แม่ฮ่องสอน - เมืองในหมอก


    • ห่างหาย จากการบันทึกไปพอสมควร ตั้งแต่มี Facebook จึงตั้งใจกลับมาเขียนเรื่องราวใน Gotoknow อีกครั้งหนึ่ง และพยายามเขียนเรื่อย ๆ ตลอดไป
    • ผมเชื่อว่าหลายคนอยากไปเที่ยวเมืองเหนือในช่วงฤดูหนาว อยากสัมผัสกับอากาศเย็น ที่หายากในเมืองไทย เพราะมีแต่แดดกับฝนเกือบทุกปี จังหวัดที่อยากไป ได้แก่ เชียงใหม่ น่าน เชียงราย และแม่ฮ่องสอน ส่วนผมจังหวัดที่กล่าวถึงไปเกือบหมดแล้วยกเว้น จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีความตั้งใจอยากจะไปตั้งแต่เรียนปริญญาโทที่มห้าวิทยาลัยเชียงใหม่ แต่จนแล้วจนรอดข้ามภูเขาไปไม่ได้สักที เพราะภารกิจทั้งส่วนตัวและเรื่องเรียนรัดตัว แต่ตอนนี้โอกาสมาถึง มีสัมมนาคาบเกี่ยวต่อเนื่องที่เชียงใหม่ 2 สัปดาห์ เสร็จจากเวทีหนึ่ง แล้วหยุด 3 วันต่อเนื่องในวันรัฐธรรมนูญ 10-12 ธันวาคม 2559 และต้องกลับมาจัดสัมมนาเองอีกระหว่าง 13-15 ธันวาคม ที่เชียงใหม่เช่นกัน จึงถือโอกาสนี้ไปซะเลย
    • เสร็จจากสัมมนาวันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม เหมารถตุ๊ก ตุ๊ก หน้าโรงแรมไปอาเขต (บขส. 2) ไปถึงได้เวลาพอดี ได้รถเที่ยวสุดท้ายที่จะเดินทางไปแม่ฮ่องสอน การเดินทางไปแม่ฮ่องสอน จะมีรถวิ่งทั้งกลางวันและกลางคืน กลางวันเที่ยวสุดท้ายหมดประมาณ 14.30 น. ถ้าไม่ทันเที่ยวนี้ก็รอเที่ยวกลางคืน การเดินทางมีทั้งรถตู้และรถทัวร์ ของบริษัทเปรมประชา จำกัด ที่ผูกขาดการเดินทางเชียงใหม่-แม่ฮ่องสอนมากว่า 40 ปีเลยทีเดียว โดยรถตู้จะวิ่งทั้งสองเส้นทาง คือ เส้นแม่สะเรียง-แม่ฮ่องสอน และเส้นปาย-แม่ฮ่องสอน แต่ระยะเวลาในการเดินทางแตกต่างกันมาก เส้นแม่สะเรียงใช้เวลาประมาณ 9 ชม. (รถทัวร์) เทียบได้กับเวลาเดินทางเชียงใหม่-กรุงเทพฯ เลยทีเดียว ในระยะทาง 200 กว่ากิโลเมตร ส่วนเส้นทางปาย วิ่งได้เฉพาะรถตู้เท่านั้น เพราะเส้นทางโค้งและลาดชันมาก แต่ระยะเวลาเดินทางน้อยกว่าเส้นแม่สะเรียน 1 เท่าตัว หรือประมาณ 5 ชั่วโมง


  • ด้วยสภาพเส้นทางที่หฤโหดจริง ๆ คนขับแทบจะไม่ได้พักเพราะเป็นโค้งตลอดทาง จึงมีการทำที่พักรถไว้ 2 จุดใหญ่ เป็นที่พักของรถทั้งขามาและขาไป จุดแรก เป็นโอเคมาร์ค มีห้องน้ำร้านอาหาร พร้อม เป็นครึ่งทางก่อนถึงปาย แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของแม่ฮ่องสอน ใครไปเที่ยวปาย ก็ต้องผ่านเส้นนี้ และถึงปายก่อนแม่ฮ่องสอน
