วันที่ 69 พันเดชกับ Plants vs Zombie (26 สิงหาคม 2559)


วันนี้เด็กนักเรียนโรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัยได้มาจัดกิจกรรมเกี่ยวกับคณิตศาสตร์ให้เด็กนักเรียนในระดับชั้น ป.4

คาบ 1 และ 2 ที่ฉันสอนเด็ก ป.4/1 และ 4/2 จึงกลายเป็นคาบ Free ไป

แต่คาบ Free ไม่เคยมีอยู่จริง เพราะฉันและนักศึกษาฝึกสอนที่มีคาบว่างเช้านี้ต้องไปช่วยซ้อมเด็กอนุบาลเดินขบวน ><


ภาพนักเรียนจากโรงเรียนปรินส์รอยแยลส์และนักเรียนระดับชั้น ป.4 (ขอขอบคุณภาพจากพี่จี กล้องโรงเรียน)


เช้านี้มีการซ้อมใหญ่การเดินขบวนของเด็กอนุบาล

ขบวนการจับปูใส่กระด้งได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง...

กว่าจะจัดวางป้าย หาคนมาถือป้าย และจัดขบวนให้แล้วเสร็จ ใช้เวลาไปแล้วไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมง ><

และเมื่อสัญญาณกลองเดินขบวนดังขึ้น เด็กอนุบาลก็ไม่ได้ย่ำเท้าอย่างที่ฉันคิดไว้ เพราะเด็กเดินมั่วและเดินไป แบบตามใจฉัน ไม่ฟังเสียงกลองใดๆทั้งนั้น

แค่เริ่มเดิน ก็เห็นถึงความเละเทะที่จะตามมาแล้ว ><


พวกเราช่วยกันซ้อมเด็กอนุบาลเดินขบวนไปรอบๆโดมกีฬา

เดินไปเดินมาประมาณ 3 รอบได้ เด็กๆก็เริ่มบ่นว่าเหนื่อย

การสอนเด็กอนุบาลให้ทำบางสิ่งบางอย่างเป็นสิ่งที่ยากมาก

ยิ่งมีเวลาจำกัดด้วยแล้ว ยิ่งทำได้ยาก

การซ้อมเดินขบวนยังไม่เข้าที่เข้าทางเท่าไหร่ แต่ก็คงซ้อมได้แค่นี้ เพราะสภาพร่างกายของเด็กไม่ไหวแล้ว ><




กว่าจะซ้อมเด็กอนุบาลเดินขบวนเสร็จก็สิบโมงกว่าแล้ว ><

ไม่อยากจะคิดถึงวันเดินขบวนกีฬาในวันพรุ่งนี้เลย ><


บ่ายนี้พันเดชแวะมาหาฉันที่ห้องสมุดเช่นเคย

วันนี้ฉันให้เขาระบายสีต้นพืชที่อยู่ในเกม Zombie แต่เขาระบายในห้องไม่เสร็จ

เขาขออนุญาตฉันว่า "ครูครับผมทำไม่เสร็จ ผมเอาไปทำต่อที่บ้านนะครับ" พอฉันอนุญาตเขาก็เก็บใส่กระเป๋า

แต่ช่วงบ่ายนี้ที่เขามาหาฉัน ฉันก็เลยให้เขานั่งระบายสีต่อ

ฉันคิดว่าพันเดชมีทักษะในการระบายสีมากนะ เพราะเขาระบายสีต้นพืชอย่างตั้งใจ

และระบายสีตามความหนักเบาของสีภาพพืชตัวอย่างด้วย เขามีความละเอียดในการเลือกลงสีมาก

ฉันนั่งมองเขาระบายสีและแอบถ่ายรูปเขาไว้ เพราะเขาบอกว่าไม่ชอบถ่ายรูป

พันเดชไม่ใช่เด็กพิเศษที่อยากให้ใครกลัว ไม่กล้าเข้าใกล้ เขาแค่ต้องการความเข้าใจจากเราต่างหาก ^^


ภาพแอบถ่ายพันเดช ขณะที่เขากำลังตั้งใจระบายสีซอมบี้


ภาพฝีมือการระบายสีของพันเดช


พอเขาระบายสีเสร็จแล้ว ฉันก็ให้เขาเขียนชื่อพืชด้วย

ไม่น่าเชื่อว่าเขารู้จักชื่อพืชที่ระบาย และเขียนได้เองโดยที่ฉันไม่ต้องบอกเลย ^^

จากนั้นสัญญาณเลิกโรงเรียนก็ดังขึ้น

ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงสัญญาณ พันเดชจะยืนขึ้นและเตรียมพนมมือไหว้พระ

หลังจากไหว้พระเสร็จ เขาก็จะยืนตรงเมื่อเพลงสรรเสริญพระบารมีดังขึ้น

เมื่อเพลงสรรเสริญพระบารมีจบ เขาก็จะรีบวิ่งออกไปนอกโรงเรียนทันที และพ่อของเขาจะต้องมารับตรงเวลาพอดี

แต่ในวันนี้ฉันมีลางสังหรณ์บางอย่าง บวกกับสายฝนที่ตกโปรยปรายด้วย

ฉันจึงเดินออกมาส่งเขาที่นอกโรงเรียน

ทำไมลางสังหรณ์ฉันแม่นอย่างนี้ เพราะวันนี้พ่อของพันเดชมาช้าผิดปกติกว่าทุกวัน

พันเดชยืนรอพ่อด้วยความกระวนกระวาย เขาแทบจะออกไปยืนรอกลางสายฝน ตรงจุดนั้นที่พ่อของเขามารับทุกวัน

ฉันรีบดึงตัวเขาไว้ และบอกให้เขามานั่งรอใต้ที่พักที่โรงเรียนสร้างสำหรับให้นักเรียนนั่งรอผู้ปกครองก่อน

เขาไม่ยอมนั่งเลย เขายืนรอและชะเง้อหารถของพ่อเขาตลอดเวลา

เขาจะออกไปตากฝนรอพ่อเขาเป็นพักๆ ฉันจึงดึงตัวเขาไว้

ปากของเขาพร่ำหาแต่ว่า "เมื่อไหร่พ่อจะมา ปกติพ่อไม่เคยมาช้าอย่างนี้เลย"

เขาพูดประโยคเดิมๆซ้ำๆ พอนานไปๆเขาก็ชักจะออกอาการเหมือนจะร้องไห้


เวลาผ่านไปประมาณ 5-10 นาที รถของพ่อเขามาจอดตรงจุดเดิมที่มารอรับเขาประจำ

ฉันดีใจมากที่เห็นรถพ่อของเขา และคิดว่าเขาก็คงดีใจมากเช่นกัน

ทันทีที่ฉันบอกเขาว่า "พันเดช พ่อมาแล้ว" เท่านั้นแหละ

เขารีบวิ่งออกไปหาพ่อเขา แล้วฉันก็วิ่งตามไปส่งเขา

ฉันถามพ่อของเขาว่า ทำไมวันนี้พ่อมาช้า เพราะว่าวันนี้พันเดชรอคุณพ่อนานมากเลย

พ่อของเขาก็ตอบว่า วันนี้คุณพ่อติดงาน และรถติดไปหน่อย

ทันทีที่มาถึงตัวพ่อ พันเดชก็ร้องไห้และทำท่าขัดใจที่วันนี้พ่อมาช้า

เขานั่งซ้อนท้ายพ่อของเขาและกอดเอวพ่อไว้แน่น และร้องไห้เอามือปาดน้ำตาไปด้วย

"ภาพที่เขากอดเอวไว้แน่น พร้อมกับเอามือปาดน้ำตาไปด้วย"

มันเป็นภาพที่สะเทือนใจฉันไปบ้าง เพราะฉันเข้าใจความรู้สึกของเขาดี

พันเดชไม่ได้ร้องไห้ที่พ่อมาช้าหรอก เขาร้องไห้เพราะกลัวถูกพ่อทิ้งต่างหาก...

หมายเลขบันทึก: 613776เขียนเมื่อ 12 กันยายน 2016 10:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 กันยายน 2016 16:16 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท