ศาสนายูดาห์


ศาสนายูดาห์

ศาสนายูดาห์เป็นศาสนาของชนชาติยิว(ฮีบรู) ที่ได้อพยพยเข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่ในประเทศปาเลสไตน์ ต่อมาพวกฮีบรู ได้ตกเป็นเชลยถูกกวาดต้อนไปอยู่ในประเทศอียิปต์ ต่อมาได้พากันหลบหนีข้ามทะเลแดงไปรวมกันอยู่ในประเทศปาเลสไตน์อีกครั้ง

ดินแดนแห่งนี้มีชนชาติคานาอันหรือคานาไนต์อาศัยอยู่ พวกคานาอันเรียกพวกที่เข้ามาใหม่ว่า"ฮีบรู" พวกฮีบรูมีหัวหน้าคนหนึ่งชื่อว่า "ยาคอบ" แต่เวลาทำพิธีทางศาสนาจะเรียกตัวเองว่า "อิสราเอล“ นับถือพระเจ้าองค์เดียว คือ "พระยะโฮวา"

ศาสดา

โมเสส เป็นศาสดาของศาสนายูดาห์ บิดาชื่อ อัมราม มารดาชื่อ โยเคเบด สันนิษฐานกันว่า โมเสสเกิดในรัชสมัยของฟาโรห์ราเมสที่ 2 ก่อนปี

ค.ศ. 1225-1292 ในสมัยนั้นประเทศอียิปต์มีนโยบายในการลดจำนวนคนยิว เนื่องจากจำนวนชาวยิวเพิ่มมากขึ้นและแข็งแกร่งขึ้น ฟาห์โรเกรงว่าชาวยิวจะรวมกับพวกข้าศึกกลับมาโจมตีพระองค์ ดังนั้นพระองค์จึงมีบัญชาว่าเด็กชายที่เกิดมาในตระกูลของอิสราเอลทุกคนต้อง ถูกจับประหารชีวิต

มารดาบิดาของ โมเสสกลัวว่าบุตรชายของตนจะไม่ปลอดภัยได้นำบุตรชายใส่ตะกร้าลอยแพ อธิษฐานเสี่ยงบุญไปตามแม่น้ำไนล์ เผอิญวันนั้นพระราชธิดาของฟาโรห์เสด็จลงสรงน้ำตอนใต้ของแม่น้ำไนล์

ทรงเห็นตะกร้าลอยมาจึงทรงลากมาดู ทรงเห็นเด็กน้อยน่ารักเกิดความสงสารอย่างจับพระทัยแล้วจึงนำไปเลี้ยงไว้ใน ฐานะบุตรบุญธรรม โดยขนานนามให้ว่า โมเสส พี่สาวของโมเสสชื่อมีเรียม ได้อาสาเป็นผู้เลี้ยงโมเสสและมารดาของโมเสสก็ได้รับคำสั่งให้ไปเลี้ยงโมเสส อีกคนด้วย

ต่อมาโมเสสได้นำชาวยิวอพยพออกจากอียิปต์ไปดินแดนสัญญา คือ ปาเลสไตน์

โมเสสได้ปลีกตัวออกจากคณะไปพักสงบอยู่บนยอดเขาซีนายเป็นเวลาถึง 40 วัน 40 โมเสสได้รับบัญญัติ 10 ประการ จากพระยะโฮวาผู้เป็นเจ้า บัญญัติดังกล่าวบันทึกบนแผ่นหิน 2 แผ่น

โมเสสได้นำแผ่นหินนี้มาประกาศให้ชาวยิวทั้งหมดทราบและสามารถทำให้ทุกคนเชื่อ ตาม โมเสสได้พาชาวยิวเร่ร่อนไปเป็นเวลานานถึง 40 ปี ยังไม่ถึงแดนสัญญาหรือปาเลสไตน์ เพราะโมเสสถึงแก่กรรมก่อนเมื่อถึงภูเขาเนโป รวมอายุได้ 120 ปี

คัมภีร์ของศาสนายูดาห์มี 3 คัมภีร์ ดังนี้

1.คัมภีร์เก่า (Old Testament) กล่าวถึงการแก้แค้นและการส่องสว่างของพระยะโฮวา และกล่าวว่าพระยะโฮวาเป็นผู้พิพากษาโลก นอกนั้นยังบรรจุคำสรรเสริญพระเจ้าพร้อมด้วยสุภาษิตอันเป็นคำสอน เช่น สอนไม่ให้กีดกันความดีจากคนที่ควรแก่ความดี
2.คัมภีร์โทราห์ (Torah) มีความหมายกว้างขวางมาก แบ่งออกเป็น 2 สาย ดังนี้

1. บทบัญญัติที่เขียนไว้เป็นลายลักษณ์อักษร

2. บทบัญญัติที่ท่องจำกันมาด้วยปากเปล่า และคัมภีร์โทราห์นี้หมายรวมเอาคัมภีร์เก่าด้วย

3. คัมภีร์ทาลมุด (Talmud) ได้แต่งขึ้นประมาณปี ค.ศ. 390 - 420 เป็นคัมภีร์ที่กล่าวโจมตีพระเยซูรุนแรงมาก หรืออีกนัยหนึ่งคัมภีร์ทาลมุดเป็นงของศาสนายูดาห์ในการเป็นปฏิปักษ์กับพระ เยซู

หลักธรรม

กฎ บัญญัติสูงสุดในศาสนายูดาห์ คือ บัญญัติ 10 ประการ ข้อความในพระบัญญัตินั้นครอบคลุมไปทั้งด้านศาสนา การเมือง เศรษฐกิจ และสังคม เป็นรากฐานของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ วินัยและศีล มีดังนี้

1. อย่าได้มีพระเจ้าอื่นต่อหน้าเราเลย
2. อย่าทำรูปปั้นสำหรับตน
3. อย่าออกพระนามของพระยะโฮวาพระเจ้าของเจ้าเปล่าๆ
4. จงระลึกถึงวันซะบาโตถือเป็นวันศักดิ์สิทธิ์
5. จงนับถือบิดามารดาของเจ้า

6. อย่าฆ่าคน
7. อย่าล่วงประเวณีผัวเมียเขา
8. อย่าลักทรัพย์
9. อย่าเป็นพยานเท็จต่อเพื่อนบ้าน
10. อย่าโลภเรือนของเพื่อนบ้าน อย่าโลภภริยาของเพื่อนบ้าน หรือทาสาทาสีของเขา หรือสิ่งใดๆที่เป็นของเพื่อนบ้าน

นิกาย

ศาสนายูดาห์ แบ่งเป็นนิกายใหญ่ๆ 2 นิกาย ดังนี้

1. นิกายออร์ทอดอกซ์ เป็นนิการที่มีความเคร่งครัด ถือปฏิบัติตามคัมภีร์โทราห์ เชื่อในบทบัญญัติของโมเสสและของแรบไบ (Rabbi) คืออาจารย์หรือพระในศาสนายูดาห์
2. นิกายโปรเกรสสีฟ เป็นนิกายที่ไม่เคร่งครัดนัก คือเป็นนิกายที่มีหัวก้าวหน้า นับถือกันในหมู่ปัญญาชนคนสมัยใหม่

พิธีกรรม

1.วันซะบาโต(Sabbath) คือวันที่เจ็ดของสัปดาห์ ถือเป็นวันบริสุทธิ์ ห้ามทำกิจกรรมใดๆทุกประการ ใช้เวลาทั้งหมดเป็นวันพักผ่อน สวดมนต์อธิษฐานภาวนา การอ่านคัมภีร์นมัสการและของคุณพระเจ้า
2. พิธีปัสคา(Pesach) เป็นพิธีกรรมสำคัญเกิดในสมัยของโมเสส เมื่อคืนวันก่อนที่ชาวยิวจะอพยพออกจากอียิปต์ พระเจ้าได้สั่งให้ชาวยิวฆ่าแกะและทำอาหารรับประทานกับขนมปังไม่มีเชื้อและให้รับประทานให้หมดในวันเดียว แล้วให้ทุบหม้อไห และเครื่องครัวทั้งหมด แล้วให้เอาเลือดแกะป้ายไว้ที่หน้าประตูเพราะในเวลากลางคืน พระเจ้าจะส่งทูตมรณะมาฆ่าทุกคนที่ไม่ใช่ชาวยิว ถ้าประตูบ้านของใครมีเลือดแกะทาอยู่ทูตมรณะจะข้ามไป จึงเรียกว่า ปัสคา แปลว่า ข้ามไป ชาวยิวฉลองวันนี้ด้วยการเลี้ยงใหญ่ และอธิษฐานของคุณพระเจ้า พิธีนี้ใช้เวลา 8 วัน ในวันสุดท้ายมีการฉลองใหญ่และทุกคนก็ร้องขึ้นพร้อมกันว่า "ปีหน้าพบกันที่เยรูซาเล็ม"

สัญลักษณ์

ศาสนายูดาห์ ใช้เครื่องหมายเดิมคือ เชิงเทียน 7 กิ่ง แต่ปัจจุบันใช้รูปสามเหลี่ยมซ้อนกัน 2 รูปเป็นดาว6 แฉก ซึ่งเป็นตราเครื่องหมายประจำของกษัตริย์ดาวิดและเป็นเครื่องหมายในธงชาติอิสราเอลด้วย



ชาวยิวถือว่ามหาวิหาร ณ กรุงเยรูซาเล็มที่กษัตริย์โซโลมอนทรงสร้างขึ้น ก่อนคริสต์ศักราช 900 ปี เป็นเครื่องหมายศักดิ์สิทธิ์ ขณะนี้เหลือแต่ซากกำแพงเรียกว่า กำแพงร้องไห้ (Wailing Wall) เป็นสถานที่ชาวยิวทั่วโลกต่างหลั่งไหลกับไปไหว้ ถือว่ากำแพงนี้เป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นเอกภาพของชาวยิว ชาวยิวจะจูบกำแพงนี้แล้วซบศีรษะกับกำแพงร้องไห้ เพื่อรำลึกถึงความยิ่งใหญ่ของชาติยิวในอดีต โดยเฉพาะในวันศุกร์




หมายเลขบันทึก: 614011เขียนเมื่อ 15 กันยายน 2016 15:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 กันยายน 2016 15:15 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท