นี้มีโอกาสได้ร่วมประชุมระดมสมอง งานวิจัยเพื่อพัฒนาระบบการดูแลคนพิการของประเทศ
มีทีมนักวิชาชีพที่มีหน้าที่ทำงานกับคนพิการประเภทต่างๆหลากหลายวิชาชีพ ได้ฟังและเรียนรู้สิ่งใหม่หลายอย่าง
--- ขณะขับรถออกจากกระทรวงสาธารณสุขเพื่อกลับบ้าน นึกถึงถนนสายนี้ที่เคยเดินทางมาและกลับนับครั้งไม่ถ้วน นึกๆดูแล้ว ฉันน่าจะเคยร่วมการประชุมในตึกต่างๆของกระทรวงฯเกือบครบทุกตึก
แต่วัยและวันที่ผ่านไป ก็นำความรู้สึกแปลกใหม่มาให้ทุกคราวที่เข้าไปแลกเปลี่ยนในแวดวงนักวิชาชีพต่างๆ
---เมื่อประมาณสัก 20 ปีก่อน สมัยทำงานเป็นอาจารย์ใหม่ๆ
เคยนั่งรถไปกับอาจารย์สุรศักดิ์ ศรีสุข ในฐานะเสมือน “เด็กถือกระเป๋า” ของอาจารย์ที่เป็นนายกสมาคมกายภาพบำบัด ช่วยจดนั่นเตรียมนี่เพื่อเข้าร่วมประชุมกับหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะกองประกอบโรคศิลปะ ที่ยังคงดูแลวิชาชีพกายภาพบำบัดอยู่ในสมัยนั้น
ทุกครั้งที่ไปจะรู้สึกขัดอกขัดใจ เพราะรู้สึกว่า ไม่มีใครในกระทรวงรู้อะไรเลยเกี่ยวกับกายภาพบำบัด หรือรู้ก็ไม่สนใจ ไม่ให้คุณค่า เพราะเราเป็นวิชาชีพเล็กๆมีคนไม่ถึงพันคนในตอนนั้น
ทุกครั้ง อาจารย์สุรศักดิ์จะพูดให้ฟังเรื่องระบบสุขภาพและบทบาทของวิชาชีพของเราในระบบนี้ ชี้ให้เห็นสิ่งที่คนอื่นมองเรา ให้รู้ว่าเราควรจะมองตัวเองอย่างไร และทำให้รู้ว่าเราต้องทำงานหนักอีกมากเพื่อให้คนรู้จักบทบาทของเรา ว่าเราจะช่วยประชาชนได้อย่างไร
--- วันนี้
เมื่ออยู่ในที่ประชุม ฉันรู้สึกได้ว่ากายภาพบำบัดกลายเป็นวิชาชีพที่มีที่ยืนมั่นคง โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับวิชาชีพอื่นๆในทีมดูแลคนพิการ
ไม่ต้องอธิบายอีกแล้ว ว่าเราเป็นใคร ทำอะไรได้บ้าง
สิ่งที่ต้องทำคือ มองไปข้างหน้าว่าเราจะใช้ความรู้ความสามารถของเราช่วยประชาชนให้มากที่สุดและดีที่สุดได้อย่างไรบ้าง
ฉันนึกขอบคุณพี่ น้อง และเพื่อนนักกายภาพบำบัดทุกคน ที่ช่วยกันสร้างทำสิ่งต่างๆ พิสูจน์ตัวเองมาตลอด
--- ว่างานของพวกเราเป็นงานที่มีคุณค่ากับผู้อื่นมากเพียงใด
ฉันยังขับรถบนถนนสายเดิม ด้วยความรักและภาคภูมิใจในงานของฉันเหมือนเดิม แต่ด้วยความรู้สึกที่เปลี่ยนไปมากมาย
ไม่มีความเห็น