  • รถเดินทางผ่านเมืองปายประมาณ 6 โมงเย็น และแวะจอดจุดต่อมา จะแวะจอดที่จุดจอดอำเภอปางมะผ้า ซึ่งถึงเวลามืดค่ำแล้ว จุดนี้มีห้องน้ำเช่นกันแต่สภาพห้องน้ำดูไม่ค่อยจะดีนัก แต่ก็ไม่มีทางเลือก บางคนก็ถือโอกาสเติมพลังอีกรอบ เพราะเริ่มหิวกันแล้ว
  • รถเดินทางมาถึง เมืองแม่ฮ่องสอน เร็วกว่ากำหนดประมาณ 45 นาที เพราะตามตารางเดินทางน่าจะมาถึงประมาณ 20.30 น. แต่นี่มาถึงเพียง 19.45 น. แต่การขับรถของพนักงานขับรถ ถือว่าปลอดภัย (หรือว่าเรานั่่งแถวหน้าไม่รู้สึกหวาดเสียวเหมือนแถวหลังของรถ)
  • ถึงแม่ฮ่องสอน รถ ถนนโล่งแล้ว ลงจอดที่หน้าไปรษณีย์ ที่นัดหมาย และเป็นที่ตั้งของ "ถนนคนเดิน" เมืองแม่ฮ่องสอน ที่มีทุกคืน เป็นถนนคนเดินเล็ก ๆ ระยะทางโดยรวมประมาณ 500 เมตร ผู้คนพอประมาณ เพราะบางส่วนกำลังเดินทาง ยังอยู่ที่เมืองปาย ยังมาไม่ถึงกัน อากาศเย็นสบาย ๆ ไม่หนาวมาก เพราะแม่ฮ่องสอนอยู่ในหุบเขา ลมจึงไม่ค่อยจะมี ถนนคนเดิน ตั้งรอบสระหน้าวัดจองทอง เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามแบบไทใหญ่
  • ที่
  • อันที่จริง ผมมาตามคำชวนของ "น้องนิค" เป็นรุ่นน้อง สมัยเรียน มอ.ปัตตานี ที่ไม่เจอกันมากว่า 20 ปี มีครอบครัวและบ้านเดิมก็เป็นคนที่นี่ และขายของที่ถนนคนเดินนี้ด้วย โดยเธอเป็นคนส่งเสริมให้แม่บ้านชาวเขาชาวกะเหรียงที่ทอผ้าใช้เองอยู่แล้ว ทอตามแบบที่เธอช่วยออกแบบให้ตรงตามความต้องการของตลาด เพื่อให้คนเหล่านี้ได้มีงานทำ และรายได้เลี้ยงชีพอีกทาง โดยเขาจะเอาด้ายไปให้และบางคนสอนให้ทำ ตอนนี้มีเครือข่าย 100 กว่าคน มีลูกค้าในกรุงเทพฯ เมืองเชียงใหม่ ต้องการให้ส่งตลอดเวลา และตั้งเป้าหมาย เปิดตลาดต่างประเทศในอนาคต ผมไปถึงสังเกตดู ร้านเธอขายดี มีลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างประเทศเข้ามาซื้อตลอดเวลา และทุกคนที่แวะมา แทบไม่พลาด เพราะเธอมีศิลปะในการขาย ที่แตกต่างจากคนอื่น โดยตั้งราคาจริงและราคาต่อไว้ให้เสร็จสรรพ เพราะรู้ว่า คนไทย ชอบต่อราคาสินค้า แต่การต่อโดยอิสระ ทำให้แต่ละคนได้ราคาไม่เท่ากัน เธอจึงตั้งราคาต่อไว้ให้ในราคาที่เท่ากัน ดังนั้นทุกคนที่ซื้อจากร้านของเธอ จึงได้ราคาที่เท่ากันทุกคน แต่ก็มีหนุ่มคนหนึ่งไม่ยอมซื้อราคาต่อ -ซื้อราคาจริง นอกจากนี้ ก่อนหน้านี้น้องคนนี้เคยทำงานกับองค์กรระหว่างประเทศ ตั้งแต่จะจบปริญญา (เธอเรียนไม่จบ เพราะไม่อยากจบเอง เธอเล่าว่าระหว่างฝึกงานปี 4 ตอนใกล้จบ ฝรั่งถามจะทำงานที่นี่ไหม เธอตอบยินดีถ้ารับ แต่ฉันไม่จบปริญญาน๊ะ แต่ตอนฝึกงานฝรั่งเห็นฝีมือ จึงไม่ถือเรื่องใบปริญญา) ดังนั้นภาษาอังกฤษของเธอในการสื่อสารกับนักท่องเที่ยวต่างประเทศอยู่ในเกณฑ์ดี
