</header> Oct 13, 2016 51 157,422
shares
MThai ขอน้อมนำ พระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ มาเผยแพร่เพื่อเป็นประโยชน์และสิริมงคลแก่ชีวิต ซึ่งพระบรมราโชวาทที่คัดเลือกมานี้สามารถนำไปปรับใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันและแก้ไขปัญหาการทำงานได้ด้วย
1.คนดี
“ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดี และคนไม่ดี ไม่มีใครที่จะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมคนดี ให้คนดีปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้”
(พระบรมราโชวาทในพิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ค่ายลูกเสือวชิราวุธ จังหวัดชลบุรี 11 ธันวาคม 2512)
2.อนาคตทำนายได้
“ทุกสิ่งทุกอย่าง ที่เกิดที่เป็นอยู่แก่เราในวันนี้ ย่อมมีต้นเรื่องมาก่อน ต้นเรื่องนั้นคือ เหตุ สิ่งที่ได้รับคือ ผล และผลที่ท่านมีความรู้อยู่ขณะนี้ จะเป็นเหตุให้เกิดผลอย่างอื่นต่อไปอีก คือ ทำให้สามารถใช้ความรู้ที่มีอยู่ทำงานที่ต้องการได้ แล้วการทำงานของท่าน ก็จะเป็นเหตุให้เกิดผลอื่นๆ ต่อเนื่องกันไปอีก ไม่หยุดยั้ง ดังนั้นที่พูดกันว่า ให้พิจารณาเหตุผลให้ดีนั้น กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ให้พิจารณาการกระทำหรือกรรมของตนให้ดีนั่นเอง คนเราโดยมากมักนึกว่าอนาคตจะเป็นอย่างไรเราทราบไม่ได้แต่ที่จริงเราย่อมจะทราบได้บ้างเหมือนกัน เพราะอนาคต ก็คือ ผลของการกระทำในปัจจุบัน”
(พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 8 กรกฎาคม 2519)
3.ความดี
“การทำดีนั้นทำยากและเห็นผลช้า แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะหาไม่ความชั่วซึ่งทำได้ง่าย จะเข้ามาแทนที่และจะพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้สึกตัว แต่ละคนจึงต้องตั้งใจและเพียรพยายามให้สุดกำลัง ในการสร้างเสริมและสะสมความดี”
(พระบรมราโชวาทพระราชทาน แก่ผู้สำเร็จการศึกษา ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ สวนอัมพร 14 สิงหาคม 2525)
4.การทำงาน
“เมื่อมีโอกาสและมีงานทำ ควรเต็มใจทำโดยไม่จำเป็นต้องตั้งข้อแม้ หรือเงื่อนไขอันใด ไว้ให้เป็นเครื่องกีดขวาง คนที่ทำงานได้จริงๆนั้น ไม่ว่าจะจับงานสิ่งใด ย่อมทำได้เสมอ ถ้ายิ่งมีความเอาใจใส่ มีความขยัน และ ความซื่อสัตย์สุจริต ก็ยิ่งจะช่วยให้ประสบผลสำเร็จในงานที่ทำสูงขึ้น”
(พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร วิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา 8 กรกฎาคม 2530)
5.คุณธรรมของคน
“ประการแรก คือ ความซื่อสัตย์ ประการที่สอง คือ การรู้จักข่มใจฝึกใจตนเอง ให้ประพฤติปฏิบัติอยู่ในความสัตย์ความดีนั้น ประการที่สาม คือ การอดทน อดกลั้น และอดออมที่จะไม่ประพฤติล่วงความสัตย์สุจริต ประการที่สี่ คือ การรู้จักละวางความชั่ว ความทุจริต และรู้จักสละประโยชน์ส่วนน้อยของตน เพื่อประโยชน์ส่วนรวมคุณธรรมสี่ประการนี้ ถ้าแต่ละคนพยายามปลูกฝังและบำรุงให้เจริญงอกงาม จะช่วยให้ประเทศชาติบังเกิดความสุขความร่มเย็นและมีโอกาสที่จะปรับปรุงพัฒนาให้มั่นคงก้าวหน้าต่อไป”
(พระบรมราโชวาท ในพิธีบรวงสรวง สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า 5 เมษายน 2535)
6.ความเพียร
