วันที่ 7 ลอย ลอยกระทง (14 พฤศจิกายน 2559)

วันนี้ตรงกับประเพณีลอยกระทงของไทยเรา แต่เงียบเหงาเป็นพิเศษค่ะ เนื่องด้วยชาวไทยเราได้สูญเสียพ่อหลวง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.9 ของเราไป การจัดงานรื่นเร่งต่าง ๆ ก็ไม่จัดกันมากนัก

เดินทางไปโรงเรียนอต่เช้าเหมือนเช่นเคยค่ะ เช้านี้เป็นโอกาสพิเศษที่เราจะได้ร่วมกันทำบุญตักบาตรในวันธรรมสวนะ ทางโรงเรียนได้มีการเชิญพระสงฆ์มารับบิณฑบาตภายในโรงเรียน วันพระครั้งนี้เป็นโอกาสของนักเรียนชั้น ป.3 ค่ะ(แต่ชั้นอื่นถามเตรียมมาก็ร่วมได้ค่ะ)

หลังจากที่นักเรียนใส่บาตรเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาเข้าแถว ก่อนทำกิจกรรมหน้าเสาธง ก็มีการฟังเทศน์และรับพรกันก่อนค่ะ

ภาคเช้าวันนี้ไม่มีสอนค่ะ เพราะวันนี้มีสอนแค่คาบรองสุดท้าย วิชาสุขศึกษา ป.3/1 ช่วงนั้นก็ช่วยงานครูประจำชั้นค่ะ ช่วยจัดเรียง เขียนชื่อ และแจกอุปกรณ์ของนักเรียน เตรียมเนื้อหาวิชาสุขะ

พอได้เวลาสอน ก็ตั้งใจกว่าห้องอื่น เพราะเนื่องจากเด็กห้องนี้อ่านหนังสือไม่ได้ครึ่งห้อง หรืออาจจะมากกว่านั้น และเรียนช้า เรียนไม่ทันห้องอื่น ก็เลยคิดว่าต้องกลับไปสอนย้อนหลังเรื่องเดิมก่อน แล้วจึงจะขึ้นเรื่องใหม่ แต่ปรากฏว่า พอเดินเข้าไปในห้อง นักเรียนกำลังเตรียมอุปกรณ์ทำกระทงขึ้นมาว่างบนโต๊ะของตัวเองเรียบร้อยแล้ว จึงไม่กล้าเข้าห้อง รอครูประจำชั้นมาถึง สักพักครูประจำชั้นก็เดินมา แล้วบอกว่านักเรียนจะทำกระทงคาบเดียวทันหรือเปล่า

แล้วก็หันมาถามเราว่า ช่วยเด็กทำกระทงก่อนเนอะ ครูกลัวจะทำไม่เสร็จ ส่วนเราเองก็ปฏิเสธไม่ได้ จะบอกว่ายังไงละ ยืนยันจะสอนก็คงไม่ได้ ครูท่านขอมาแบบนี้ เราก็เลยต้องปล่อยไปตามสถานการณ์

สุดท้ายห้องนี้ ที่เรียนช้าอยู่แล้ว ก็ไม่ได้เรียนในคาบนี้ และต้องมาช่วยสอนทำกระทง แค่นั้นไม่พอ ยังมีถามคาบสุดท้ายว่าว่างหรือเปล่า ปกติคาบสุดท้ายจะเป็นวิชาเพิ่มค่ะ ที่นักเรียนจะเรียนกับครูประจำชั้น แล้ววันนี้เราก็มีงานแล้วค่ะ ต้องไปตรวจวัดสายตาให้นักเรียนชั้น ป.4/2 วัดตาบอดสีค่ะ ก็เลยขอตัวออกมาในคาบสุดท้ายได้

อย่างที่ทราบ ๆ กันดีค่ะ ว่าการเรียนการสอนที่เตรียมมา บ้างครั้งก็ตรงกับวันเวลาที่กำหนด เพราะมักจะมีกิจกรรมต่าง ๆ มาแทรกค่อนข้างเยอะ คนเป็นครูอย่างเราต้องเตรียมใจยอมรับ และรับมือให้ทันทุกสถานการณ์นะคะ

ตอนนี้ก็ห่วงแต่ว่าจะสอนเนื้อหาได้ไม่ทันแค่นั้นแหละค่ะ

ดาวพลัดถิ่น