  • น้องนิค เธอเป็นคนขยันและมีรูปแบบการขาย การทำงานที่น่าสนใจ ตอนกลางวัน เธอและสามีช่วยกันทำขนมปังขาย โดยจะนำไปขายยังพื้นที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เช่น ปางอุ่ง ปาย หรือบางครั้งไปรับเสื้อผ้าที่ทอ ก็พาขนมไปด้วย เธอบอกว่า "เป็นการเดินทางของชีวิต" ทุกระยะเวลา สามารถทำงานสร้างงาน รายได้ทั้งหมด ไม่ปล่อยให้มันเสียไป ถ้าเรามองหาโอกาส โอกาสมันก็มี ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ ถ้าจะทำ เป็นข้อคิดที่ผมได้ระหว่างเธอพาไปเที่ยวและทำงานไปด้วย ตอนไปส่งขนมปังให้ลูกค้าที่ ปางอุ่ง แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่ออีกแห่งของแม่ฮ่องสอน และบ้านรักไทย ที่อยู่ใกล้ ๆ เธอบอกว่า ปกติจะพาขนมมาเต็มคันรถ วันนี้พาพี่มาเที่ยว แต่ทำงานไปด้วย จึงพาเพียงเล็กน้อย แต่เล็กน้อยของเธอ ประมาณ 50 ชิ้น ๆ ละ 20 บาท ก็มีรายได้จิ๊บ ๆ ร่วม 1,000 บาทแล้ว เธอเล่าให้ฟังว่า ครั้งหนึ่งพาขนมไปขายที่ท่องเที่ยวอย่างนี้ มีนักท่องเที่ยวบางคน คิดสงสาร ถามเธอว่า "มาขายไกลขนาดนี้คุ้มหรือ" เธอตอบว่า "วันนี้ขายได้ 2-3 หมื่นแล้วค๊ะ" - เธอบอกตอบเว่อไปนิด แต่บอกให้รู้ว่า อย่าดูถูกสิ่งเล็กน้อย
  • ยง
  • เมืองแม่ฮ่องสอนในช่วงฤดูหนาวนี่ อากาศดีจริง ๆ ผมเดินรอบเมือง เหงื่อไม่ออก เดินดูโน่น นี่ แม้ไม่มีอะไรมากมาย แต่ก็มีความสุข และรู้สึกปลอดภัย ตอนบ่ายสี่โมง เดินไปยังวัดจองคำอีกรอบ ดูข้างใน และเดินไปเรื่อย ๆ และไปถึงสถานีขนส่ง เพื่อดูว่า ถ้ากลับ 10 เชียงใหม่ไปทางแม่สะเรียงจะไปอย่างไร แล้วเดินกลับมา ระยะทางโดยรวม ร่วม 10 กม. แต่ไม่มีเหงือสักหยด (ช่วงหนาวน๊ะ)

  • ตอนเช้าของเมืองแม่ฮ่องสอน เงียบสงบ และเป็นวันหยุดด้วย จึงแทบไม่มีรถวิ่ง ผมจึงเดินสำรวจไปทั่วเมือง ตลาดสดขนาดใหญ่ เรียว่า "ตลาดสายหยุด" ซึ่งผมสัญนิษฐานว่า เขาคงขายตอนเช้า สาย ๆ ก็หยุดขาย มีสินค้าพื้นเมืองมากมาย มีนักท่องเที่ยวตักบาตรพระ ที่เดินบินฑบาตร ไม่ขาดสาย และมาสะดุดตากับกล้วยน้ำว้า หวีละ 10 บาท ที่หายากราคานี้ใน กทม. และจังหวัดอื่น ๆ
