวกโกมารภัจจ์) Herbal Maejo University:MMP



2.และเช้านี้ 24/01/60 ตัวผมเองจึงได้เดินไปเก็บ"หญ้าม้า"มาทำยาแบบพื้นบ้านเพื่อลิ้มลองดูอย่างเต็มรูปแบบ โดยได้ศึกษาดูข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถืออีกแห่งหนึ่งนั่นก็คือ"ตำรายาของหมอเขียว"ที่ได้แนะนำเอาไว้ ตามนี้ครับ น้ำคลอโรฟิลล์หญ้าม้า หมอเขียว ว่าแต่จะมีส่วนผสมและขั้นตอนการทำอย่างไรบ้างนั้น ตามผมไปชมพร้อมๆ กันได้เลยครับ....



3.ตามข้อมูลที่ได้มาบอกเอาไว้ว่า"หญ้าม้าเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็น"ดังนั้นหากนำมาผสมกับสมุนไพรที่มีฤทธิ์เย็น เช่น ใบย่านางและใบเตย ด้วยแล้วจะทำให้มีสรรพคุณที่ดียิ่งขึ้นไป มีข้อมูลแบบนี้แล้วตัวผมจึงขอไปเก็บใบเตย/ใบย่านาง ที่มีอยู่ในบริเวณบ้านไร่ มาเพิ่มเติมสูตรยาด้วย เมื่อได้แล้วก็นำมาล้างทำความสะอาดเพื่อเตรียมไปทำยาตามขั้นตอนต่อไปครับ....



4.วิธีการที่ได้รับคำแนะนำมาจาก Internet ได้บอกเอาไว้ว่าควรจะมามาบดให้ละเอียด แต่ทั้งนี้หากใช้เครื่องปั่นจะทำให้ฤทธิ์ของสมุนไพรเกิดการสูญเสียจากความร้อนได้ ดังนั้นวิธีที่เหมาะที่สุดก็คือการ"ตำให้ละเอียดโดยการใช้ครกหิน"นั่นเองครับ สำหรับการทำก็ไม่ยุ่งยากอะไร เพียงแค่หั่นสมุนไพรทั้งสามอย่างให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ เพื่อจะได้สะดวกในการตำ เมื่อละเอียดดีแล้วก็เติมน้ำลงไปเพียงเท่านี้ก็เรียบร้อยแล้วล่ะครับ...



5.ขั้นตอนต่อไปก็คือนำมากรองด้วยกระชอน เพื่อแยกกากออก โดยเราสามารถคั้นน้ำสีเขียวออกมาให้มากที่สุด เพียงเท่านี้เราก็ได้น้ำ"คลอโรฟิลล์"จากธรรมชาติมาไว้สำหรับดื่มแล้วล่ะครับ...สำหรับสรรพคุณต่างๆ นั้นคงต้องหาข้อมูลเพิ่มเติม แต่สำหรับผมแล้ว น้ำสีเขียว ๆ แบบนี้ต้องมีประโยชน์มากๆ อย่างแน่นอน...ว่าแต่รสชาติจะเป็นอย่างไรนั้น ตามผมไปชิมพร้อม ๆ กันดีกว่าครับ..555


6.หลังจากได้"น้ำสีเขียวๆ"จาก"ใบหญ้าม้า/ใบเตย/ใบย่านาง"แล้วก็ถึงเวลาดื่มแล้วแล้วล่ะครับ...สำหรับตัวผมเองแล้วการดื่มน้ำอะไรแบบนี้ไม่ค่อยจะมีปัญหามากนักครับ แต่คนข้างกาย(มดตะนอย)+แม่นันทา อาจจะไม่ค่อยคุ้นชินสักเท่าไหร่ แต่ท้ายที่สุดแล้วแต่ละคนก็ได้ลิ้มลอง"น้ำคลอโรฟิลล์"ที่ตัวผมได้ทำให้ทดลองดื่ม สำหรับรสชาตินั้นก็ไม่มีอะไรที่แปลกไปจากธรรมชาติมากนัก เพราะว่าจะออกรสจืดๆ ไม่มีรสขมแต่อย่างใด ผมเชื่อว่าหากผู้อ่านท่านใดได้ลิ้มลองแล้วก็คงจะไม่ปฏิเสธกับการดูแลสุขภาพแบบ"ธรรมชาติบำบัด"แบบนี้ไปได้อย่างแน่นอนครับ... และสิ่งที่ตัวผมยินดีมากๆ ก็คือตอนนี้ที่บ้านไร่ Hi Hug House มีสมุนไพรดี ๆ เพิ่มขึ้นอีกชนิดหนึ่ง และหากผู้อ่านท่านใดสนใจอยากจะได้"ต้นพันธุ์หญ้าม้า"แล้วละก็ สามารถบอกกล่าวกันได้ และยินดีที่จะแบ่งปันไปให้กับทุก ๆท่านครับ...

