กรณีศึกษาบริษัท เจเปนแมน จำกัด : การกำหนดจุดเกาะเกี่ยวระหว่างรัฐและนิติบุคคล
โดย รศ.ดร.พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิตรา สายสุนทร
เมื่อวันที่ ๔ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๓
------------
ข้อเท็จจริง
--------------
บริษัทดาวดีแลนด์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทตามกฎหมายไทยที่มีวัตถุประสงค์ในการทำสวนสนุก ได้ตกลงทำสัญญาจ้างทำสวนกับบริษัท เจเปนแมน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทตามกฎหมายญี่ปุ่น สัญญาจ้างทำสวนทำในประเทศญี่ปุ่น
ในขณะทำสัญญารับจ้างทำสวนผลไม้นั้น บริษัทดาวดีแลนด์ จำกัด มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศไทย โดยมีสมาชิกทุกคนเป็นคนสัญชาติไทย บริษัทนี้ยังมีสาขาตั้งอยู่ในประเทศลาว
ส่วนบริษัท เจเปนแมน จำกัด มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศสิงคโปร์ ส่วนสำนักงานตามตราสารจัดตั้งถูกระบุว่า อยู่ในประเทศญี่ปุ่น แต่สมาชิกทุกคนของบริษัทมีสัญชาติอเมริกัน
--------
คำถาม
--------
บริษัท เจเปนแมน จำกัด มีความสัมพันธ์กับรัฐใดบ้าง ? เพราะเหตุใด ? ปรากฏมีการขัดกันแห่งสัญชาติในบริษัทนี้หรือไม่ ? เพราะเหตุใด ? [1]
--------
แนวคำตอบ
--------
โดยหลักกฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคล เราอาจชี้ความสัมพันธ์ระหว่าง บริษัท เจเปนแมน จำกัด และนานารัฐได้ดังต่อไปนี้
ในประการแรก บริษัทนี้ย่อมมีความสัมพันธ์กับประเทศญี่ปุ่นเพราะว่า บริษัท เจเปนแมน จำกัด เป็นนิติบุคคลในรูปบริษัทจำกัดตามกฎหมายแห่งประเทศญี่ปุ่น รัฐดังกล่าวจึงมีความสัมพันธ์กับบริษัทนี้ในฐานะรัฐผู้รับก่อตั้งสถานะบุคคลของบริษัท และเป็นรัฐเจ้าของสัญชาติของบริษัทนี้ในสถานการณ์ทั่วไป
ในประการที่สอง บริษัทนี้ย่อมมีความสัมพันธ์กับประเทศสิงคโปร์ เพราะว่า สำนักงานใหญ่ของบริษัทตั้งอยู่ในประเทศสิงคโปร์ รัฐดังกล่าวจึงมีความสัมพันธ์กับบริษัทในสถานะของรัฐเจ้าของถิ่นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ซึ่งเป็นศูนย์กลางในการแสดงเจตนากำหนดตนเองของนิติบุคคล
ในประการที่สาม บริษัทนี้ย่อมมีความสัมพันธ์กับประเทศสหรัฐอเมริกา เพราะว่า ผู้ถือหุ้นทุกคนมีสัญชาติอเมริกัน รัฐดังกล่าวย่อมจะเป็นรัฐเจ้าของตัวบุคคลของผู้ถือหุ้นซึ่งมีอำนาจในการครอบงำการตัดสินใจของบริษัท
โดยข้อเท็จจริงที่ปรากฏ จึงสรุปได้ว่า บริษัท เจเปนแมน จำกัด จึงมีจุดเกาะเกี่ยวที่แท้จริงกับ ๓ รัฐ ด้วยกัน กล่าวคือ ประเทศญี่ปุ่น ประเทศสิงคโปร์ และประเทศสหรัฐอเมริกา
เราอาจสรุปได้ต่อไปว่า ด้วยจุดเกาะเกี่ยวกับสามรัฐอธิปไตยดังกล่าวของบริษัท เจเปนแมน จำกัด ย่อมทำให้บริษัทนี้ตกอยู่ภายใต้ “การขัดกันแห่งสัญชาติ” กล่าวคือ บริษัทนี้ย่อมมีสัญชาติญี่ปุ่นในสถานการณ์ทั่วไป และอาจถูกถือเป็นบริษัทสัญชาติสิงคโปร์ในสถานการณ์อันเกี่ยวกับนิติสัมพันธ์ตามกฎหมายเอกชนที่มีลักษณะระหว่างประเทศ หรือสัญชาติอเมริกันในสถานการณ์ที่มีความตกลงระหว่างประเทศเพื่อการคุ้มครองนักลงทุนสิงคโปร์
[1] ข้อสอบปลายภาคในวิชากฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคล โดย รองศาสตราจารย์ ดร. พันธุ์ทิพย์ กาญจนะจิตรา สายสุนทร ภาคฤดูร้อน ของปีการศึกษา ๒๕๕๒ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
ไม่มีความเห็น