ประวัติพระเอตทัคคะ (ตอนที่ ๖) : พระกาฬุทายีเถระ เอตทัคคะในทางผู้นำตระกูลให้เลื่อมใส


"ประวัติพระเอตทัคคะ (ตอนที่ ๖) : พระกาฬุทายีเถระ เอตทัคคะในทางผู้นำตระกูลให้เลื่อมใส"

ขอนอบน้อมด้วยเศียรเกล้าแด่พระผู้มีพระภาค อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ธรรมะรับอรุณ ณ บ้านเย็นยิ้ม

วันพุธที่ 14 ธันวาคม 2559

- - - - - - - - - - - - - - - - - -


"ความปรารถนาในอดีต"

ในกัปที่แสนแต่ภัทรกัปนี้ไปในสมัย พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า ปทุมุตตระ ครั้งนั้นท่านได้เกิดในสกุลอำมาตย์ในพระนครหงสวดี มีทรัพย์และธัญญาหารเหลือล้น ท่านได้เข้าไปยังพระวิหารหังสาราม ถวายบังคมพระตถาคตพระองค์นั้น เมื่อได้สดับธรรมอันไพเราะ และทำสักการะแด่พระปทุมุตตระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้เห็นพระศาสดาทรงตั้งภิกษุรูปหนึ่ง ไว้ ในตำแหน่งแห่งผู้ทำสกุลให้เลื่อมใส จึงได้หมอบลงแทบเบื้องพระบาท แล้วได้กราบทูลว่า ขอให้ท่านได้เป็นภิกษุผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลาย ฝ่ายผู้ทำสกุลให้เลื่อมใส ในศาสนาของพระพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่ง เหมือนเช่นภิกษุรูปนั้นเถิด

ครั้งนั้น พระปทุมุตตระบรมศาสดาผู้ประกอบด้วย พระมหากรุณา ได้ตรัสพยากรณ์แก่ว่า ท่านจะได้ฐานันดรนี้สมดังปรารถนาปรารถนา บุคคลใดเมื่อได้ทำสักการะในพระสัมพุทธเจ้าแล้ว ย่อมไม่เป็นผู้ปราศจากผล ในกัปที่แสนแต่กัปนี้ ท่านจะได้เกิดในศาสนาของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าอันมีพระนามว่า โคดม ผู้สมภพในวงศ์พระเจ้าโอกกากราช ท่านจะได้ชื่อว่ากาฬุทายี ครั้งนั้นเมื่อท่านได้สดับพระพุทธพยากรณ์แล้ว ท่านก็เป็นผู้เบิกบาน มีจิตประกอบด้วยเมตตา บำรุงพระบรมศาสดาด้วยปัจจัยทั้งหลาย ตราบเท่าสิ้นชีวิต เพราะวิบากของกรรมนั้นและเพราะตั้งเจตน์จำนงไว้ เมื่อท่านสิ้นชีวิตแล้ว ได้ไปสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

- - - - - - - - - - - - - - - - - -

"ในกาฬุทายีเถราปทาน ได้กล่าวถึงพุทธพยากรณ์ในอีกลักษณะหนึ่งดังนี้"

ในกัปที่แสนแต่ภัทรกัปนี้ไป ในสมัยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า ปทุมุตตระ เมื่อพระพุทธเจ้าพระองค์นั้นได้เสด็จดำเนินทางไกล เที่ยวจาริกไป ในเวลานั้น ท่านได้ถวายดอกปทุม ดอกอุบล และดอกมะลิซ้อนอันบานสะพรั่ง และถวายข้าวสุกชั้นเยี่ยมแด่พระศาสดา พระบรมศาสดาทรงเสวยข้าวชั้นพิเศษ และทรงรับดอกไม้นั้นแล้ว ทรงอนุโมทนาว่า การกระทำดังกล่าวเป็นกรรมที่ทำได้ยากนัก และได้พยากรณ์ท่านว่าท่านจะได้เสวยเทวสมบัติ ๑๘ ครั้ง จะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๒๕ ครั้ง จะได้เป็นพระราชาในแผ่นดินครอบครองพสุธา ๕๐๐ ครั้ง ในกัลปที่แสน พระศาสดามีพระนามชื่อว่าโคดม ซึ่งมีสมภพในวงศ์พระเจ้าโอกกากราช จะเสด็จอุบัติในโลก ท่านจะรับกุศลกรรมที่ได้ทำไว้นี้ โดยจะได้เป็นบุตรผู้มีชื่อเสียง มีนามว่าอุทายี เป็นผู้ทำความเพลิดเพลินให้เกิดแก่เจ้าศากยะทั้งหลาย แต่ภายหลัง ก็จะบวชเป็นสาวกของพระศาสดา จะบรรลุอรหัตผล และพระบรมศาสดาพระองค์นั้นจะตั้งท่านไว้ในเอตทัคคสถาน บรรลุคุณวิเศษเหล่านี้ คือปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ ดังนี้