  • เดินไปอีกหน่อย พบสถานที่น่าสนใจ อีกแห่ง "โหย่งกาด" ผมสงสัยมันเป็นอะไร ไม่เคยรู้จัก พอไปอ่านประวัติที่เขียนไว้ บอกว่า เมื่อก่อนตรงนี้เป็นที่พบปะของผู้คน มีการเล่นกิจกรรมต่าง ๆ เมื่อมีข่าวสารทั้งหลายก็มาประกาศกันที่นี่โดยกำนันผู้ใหญ่บ้านประชุมมา แต่พอยกเลิกกำนันผู้ใหญ่บ้านในเขตเทศบาล ก็หมดไป แต่ก็ปรับมาเป็น "โหย่งกาด" สมัยใหม่ คือที่ตั้งของ กลุ่ม องค์กรชุมชนต่าง ๆ นั้นเอง

  • วันสุดท้าย รีบตื่นเช้า เพื่อเดินทางเข้าเมืองเชียงใหม่ แต่ตั้งใจเดินทางไปเส้นแม่สะเรียง จะได้ชมอำเภอต่าง ๆ ว่าเป็นเช่นไร ถึงแม้มันจะใช้เวลามากก็ตาม และรถที่เดินทางเส้นนี้ มีทั้งรถตู้และรถบัส แต่ตั้งใจนั่งรถบัส เพราะอยากรู้มันเป็นอย่างไร และรถบัสไปเมืองเชียงใหม่มีเพียงเที่ยวเดียว คือ 08.00 น. จึงรีบออกเดินทางไป ซื้อตั่ว ราคา 150 บาท กะจะลงอำเภอฮอด ไปต่อ อำเภอดอยเต่า แต่พอขึ้นรถ คนน้อยมาก มีฝรั่งเดินทางไปด้วยหลายคน แม้ไม่เป็นรถแอร์ แต่อากาศที่หนาวเย็นบนดอยตลอดเส้นทาง จึงเหมือนติดแอร์ ไปตลอดเส้นทาง

  • แต่เมื่อเดินทางมาถึงอำเภอแม่สะเรียง รุ่นน้องที่เรียน ป.โท ที่เชียงใหม่ด้วยกัน โทรมาชวนให้ไปพักที่ อำเภอสันป่าตอง ก็เลยปฏิเสธไม่ได้ แผนการเดินทางไปดอยเต่าจึงยกเลิก อย่างไรก็ดีเมื่อมาถึงอำเภอฮอด ที่เป็นปลายทางของการซื้อตั๋วไว้ ถามคนขับรถจะเก็บเพิ่มเท่าไหร่ ถ้าไปลงที่สันป่าตอง คนขับบอกว่า "นั่งมาทั้งวันแล้วนั่งต่อไปเถอะ" 555 ผมลืมเล่าไปนิดหนึ่ง รถทัวร์เส้น แม่ฮ่องสอน - แม่สะเรียง - เชียงใหม่นี้ ขับคนเดียว ไม่มีกระเป๋ารถ หรือคนเก็บตังค์ ดังนั้น คนขับต้องเก็บเงินเอง ตอนผู้โดยสารขึ้นรถ ก็ต้องจ่ายที่คนขับเลย
  • ถึงหน้าที่ว่าการอำเภอสันป่าตอง ประมาณ 17.00 น. นับระยะเวลาในการเดินทาง รวมเวลาที่หยุด ออก เดินทาง 08.00 น. รวม 9 ชั่วโมง แต่ไม่รู้สึกเหนื่อย เพราะอากาศเย็นสบาย ๆ แต่ถ้าช่วงฤดูฝน และร้อน ก็อีกบรรยากาศหนึ่งแน่นอน

  • ท่านใดลองสัมผัสบรรยากาศเช่นนี้ เชิญครับ ฤดูหนาว อีกประมาณเกือบ 3 เดือน ยังพอมีเวลา
หมายเลขบันทึก: 620309เขียนเมื่อ 16 ธันวาคม 2016 23:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 ธันวาคม 2016 23:50 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท