ผมย้ายมาอยู่ในหมู่บ้านสิวลีติวานนท์เมื่อปลายเดือนสิงหาคม ๒๕๔๐ อยู่มาเกือบ ๒๐ ปี พบว่าตัดสินใจไม่ผิด เพราะเป็นบ้านที่ให้ความสุขสงบร่มเย็นดังหวัง ข้อเสียมีอย่างเดียวคือรถติดมากขึ้นเรื่อยๆ ที่เราก็พอมีทางเลี่ยงได้บ้าง คือออกเดินทางตั้งแต่เช้ามืด
เคยเล่าเรื่องต้นไม้ในบ้านไว้หลายบันทึก เช่นที่ ๑, ๒, ๓ โดยเฉพาะ บันทึกนี้ เล่าเรื่องต้นปาล์มที่บ้านผมเมื่อ ๗ ปีที่แล้ว ตอนนี้ปาล์มเหล่านั้นส่วนใหญ่ถูกตัดไปแล้ว เพราะมันสูงและบังแดด ทำให้บริเวณบ้านร่มครึ้มเกินไป
เช้าวันอาทิตย์ที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๙ อากาศเย็นสบาย ผมไปนั่งเขียน บล็อก ที่สนามหญ้า ที่ต้นหญ้ามาเลเซียกำลังงอกเข้ามาในพื้นสนามส่วนที่หญ้าตายไปเพราะไม่ถูกแดด ตอนนี้มีแดดบ้างเขาก็งอกเข้ามา ผมสังเกตเห็นขุยไส้เดือนดินที่ใหญ่มาก จำนวนมากในสนาม เป็นที่มาของชื่อบันทึกนี้
คือผมถือหลักไม่ฉีดยาฆ่าแมลงในสนามหญ้า และไม่เก็บใบไม้ ปล่อยให้แห้งและถูกย่อยสลายไปเอง ส่วนหนึ่งคงจะเป็นอาหารของไส้เดือน ดินในสนามบ้านผมมีไส้เดือนเต็มไปหมด ขุดลงไปตื้นๆ ก็พบไส้เดือน เอามาเล่าไว้ และอวดภาพด้วย ว่าสนามหญ้าอินทรีย์ก็งอกงามสมบูรณ์ดี โดยในหน้าฝนไม่ต้องรดน้ำ หน้าแล้งเปิดสปริงเกิลพ่นน้ำวันละ ๒๐ นาที
ตอนซื้อบ้าน เขาปูสนามด้วยหญ้านวลน้อย ตอนนั้นบริเวณบ้านโล่ง แดดร้อนเปรี้ยง มีต้นนนทรีย์กับหางนกยูงอยู่หน้าบ้านนอกรั้วบ้านอย่างละต้น ในรั้วบ้านด้านหลังมีต้นปีบ ๒ ต้น ทั้งสี่ต้นนี้เวลานี้ยังอยู่ แต่เมื่อต้นไม้ที่ผมปลูกเริ่มโตมีร่มเงามาก หญ้านวลน้อยเริ่มตาย ผมจึงเอาหญ้มาเลเซียจากบ้านป้าจิตรที่ลาดพร้าวซอย ๘๐ มาปลูกตรงที่หญ้านวลน้อยตาย ในที่สุดสนามหญ้าบ้านผมกลายเป็นหญ้ามาเลเซียทั้งหมด ตอนนี้ที่หน้าบ้านมีต้นไม้ใหญ่ที่ผมปลูกเมื่อเกือบ ๒๐ ปีที่แล้วเป็นร่มเงา ๔ ต้น คือ พญาสัตบรรณ มะเกลือ กระดังงาสงขลา และสะเดา
ผมเคยเล่าเรื่องปาล์ม ๒๒ ชนิดที่บ้านผมเมื่อ ๑๑ ปีมาแล้ว ใน บันทึกนี้
วิจารณ์ พานิช
๑๑ ธ.ค. ๕๙
ไม่มีความเห็น