จดหมายจากคุณป้า
ก่อนคุณป้าจากไปครึ่งชั่วโมง คุณป้าเขียนจดหมายฉบับนี้ให้ผม
อันที่จริงถ้าวันนั้นผมไปทันดูใจ คุณป้าคงไม่ต้องเขียนจดหมายฉบับนี้ แต่เหตุการณ์วันนั้นเกิดขึ้นปุบปับมาก ลูกชายคุณป้าซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของผมโทรมาบอกว่า คุณป้ากำลังจะเสียแล้วให้รีบมา
ระยะทางจากบ้านที่อยู่ชานเมือง กับโรงพยาบาลในตัวเมือง ช่วงห้าโมงเย็นที่การจราจรแน่นขนัด ช่างดูห่างไกลและเนิ่นนานยิ่งนักกว่าจะไปถึงจุดหมาย
ผมได้รับจดหมายฉบับนี้จากลูกชายคุณป้าในวันสวดศพ ผมแกะซองจดหมาย ลายมือของคุณป้าในวาระสุดท้ายเหมือนลายมือของเด็กเริ่มหัดเขียน คงเพราะแรงจับปากกาเหลือน้อยเต็มที
ลายมือดังกล่าวทำให้ความทรงจำของผมที่มีต่อคุณป้ากลับมาอีกครั้ง
ตั้งแต่เด็ก ๆ ผมกับคุณป้าสนิทกันมาก ผมอยากได้จักรยานคันละพันเหมือนเพื่อน หรือพี่พลอยอยากได้กางเกงยีนส์ลีวายส์ตัวละหลายพัน คุณป้าก็จะซื้อให้ และไม่เคยมานั่งคิดชั่งใจว่าจะซื้อให้หลานดีไหม ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นของเหล่านั้นเป็นของที่มีราคาสำหรับครอบครัวของเราสามแม่ลูก
เวลาที่ผมอยากได้อะไร คุณป้ามักจะให้เกือบทุกครั้ง แม้วันนี้คุณป้าจะจากไปแล้ว ผมก็ยังระลึกถึงพระคุณของคุณป้าเสมอ
ผมพยายามอ่านข้อความในจดหมาย แม้ลายมือจะดูยึกยือไปสักหน่อย แต่ก็พออ่านได้ว่า...
ทุนชีวิตที่มีคุณค่าที่สุดที่เรามีทุกคนนั้นคือ แม่ แม้แต่คนที่มีการศึกษามาน้อยที่สุดก็รู้ว่า ความรักของแม่เป็นยังไง
สิ่งที่ป้าอยากบอกเรา คือ คนเราไม่ได้มีวันหมดอายุระบุไว้ที่ข้างกล่อง ฉะนั้นจงกอดและทะนุถนอมคนที่เรารักไว้ตราบเท่าที่เราทำได้อย่างลูกผู้ชาย และอย่าปล่อยให้เขาหลุดจากเราไปนะ พ่อหนุ่มของป้า
คือคำที่ป้าสอนก่อนจะเสียชีวิต เพื่อให้ตระหนักถึงคุณค่าของคนรอบตัว
"คนเราไม่ได้มีวันหมดอายุระบุไว้ที่ข้างกล่อง" ประโยคนี้ของป้าทำให้ผมถึงแม่ เพราะทุกครั้งเวลาจะกินอะไร แม่จะถามเสมอว่า
"ดูวันหมดอายุแล้วหรือยัง"
แม่ถามทุกครั้ง จนผมถามกลับว่า ทำไมต้องซีเรียสขนาดนั้น
"เพราะมันเสียแล้วก็คือเสียเลย กินไม่ได้แล้ว"
คนก็เช่นกัน ผมคิด แต่อย่างน้อยของยังมีกำหนดเวลาไม่เหมือนชีวิตคนเราที่ไม่รู้ว่าจะหมดอายุวันไหน
ผมรู้สึกว่า ความตายเป็นเรื่องธรรมดา และมองความตายเป็นเรื่องใกล้ตัวมากขึ้น อาจเพราะชีวิตผมในช่วงนี้ มีคนแต่งงานและคนเสียชีวิตเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็ไม่ชอบความตาย และคงไม่มีใครชอบความตายหรอกครับ เหมือนกับที่เราไม่ชอบของหมดอายุ
ความตายจะทำให้เราไม่ได้เจอกันอีก เช่นเดียวกับที่ความตายทำให้ผมไม่ได้เจอคุณป้า และทำให้ผมไม่ได้เจอใครอีกหลาย ๆ คนที่ผมรัก
แต่ไม่ว่าอย่างไร วันหนึ่งวันหมดอายุก็ต้องมาถึง สิ่งที่เราทำได้ก็แค่เพียง กอดและทะนุถนอมคนที่เรารักไว้ตราบเท่าที่เราทำได้
คุณป้าจากไปหลายปีแล้ว แต่ผมยังจดจำข้อความในจดหมายฉบับนั้นได้ดี
..................................................................................................
ผมชอบเรื่องราวในตอนนี้ที่คุณฌอห์ณเขียนไว้มาก
ทุนชีวิตที่มีคุณค่าที่สุดที่เรามีทุกคนนั้นคือ แม่
คุณป้าเขียนจดหมายน้อยทิ้งไว้ให้ ... ดีจริง ๆ
บุญรักษา ทุกท่านครับ ;)...
...................................................................................................
ขอบคุณหนังสือดี ๆ ...
ฌอห์ณ จินดาโชติ. Present Perfect เพราะวันนี้...ดีที่สุดแล้ว. พิมพ์ครั้งที่ ๑๗.
กรุงเทพฯ : อะบุ๊ก, ๒๕๕๗.
ชอบใจข้อความ "คนเราไม่ได้มีวันหมดอายุระบุไว้ที่ข้างกล่อง" ..
เข้าใจเลยครับ
ใช่ครับ อาจารย์ ขจิต ฝอยทอง ;)...