- - - - - - - - - - - - - - - - - -

"กำเนิดสหชาติ ๑ ใน ๗ ครั้นพุทธกาล"

ครั้งกาลสมัยพระสมณโคดม สัมมาสัมพุทธเจ้าของเราอุบัติ พระกาฬุทายีเกิดในตระกูลอำมาตย์ ในกรุงกบิลพัสดุ์นั่นเอง ในวันเดียวกับวันประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะนั่นเอง โดยถือว่าท่านเป็นสหชาติ ๑ ใน ๗ อย่างที่เกิดขึ้นพร้อมพระโพธิสัตว์ คือ ต้นโพธิพฤกษ์ ๑ ขุมทรัพย์ ๔ แห่ง ๑ ม้ากัณฐกะ ๑ มารดาของพระราหุล (พระนางพิมพา) ๑ อานนท์ ๑ นายฉันนะ๑ และกาฬุทายีอำมาตย์ ๑ รวม ๗ อย่าง

- - - - - - - - - - - - - - - - - -

"ชาติกำเนิดในสมัยพุทธกาล"

พระกาฬุทายีเป็นบุตรมหาอำมาตย์ ในกรุงกบิลพัสดุ์ เป็นสหชาติ คือ เกิดพร้อมกับพระมหาบุรุษ เดิมชื่อว่า อุทายี ท่านกล่าวว่า อุทายีกุมารนั้น เป็นคนมีผิวพรรณค่อนข้างดำ ดังนั้น ชนทั้งหลายจึงเรียกว่า กาฬุทายี เมื่อเจริญเติบโตแล้ว ได้ถวายตัวเป็นมหาดเล็กในพระมหาบุรุษเจ้า ซึ่งเป็นผู้มีความคุ้นเคยสนิทสนม กับพระมหาบุรุษเป็นอย่างดี

ครั้นพระมหาบุรุษเสด็จออกทรงผนวช ได้ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว เสด็จเทศนาสั่งสอนแก่เวไนยสัตว์ และประทับอยู่ในกรุงราชคฤห์ พระเจ้าสุทธโธทนะพุทธบิดาทรงทราบ มีพระประสงค์ใคร่จะทอดพระเนตรพระราชโอรส จึงมีพระราชโองการรับสั่งใช้อำมาตย์คนหนึ่งพร้อมทั้งบริวารอีกหนึ่งพันคน ให้ไปทูลเชิญเสด็จสมเด็จพระบรมศาสดา อำมาตย์รับพระราชโองการแล้วพาบริวารไปเฝ้าพระบรมศาสดา ครั้นได้ฟังพระธรรมเทศนาบรรลุอรหัตตผลแล้ว พร้อมทั้งบริวารก็ทูลขออุปสมบทในพระธรรมวินัย เมื่อได้อุปสมบทแล้ว ก็ไม่ได้ทูลเชิญสมเด็จพระบรมศาสดา และไม่ได้ส่งข่าวให้พระเจ้าสุทโธทนะทรงทราบ ส่วนพระเจ้าสุทโธทนะ เมื่อไม่เห็นพระราชโอรสเสด็จมา แม้แต่ข่าวคราวก็ไม่ได้รับทราบ จึงใช้อำมาตย์พร้อมด้วยบริวารหนึ่งพันคนไปอีก อำมาตย์พร้อมทั้งบริวารเหล่านั้นก็ไปบวชเสียโดยไม่ได้ส่งข่าวให้ทราบโดยนัยก่อนถึง ๙ ครั้งแล้ว ครั้นถึงวาระที่ ๑๐ จึงตรัสสั่งให้กาฬุทายีอำมาตย์ซึ่งเป็นคนที่คุ้นเคย และโปรดปรานของสมเด็จพระบรมศาสดา ไปทูลเชิญเสด็จ กาฬุทายีอำมาตย์ทูลลาบวชด้วย ครั้นได้รับพระบรมราชานุญาตแล้ว ก็พาบริวารหนึ่งพันคนไปเผ้าพระบรมศาสดาที่พระเวฬุวันได้ฟังพระธรรมเทศนาจนบรรลุพระอรหัตตผลแล้ว พร้อมด้วยบริวารก็ทูลขออุปสมบท ในพระธรรมวินัย พระพุทธองค์ทรงอนุญาตให้เป็นภิกษุ ด้วยวิธีเอหิภิกขุ

ครั้นกาฬุทายีอำมาตย์ได้อุปสมบทแล้ว เมื่อถึงเหมันตฤดู ท่านเห็นว่าเป็นกาลสมควรที่จะทูลเชิญ สมเด็จพระบรมศาสดา จึงกราบทูลพรรณนาหนทางที่จะเชิญ สมเด็จพระบรมศาสดาให้เสด็จสู่พระนคร ด้วยคาถา ๖๐ บท แล้วทูลเชิญสมเด็จพระบรมศาสดา พร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์เป็นพุทธบริวาร เสด็จไปสู่กรุงกบิลพัสดุ์ เมื่อท่านกาฬุทายีทราบว่า พระบรมศาสดาจะเสด็จไปยังพระนครกบิลพัสดุ์จึงเดินทางล่วงหน้าไปก่อนเพื่อแจ้งข้อความนั้นให้พระเจ้าสุทโธทนะทรงทราบ พระมหากษัตริย์พร้อมด้วยพระประยูรญาติ และประชาชนเกิดความเลื่อมใส พร้อมกับถวายอาหารบิณฑบาตแก่ท่านทุก ๆ วันที่มาแจ้งข่าว

ส่วนสมเด็จพระบรมศาสดา ซึ่งมีภิกษุสงฆ์สองหมื่นรูปเป็นพุทธบริวาร เสด็จออกจากกรุงราชคฤห์ ในขณะที่กำลังเสด็จมาตามหนทางอยู่นั้น ท่านกาฬุทายีได้มาสู่สำนักของพระเจ้าสุทโธทนะ เพื่อแจ้งระยะทางที่พระพุทธองค์เสด็จมาถึงให้ทรงทราบ พระมหากษัตริย์ได้ถวายอาหาร บิณฑบาตแก่ท่านแล้ว ท่านก็ได้นำไปถวายแก่สมเด็จพระบรมศาสดาทุก ๆ วัน เมื่อเสด็จมาตามหนทาง วันละโยชน์มีกำหนด ๖๐ วัน จึงถึงกรุงกบิลพัสดุ์ เสด็จประทับอยู่ ณ นิโครธาราม

ท่านพระกาฬุทายีเถระได้เป็นกำลังสำคัญ ของพระบรมศาสดาในการประกาศพระศาสนา โดยได้เทศนาสั่งสอนให้มหาชนเกิดความเชื่อ ความเลื่อมใส ด้วยความสามารถของท่านในเรื่องนี้ ดังนั้น ท่านพระกาฬุทายี จึงได้รับยกย่องจากสมเด็จพระบรมศาสดาว่า เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลาย ผู้ยังสกุลที่ยังไม่เลื่อมใส ให้เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ต่อมาเมื่อท่านดำรงชนมายุสังขารอยู่โดยสมควรแก่กาลเวลาแล้วก็ดับขันธปรินิพพาน

- - - - - - - - - - - - - - - - - -

อ้างอิง : หนังสือ "เอตทัคคะ ในพระพุทธศาสนา" โดยพระครูกัลยาณสิทธิวัฒน์ (สมาน พรหมอยู่ / กัลยาณธัมโม)

เว็บไซต์ : Dhammathai; Wikipedia; Dharma-Gateway.

Cr. รูปภาพจากอินเทอร์เน็ต

แนะนำศึกษาเพิ่มเติม :

(๑) "ภิสชาดก" เมื่อถือกำเนิดเป็นท้าวสักกะ พระพุทธองค์เสวยพระชาติ ร่วมกับพระสารีบุตร พระโมคคัลลานะ พระกัสสปะ พระอนุรุทธะ พระปุณณะ และ พระอานนท์ เป็น ๗ พี่น้อง

(๒) "มโหสถบัณฑิตชาดก" เมื่อถือกำเนิดเป็นพระเจ้าวิเทหราช พระพุทธองค์เสวยพระชาติเป็นมโหสถบัณฑิต

...

ธรรมะรักษา วิปัสสนาคุ้มครองค่ะ

อจ.พิณจ์ทอง แมนสุมิตร์ชัย (ฉัตรนะรัชต์)

ขอน้อมอุทิศถวายบุญกุศลเป็นพระราชกุศลแด่

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ

หมายเลขบันทึก: 620195เขียนเมื่อ 14 ธันวาคม 2016 09:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 ธันวาคม 2016 09:28 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท