สำหรับใคร ๆ ที่เครียดหรือคิดมากกับหลายสิ่ง ๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ลองหันมาอ่านบทความดี ๆ จาก Richard Carlson ได้บทความนี้จากการแชร์หน้าเฟสบุ๊คจากเพื่อนที่ดีคนนึง ต้องขอขอบคุณมากและขอให้เครดิตผู้แปลบทความนี้ด้วย ดังนั้นขออนุญาตแชร์ต่อตรงนี้นะคะ
วิธีสลัดเรื่องไร้สาระออกจากใจ
บทความที่นำมาเสนอจากหนังสือเรื
Richard Carlson
ผู้แต่งเชื่อว่านิสัยเกิ
นิสัยเหล่านี้จะเกิดขึ้
ไม่รู้สึกว่
แต่หารู้ไม่ว่านิสัยที่ไม่ดี
ทำให้เราหมดกำลังใจ และทำให้เราเป็นคนมองโลกในแง่ร้
ผู้แต่งจึงชี้ให้เห็นถึงนิสัยที
1. ความคิดที่ว่าเมื่อประสบปัญหาต้
ในช่วงที่ประสบปัญหาจิ
เศร้าสลดหดหู่ไม่ควรที่จะขบคิ
มองไม่เห็นทางออก หรือถ้าคิดออกความคิดที่ได้ก็
วิธีแก้ หยุดคิด ทำใจให้สบาย ๆ ปล่อยวาง เมื่อจิตใจสงบจึงค่อยเริ่มแก้
แก้ไขปัญหาที่พอจะแก้ไขได้ก่อน
ปัญหาที่รุนแรงและเรื้อรังยากที
แก้ไขไปทีละเปลาะสองเปลาะ เมื่อปัญหาลดน้อยลงจะทำให้เรามี
ปัญหาที่ยากย่อมต้องใช้เวลา ความพยายาม ความอดทน และความต่อเนื่องเป็นธรรมดา
จงยอมรับความเป็นจริงทั้งหมดที่
คิดถึงเหตุการณ์ที่ร้ายแรงที่สุ
แล้วทำใจยอมรับให้ได้ เมื่อนั้นจิตใจจะสงบ
และในความเป็นจริงมันอาจจะไม่
จะทำให้เรายิ่งมีกำลังใจที่
2. หงุดหงิดรำคาญใจ ทุกสิ่งทุกอย่างขัดหูขัดตาไปหมด ไม่ได้ดั่งใจเอาเสียเลย
บุคคลที่มีความคิดประเภทนี้จะมี
เอาตนเองเป็นที่ตั้ง ชี้ถูกชี้ผิดอยู่ตลอดเวลา
นิดหนึ่งก็ไม่ได้นิดหนึ่งก็ไม่
ไม่มีใครอยากเข้าใกล้หรื
สุขภาพเสื่อมโทรมโรคภัยรุมเร้
วิธีแก้รู้จักปล่อยวางเสียบ้าง ในโลกนี้ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ
ไม่มีใครสามารถทำตามใจเราได้ทุ
ทำอะไรก็ตามให้อยู่ในระดับกลาง ๆ พอดี ๆ ไม่ต้องสมบูรณ์แบบไปเสียทุกอย่
พูดจาให้นุ่มนวลอ่อนหวาน สบาย ๆ ไม่ต้องเอาเป็นเอาตาย
เอาจริงเอาจังไปเสียทุกเรื่อง
3. บ้างาน คิดว่าตนเองมีงานล้นมือ
ทุกอย่างมีแต่ความรีบเร่งจนไม่
คนที่รีบเร่งทำงานหลาย ๆ อย่างแต่ทำไม่เสร็จซักอย่าง งานส่วนใหญ่มักจะไม่มีสาระ
ไม่สำคัญ ไม่ได้ทำให้ชีวิตดีขึ้
กิริยาจะร้อนรน ขาดสติสัมปชัญญะ
ขาดความระมัดระวังทำให้ไม่รู้ตั
เมื่อพลังงานส่วนใหญ่สูญเสี
งานที่ออกมาก็ไม่มีประสิทธิภาพ
เมื่อโดนตำหนิก็เกิดความเครี
แต่ยิ่งรีบก็ยิ่งผิด วนเวียนเป็นวงจรอุบาทว์ไม่มีที่
วิธีแก้เลือกทำในสิ่งที่สอดคล้
กำลังพูด และกำลังคิดอยู่นี้จะทำให้เรามี
มีสติปัญญามากขึ้น และมีเงินทองมากขึ้นหรือไม่ ถ้าไม่ก็ให้ตัดทิ้งเสียเช่น
การนินทาว่าร้ายเจ้านาย เป็นต้น ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด เพราะสิ่งต่าง ๆ
ที่ทำในปัจจุบันจะส่งผลไปยั
ในโลกนี้มีงานต่าง ๆ อีกมากมายทำเท่าไรก็ทำไม่
ทำแต่สิ่งที่สำคัญเท่านั้นก็พอ ให้ตระหนักถึงสัจธรรมที่ว่า
ถึงแม้ว่าเราจะจากโลกนี้ไป โลกมันก็ยังคงดำเนินต่อไปได้
อย่าสำคัญตัวเองมากนัก หยุดทำงานทุกอย่าง นั่งสงบนิ่งดูลมหายใจ (อาณาปาณสติ)
สัก 15 นาที เจริญมรณานุสติโดยการคิดว่าถ้
เราอยากทำสิ่งใดมากที่สุด
(แต่วิธีนี้ไม่เหมาะกับบุคคลที่
4. คิดเอาตนเองเป็นใหญ่และคิ
ความคิดนี้เป็นความคิดในแง่ลบ (Negative thinking) ซึ่งเป็นตัวบั่นทอนพลังชีวิต
ทำให้เราเป็นคนย้ำคิดย้
คำพูดและแววตาจะแสดงออกมาด้
วิธีแก้ให้ระมัดระวังความคิ
เมื่อมีความคิดเหล่านี้โผล่ขึ้
ให้เปลี่ยนเรื่องคิดทันที
ให้หันมาคิดในแง่บวกแทนซึ่งเป็
ทำใจยอมรับว่ามนุษย์ทุกคนเกิ
ความอาฆาตพยาบาท ความมีอัตตาตัวตน และความยึดมั่นถือมั่น เป็นต้น
ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้รวมทั้งตั
เราจึงไม่มีสิทธิ์ที่จะไปตัดสิ
หากเรายอมรับความเป็นจริงในข้
เราจะรู้จักให้อภัยผู้อื่
พยายามประคับประคองความคิดที่ดี
5. คิดดูถูกผู้อื่น และชี้ถูกชี้ผิดอยู่ตลอดเวลา
ความคิดเหล่านี้จะทำให้เรามีจิ
มีความเครียดเป็นอาจิณ วิธีแก้เอาใจเขามาใส่ใจเรา เลิกเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง
หัดเข้าใจความคิดและอารมณ์ของผู
และถ้าเราอยู่ในสถานการณ์เดี
ยอมรับว่าในโลกนี้ไม่มีใครที่คิ
การมีความคิดที่ขัดแย้งกันย่
ไม่มีใครถูกใครผิดหัดฟังมากกว่
รับรู้ทุกอย่างแต่อย่าคิดต่อ
ไม่ต้องหาเหตุหาผลไปซะทุกเรื่
หรือเฉย ๆ เพื่อหยุดความคิดซึ่งป็นบ่อเกิ
6. คิดเอาชนะผู้อื่น
การโต้เถียงเอาชนะผู้อื่นเพี
และยังเป็นการสร้างศัตรูโดยที่
วิธีแก้พูดเท่าที่จำเป็นพูดแต่
รู้จักปล่อยวางเสียบ้าง หัดฟังมากกว่าพูด และเอาใจเขามาใส่ใจเรา
พยายามประคับประคองจิตใจให้ผ่
หลีกเลี่ยงการโต้เถียงให้มากที่
7. คิดทวงบุญคุณจากผู้อื่น
การทวงบุญคุณจะทำให้จิตใจคับแคบ เต็มไปด้วยความอึดอัด ไม่พอใจ ลังเลสงสัย
จิตใจสกปรกขุ่นมัวเพราะเป็
วิธีแก้ ช่วยเหลือโดยไม่ต้องคำนึงถึงผู้
ควรให้เพราะอยากช่วยเหลือไม่ต้
ช่วยเหลือโดยไม่ต้องคำนึงถึงผู้
คนไหนพอช่วยได้ให้ช่วยไปเลยไม่
หรือช่วยเพราะเขาทำดีกับเรา เป็นต้น ช่วยแล้วหันหลังกลับ ไม่หวังผลตอบแทน
8. คิดกังวลในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง
การคิดวิตกกังวลในสิ่งที่ยั
เต็มไปด้วยความหวาดกลัว จิตใจล่องลอยไม่อยู่กับปัจจุบัน
วิธีแก้ รู้เนื้อรู้ตัวว่าตนเองกำลั
ทำวันนี้ให้ดีที่สุด คิดโกรธเกลียดหมั่นไส้ผู้อื่น ความโกรธ เกลียด รำคาญ
และไม่ชอบหน้าบุคคลที่เคยทำให้
แต่เมื่อมีความคิดเหล่านี้ผุดขึ
แววตา น้ำเสียง และการกระทำ นอกจากนั้น เราควรมองบุคคลเหล่านั้นในแง่
คนที่ตำหนิติเตียนเรานั้
หรือคนนินทาว่าร้ายเรานั้
เพราะเขารู้เรื่องของเราหมดจึ
9. คิดน้อยใจในโชคชะตาของตนเอง
การคิดน้อยใจในชะตากรรมของตั
เรียนหนังสือไม่เก่ง หรือทำอะไรก็สู้เขาไม่ได้ เป็นต้น
การคิดเช่นนี้นอกจากจะเป็นการบั
เพราะมัวแต่ย้ำคิดย้ำทำแต่สิ่
วิธีแก้ จงพอใจในสิ่งที่ตนมี และอย่าคิดเปรียบเทียบกับคนอื่น
ระลึกและจดจำในสิ่งดี ๆ ที่เราได้รับจากคนรอบข้าง
รู้จักและยอมรับตนเองทั้งจุดเด่
พัฒนาและใช้จุดเด่นของเราให้เป็
เรียนรู้จากประสบการณ์ต่าง ๆ ในชีวิต
ลืมอดีตที่ขมขื่นเพื่อทำปัจจุบั
และพยายามประคับประคองจิตใจให้
10. นิสัยมองโลกในแง่ร้ายและคิดว่
การคิดเช่นนี้จะยิ่งเป็
มองความจริงไม่ตรงตามความเป็
ก็ตีโพยตีพายจนกลายเป็นเรื่
หาความสุขไม่ได้เพราะจะคอยจับผิ
วิธีแก้คิดถึงประสบการณ์ดี ๆ ที่เราได้รับจากคนรอบข้างเช่น
คิดถึงบุคคลที่มีบุญคุณหรือมีน้
อย่าปล่อยให้จิตมันคิดเอง
11. คิดว่าโลกนี้มีแต่ปัญหาเต็
การคิดเช่นนี้นอกจากจะไม่ช่
วิธีแก้ ให้มองปัญหาเสมือนด่
และเป็นแหล่งปัญญาที่หาไม่ได้
มองปัญหาในแง่บวกว่ามันอาจจะเป็
ปัญหาทำให้เราเห็นข้อบกพร่องที่
มองปัญหาเป็นเรื่องธรรมชาติที่
คิดในแง่บวกและตั้งจิตว่
12. คิดว่าเราเก่งกว่าผู้อื่น ฉลาดกว่าผู้อื่น หรือร่ำรวยกว่าผู้อื่น
ความคิดเช่นนี้จะส่งผลให้พฤติ
บุคคลรอบข้างจะรังเกียจ หมั่นไส้ และอิจฉาริษยา
ซึ่งเป็นการสร้างศัตรูโดยไม่รู้
วิธีแก้ ระมัดระวังคำพูด ความคิด และการกระทำ
ต้องมีสติรู้เนื้อรู้ตัวอยู่
อย่าวิพากษ์วิจารณ์คนอื่น
13. การด่าทอ เหน็บแนม ประชดประชัน และวิพากษ์วิจารณ์
เป็นอกุศลวาจาที่สร้างความเจ็
ซึ่งเป็นการสร้างศัตรูโดยไม่ได้
ความคิดเหล่านี้ยังเป็นที่
และความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจมนุ
วิธีแก้ คิดก่อนพูดและไม่ต้องพูดทุกอย่
ถ้าพูดแล้วไม่สร้างสรรค์นิ่งเสี
ในโลกนี้ไม่มีใครชอบถูกวิพากษ์
***ขอบคุณที่มา : http://www.thaireaderclub.
ไม่มีความเห็น