“ความเพียรที่ถูกต้องเป็นธรรม และพึงประสงค์นั้นคือความเพียรที่จะกำจัดความเสื่อมให้หมดไป และระวังป้องกันมิให้เกิดขึ้นใหม่ อย่างหนึ่ง กับความเพียรที่จะสร้างสรรค์ความดีงาม ให้บังเกิดขึ้นและระวังรักษามิให้เสื่อมสิ้นไป อย่างหนึ่ง ความเพียรทั้งสองประการนี้ เป็นอุปการะอย่างสำคัญ ต่อการปฏิบัติตน ปฏิบัติงาน ถ้าทุกคนในชาติจะได้ตั้งตนตั้งใจอยู่ในความเพียรดังกล่าว ประโยชน์และความสุขก็จะบังเกิดขึ้นพร้อม ทั้งแก่ส่วนตัวและส่วนรวม”
(พระราชดำรัสพระราชทานในพิธีกาญจนาภิเษก ทรงครองราชย์ ครบ 50 ปี พ.ศ.2539)
7.แก้ปัญหาด้วยปัญญา
“ปัญหาทุกอย่างไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ มีทางแก้ไขได้ ถ้ารู้จักคิดให้ดี ปฏิบัติให้ถูก การคิดได้ดีนั้น มิใช่การคิดได้ด้วยลูกคิด หรือด้วยสมองกล
เพราะโลกเราในปัจจุบันจะวิวัฒนาการไปมากเพียงใดก็ตาม ก็ยังไมมีเครื่องมืออันวิเศษชนิดใด สามารถขบคิดแก้ไขปัญหาต่างๆได้อย่างสมบูรณ์
การขบคิดวินิจฉัยปัญหา จึงต้องใช้สติปัญญา คือคิดด้วยสติรู้ตัวอยู่เสมอ เพื่อหยุดยั้งและป้องกันความประมาทผิดพลาด และอคติต่างๆมิให้เกิดขึ้น
ช่วยให้การใช้ปัญญาพิจารณาปัญหาต่างๆ เป็นไปอย่างเที่ยงตรง ทำให้เห็นเหตุเห็นผลที่เกี่ยวเนื่องกันเป็นกระบวนการได้กระจ่างชัด ทุกขั้นตอน”
(พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 1 สิงหาคม 2539)
8. คนเราจะต้องรับและจะต้องให้
“คนเราจะเอาแต่ได้ไม่ได้ คนเราจะต้องรับและจะต้องให้ หมายความว่าต่อไป และเดี๋ยวนี้ด้วยเมื่อรับสิ่งของใดมา ก็จะต้องพยายามให้ ในการให้นั้น ให้ได้โดยพยายามที่จะสร้างความสามัคคีให้หมู่คณะและในชาติ ทำให้หมู่คณะและชาติประชาชนทั้งหลายมีความไว้ใจซึ่งกันและกันได้ ช่วยที่ไหนได้ก็ช่วย ด้วยจิตใจที่เผื่อแผ่โดยแท้”
(พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่นักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น วันที่ 20 เมษายน 2521)
9.พูดจริง ทำจริง
“ผู้หนักแน่นในสัจจะพูดอย่างไร ทำอย่างนั้น จึงได้รับความสำเร็จ พร้อมทั้งความศรัทธาเชื่อถือและความยกย่องสรรเสริญ จากคนทุกฝ่าย การพูดแล้วทำ คือ พูดจริง ทำจริง จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการส่งเสริมเกียรติคุณของบุคคลให้เด่นชัด และสร้างเสริมความดี ความเจริญ ให้เกิดขึ้นทั้งแก่บุคคลและส่วนรวม”
(พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันที่ 10 กรกฎาคม 2540)
ขอบคุณข้อมูลจาก เว็บไซต์ oknation
</article><article><header>
</header>
shares
“พล.อ.อ.ประจิน” คาด จัดทำโปรแกรมลงทะเบียนออนไลน์ จองคิวเข้ากราบพระบรมศพ ได้ กลาง พ.ย. นี้ รับต้องจัดการอย่างเหมาะสม – รบ.หวังวางโครงข่ายอินเทอร์เน็ตครอบคลุมทุกหมู่บ้าน
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และรักษาการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (DE) เปิดเผยถึง การลงทะเบียนออนไลน์เพื่อเข้าคิว กราบถวายสักการะ เบื้องหน้าพระโกศ พระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ว่า นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการคณะกรรมการศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ (ศตส.) ได้ประสานงานมายังกระทรวงดิจิทัลฯ โดยขณะนี้ได้เตรียมการแล้วซึ่งได้ร่วมกับ สวทช. ในการช่วยการดำเนิน การจัดทำโปรแกรมดังกล่าวขึ้น โดยคาดว่าทุกพื้นที่จะสามารถเข้าถึงระบบการลงทะเบียนออนไลน์ได้ โดยมีศูนย์กลางรับข้อมูลอยู่ที่กรุงเทพฯ และอีกส่วนคือการจัดตั้งกองอำนวยการร่วม เนื่องจากยังเปิดให้ประชาชนทั่วไปเดินทางมาเข้าคิวรอได้ โดยขณะนี้มีประชาชนเข้ากราบถวายสักการะ เบื้องหน้าพระโกศ พระบรมศพ ในพระบรมมหาราชวัง วันละ 30,000 คน เพราะฉะนั้นต้องจัดสัดส่วนให้อย่างเหมาะ ส่วนจะมีการเพิ่มจำนวนประชาชนหรือไม่นั้น จะต้องมีการประชุมเพื่อหารือกันอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม คาดว่า โปรแกรมการลงทะเบียนออนไลน์เพื่อเข้าคิว กราบถวายสักการะ เบื้องหน้าพระโกศ พระบรมศพ นี้ จะเริ่มใช้งานได้ในช่วงกลางเดือน พ.ย. นี้ ทั้งนี้ จะมีการหารือกับหน่วยที่เกี่ยวข้องก่อนด้วย
นอกจากนี้ พล.อ.อ.ประจิน ยังกล่าวว่า วันนี้ได้มีการเสนอร่างแผนปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนารายยุทธศาสตร์ตามแผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. 2560-2564 ต่อที่ประชุมคณะกรรมการเตรียมการด้านดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ครั้งที่ 2/2559 โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งแผนปฏิบัติการนี้จะเป็นแผนยุทธศาสตร์ของประเทศระดับกลางที่แปลแผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมระยะยาว 20 ปี ไปสู่การปฏิบัติระยะ 5 ปี และจะใช้แผนอ้างอิงสำหรับหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐ ในการทำแผนปฏิบัติการดิจิทัลของหน่วยงานและจัดทำคำของบประมาณประจำปีต่อไป
ทั้งนี้ ยังกล่าวว่า รัฐบาลจะมีการวางโครงข่ายอินเทอร์เน็ตให้ครอบคลุมทุกหมู่บ้านทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงของประชาชน และยืนยันว่า ไม่มีความซับซ้อนกันอย่างแน่นอน เพราะได้มีการเชิญ กสทช. มาเทียบเคียงข้อมูล โดยจะมีการดำเนินการคู่ขนานกันระหว่าง ภาครัฐ ภาคเอกชน และ กสทช. ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปลายปี 2560 และบางส่วนอาจเลื่อนไปในไตรมาสที่ 2 ของ ปี 2561
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า นโยบายดังกล่าว เป็นนโยบายที่ทำเพื่อประชาชน และเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ต รวมทั้งเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในทุกพื้นที่ด้วย
ขอบคุณเนื้อหาจาก INN
</article><section><header>
</header><article><header>
</header></article><article><header>
</header></article><article><header>
</header></article><article><header>
</header></article><article><header>
</header></article><article><header>
</header></article><article><header>
</header></article><article><header>
</header></article></section><aside><article><header>อัดคลิปร้องเพลงอยู่ดีๆ ดันเจอเพื่อนสาวแย่งซีนซะงั้น!</header></article><article><header>ตามกันต่อ หวยซอง “หลวงพ่อปากแดง” งวดวันที่ 1/10/59</header></article></aside></section><nav> กลับด้านบน</nav><footer>
ติดตามข้อมูลได้ทุกที่ทุกเวลา
ติดต่อเราแนะนำ - ติชมและแจ้งปัญหาCopyright © 2016 MThai.com All right reserved.</footer>
ไม่มีความเห็น