สำหรับวันนี้...ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่เข้ามาติดตามอ่านบันทึกนี้...

สวัสดีครับ

เพชรน้ำหนึ่ง+มดตะนอย+แม่นันทา

24/01/2560

Hi Hug House

ปล.ขอขอบคุณข้อมูลที่นำมาใช้อ้างอิงในบันทึกจากที่นี่ด้วยนะครับ

ฐานข้อมูลสมุนไพร มหาวิทยาลัยแม่โจ้

น้ำคลอโรฟิลล์หญ้ามา จาก Youtube

คำสำคัญ (Tags): #หญ้าม้า#สมุนไพรไทย#ใบย่านาง#ใบเตย#ชีวกโกมารภัจจ์#มหาวิทยาลัยแม่โจ้#ฐานข้อมูลสมุนไพร ในฐานสมุนไพรแม่โจ้(ชีวกโกมารภัจจ์)#Hi Hug House#Herbal Maejo University#จังหวัดเชียงใหม่#เจ้าพนักงานเคหกิจเกษตร#บุญส่ง จอมดวง#ปรียารัตน์ จอมดวง#นันทา สืบวงศ์#ไร่เกษตร#บ้านหนองราง#อำเภอพรานกระต่าย#โฮมสเตย์#ท่องเที่ยวเชิงเกษตร#การทำยาสมุนไพร#หมอเขียว#ความสุข#อนุรักษ์ผักพื้นบ้าน#หญ้าสมุนไพร#หญ้าแส้ม้า#หญ้าหวาน#ปลูกผักกินได้#Change to the Best#MRCF#กรมส่งเสริมการเกษตร#แพทย์แผนไทย#ธรรมชาติบำบัด#เกษตรกรรมบำบัด#เศรษฐกิจพอเพียง#ตามรอยพ่อ#แพทย์ทางเลือก#การปลูกหญ้าม้า#คลอโรฟิลล์#Chlorophyll#สุขภาพ#อาหารเพื่อสุขภาพ#สุขภาพดี#ดีท๊อกซ์#ลดไขมัน#โรคประจำตัว#สมมาตร#แสงเธียร พรมมี#แสงเธียร#พี่แดงน้อย#นครชุม#จังหวัดกำแพงเพชร#บำบัดโรค#รักษาโรคมะเร็ง#แม่โจ้#maejo#เคหกิจเกษตร#โภชนากร
หมายเลขบันทึก: 622017เขียนเมื่อ 24 มกราคม 2017 11:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 มกราคม 2017 14:19 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

ดูแล้วน่ากินมาก

เก็บเอาไว้กินนานๆโดยแช่เย็นได้ไหมครับ

ขอบคุณมากๆครับ

-สวัสดีครับอาจารย์ขจิต

-ตามข้อมูลที่ได้มาเขาบอกว่าสามารถเก็บเอาไว้กินได้หลายวันโดยการใส่ตู้เย็นครับ

-แต่ที่บ้านผมมีแบบสด ๆ ดังนั้นขอแบบสดๆ ก็แล้วกันนะครับ 55

-ขอบคุณที่มาเยี่ยมและให้กำลังใจครับ


หวัดดีน้องเพชร

เมืองกำแพงเพชร หนาวไหมน้อง

" หญ้าม้า" ชื่อแปลกดีนะ

ยังไม่เคยเห็นเลย

คิดถึงน้องเพชรน้องมดนะจ๊ะ

-สวัสดีครับพี่ครูมะเดื่อ

-เมืองกำแพงเพชรอากาศกำลังดีเลยครับ

-หญ้าม้า ตามข้อมูลที่ได้มานั้นเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์มากๆครับ

-หากผ่านมาทางนี้พี่ครูจะได้ต้นพันธุ์หญ้าม้าไปปลูกแน่นอนคร้าบ..

-ขอบคุณที่มาแวะเยี่ยมเยียนกันนะครับ

อยากได้พันธุ์หญ้าม้าไม่ทราบพอจะแบ่งขายมั้ยคะ

-สวัสดีครับคุณศรีวรรณ

-ยินดีแบ่งปันให้ครับ

-ช่วยๆ กันขยายพันธุ์ต่อนะครับ

-รบกวนประสานมาทาง E mail [email protected] นะครับ

หญ้าม้าและใยเบญจรงค์เอามาทำเป็นชาได้ไหมคะ

ผมกำลังหาข้อมูลอยู่พอดีเลยครับได้ประโยชน์มากเลยขอบคุณ​ครับ

ผมกำลังหาข้อมูลอยู่พอดีเลยครับได้ประโยชน์มากเลยขอบคุณ​ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท