หีบทรัพย์ที่หายไป


นายสอกับนายสีเป็นเพื่อนกันมีอะไรก็พึ่งพาอาศัยกันและกัน ทั้งสองร่วมกันทำมาค้าขายจนร่ำรวยแล้ว พออายุ 50 ปีนายสีคิดว่าควรจะมีเพื่อนคู่คิดมิตรคู่ใจจึงตกลงแต่งงานกับสาวรุ่นชื่อกัลยา เช้าวันหนึ่งนายสีไปหานายสอชวนกันไปค้าขายสักครั้งก่อนอำลาอาชีพนี้ เขาทั้งสองสมัครหาลูกน้องได้ลูกน้องมาร่วมงานครั้งนี้ 98 คน เพื่อออกไปขายสินค้ายังต่างเมือง เมื่อถึงเวลากองคารวานของนายสีก็ออกเดินทางและได้ไปหยุดพักกลางป่าใต้ต้นไม้ใหญ่ พวกเขามองขึ้นไปเห็นผลไม้คล้ายมะม่วงสุกเหลืองอร่ามอยู่เต็มบนต้นไม้นั้น

ฝ่ายลูกน้องนายสีกล่าวว่า นายพวกผมอยากกินผลไม้สุกนั้น เดี๋ยวก่อนนะ นายสีว่าพลางมองดูผลไม้นั้นอย่างพิจารณา เอ๊ะ ธรรมดาผลไม้สุกย่อมมีสัตว์กัดกินแต่ผลไม้นี้ไร้สัตว์ใด ๆ มากิน ท่านทั้งหลายจงฟังข้าพเจ้า นายสีประกาศต่อไปว่า ห้ามผู้ใดแตะต้องและกินผลไม้นั้นเป็นอันขาด เพราะกินแล้วจะเกิดอันตรายถึงชีวิต ทุกคนจึงได้แต่พักผ่อนหลับไปอยู่ใต้ต้นไม้นั้น

ครั้นพวกเขาตื่นขึ้นมาเพราะมีเสียงคุยกันของกลุ่มคนป่า และหัวหน้าคนป่าถามว่าทำไมสูเจ้าไม่กินผลไม้นั้น นายสีตอบว่า พวกเจ้าก็รู้อยู่แก่ใจแล้วนี่มาถามทำไม เท่านั้นเองพวกคนป่าก็รีบหนีเข้าป่าไป จากการสังเกตบริเวณนั้นนายสีกับนายสอรู้ว่าเคยมีกองคารวานมาที่นี้แล้วกินผลไม้นั้นไม่มีใครรอดสักคน พวกคนป่าเหล่านั้นก็มาเอาสินค้าต่าง ๆ ไปหมด

เมื่อพักผ่อนได้ที่แล้วกองคารวานของนายสีก็ไปขายสินค้าในเมืองเป้าหมายเสร็จแล้วเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ ต่อมานายสีคิดว่าอันชีวิตคนเราไม่แน่นอนความม้วยมรณามีแน่ เมื่อตายไปแล้วเมียก็ยังสาวอยู่เขาคงไปมีผัวใหม่เดี๋ยวผลาญทรัพย์หมดคิดจะมอบทรัพย์ให้ลูก ลูกก็ยังไม่บรรลุนิติภาวะเลยเรียกนายดำเลขาคนสนิทมาบ้านแล้วแจ้งนายดำให้รับทราบเป้าหมายนี้ พอตกกลางคืนทั้งนายสีและนายดำช่วยกันหามหีบทรัพย์นั้นไปฝังใต้ต้นเลียบโดยห่างไปทางทิศเหนือ 5 ศอกขุดหลุมลึก 1 เมตรแล้วฝังหีบทรัพย์นั้นไว้ แล้วสั่งกำชับนายดำว่าเมื่อลูกชายบรรลุนิติภาวะแล้วจงบอกให้เขามาเอาทรัพย์นี้

ต่อมาไม่นานนายสีก็ตาย

อยู่มาวันหนึ่งกัลยาเรียกลูกชายมาแล้วบอกว่า คืนวันหนึ่งพ่อเจ้ากับลูกน้องชื่อนายดำนำทรัพย์ลงจากบ้านไป นายดำเท่านั้นรู้ เจ้าจงไปถามดูเถิด ฝ่ายลูกชื่อดีก็ไปถามเรื่องนี้กับนายดำ นายดำก็นำไปที่ใต้ต้นเลียบแทนที่จะชี้บอกกับด่าว่าต่าง ๆ นา ๆ เองนี้ขี้เกียจ สันหลังยาว เอาแต่เล่น ไม่ทำมาหารับประทาน รอแต่จะได้เงินของคนอื่น เป็นคนใช้ไม่ได้ ว่าไปสารพัดแต่นายดีก็ไม่โกรธ จนนานแสนนานก็พากันกลับบ้านของตน

นายดีไปบอกแม่ว่านายดำด่าเอาจนหูชาไปหมดแล้ว ฝ่ายแม่กัลยาจึงให้ลูกไปพบสหายของพ่อชื่อนายสอ เมื่อพบแล้วก็เล่าความเป็นมาต่าง ๆ นายสอจึงแก้ปริศนาว่า ที่ตรงนายดำยืนด่านั้นละที่ฝังทรัพย์ นายดีจึงได้นำจอบไปขุดตรงนั้นและได้พบหีบทรัพย์ของพ่อ แล้วแบกกลับบ้านตรวจดูมีทรัพย์เต็มหีบใบนั้น พอวันรุ่งขึ้นแม่กัลยาและลูกชายก็จัดงานทำบุญนิมนต์พระสงฆ์ 10 รูปมาสวดพระพุทธมนต์ฉันภัตตาหารเพลและแผ่ส่วนบุญกุศลให้คุณพ่อสีผู้จากไปแล้ว.

หมายเลขบันทึก: 612794เขียนเมื่อ 23 สิงหาคม 2016 18:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 สิงหาคม 2016 21:23 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท