ทำนา..ที่โรงเรียน...อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ ๖.. ปีนี้ ไม่เหมือนปีที่แล้ว ครูนิรุต..ย้ายกลับบ้าน ไม่มีใครเพาะกล้าแบบนาโยน ผมเลยไม่กล้าทำนาโยน..อย่างเคย ต้นกล้านาโยน เหมือนเพาะง่ายๆ แต่ในความเป็นจริงก็ไม่ง่ายนัก ดินที่ใช้เพาะกล้า ต้องมีส่วนผสมดีพอสมควร ต้องเหนียว จึงจับตัวเป็นก้อน เหมือนลูกกระสุน จะใช้ดินร่วนซุยคงไม่ได้
อีกอย่างหนึ่ง...เคยให้นักเรียนโยนกล้าแล้ว สนุกกันถ้วนหน้าก็จริง แต่การโยนยังดูไม่เป็นระเบียบ ต้นกล้า ที่โยนลงนา อยู่ห่างกัน เวลางอกงาม จะดูไม่สม่ำเสมอ แต่ก็ไม่มีผลต่อการเจริญเติบโตและก็ไม่ได้สิ้นเปลืองปุ๋ยอินทรีย์มากมายเท่าใดนัก..
ปีนี้...ในวันนี้ จัดงานวันแม่..ก่อนหน้านี้ ผมเตรียมผืนนาแปลงน้อย ไถ คราด และวิดน้ำเข้านา ส่วนต้นกล้า..ขอจากผู้ปกครองนักเรียน ไม่ได้ ดำนาเสียนาน ทำให้คำนวณต้นกล้าผิดพลาด ผู้ปกครองถามความต้องการต้นกล้า ผมตอบไปว่า ๕ กำ เพราะนึกถึงสมัยก่อนโน้น ตอนที่เป็นเด็กๆ กำของต้นกล้าที่เคยเห็น เป็นมัดใหญ่มากๆ แต่ละกำหอบหิ้วกันหนักทีเดียว
การดำนา...วันนี้ จึงต้องดำกันสองรอบ รอบแรก ใช้ต้นกล้า ๕ กำเล็กๆที่ผมขอผู้ปกครองไว้แต่แรก และก็ไม่พอ นักเรียนต้องนั่งรอริมคันนา ผู้ปกครองกลับไปเอามาให้อีก ๑๐ กำ ซึ่งเป็นกำเล็กๆเท่าเดิม แต่ก็พอดี สำหรับการดำนาในรอบที่สอง ....แสดงว่าการดำนาในนาโรงเรียนปีนี้’ต้องใช้กำต้นกล้าถึง ๑๕ กำ จึงจะพอเพียง...
ครูที่ร่วมกันดำนากับนักเรียน บอกว่า..นักเรียนใช้ต้นกล้าเปลืองมาก ดำกันอย่างสนุกเพลิดเพลิน อันที่จริง ใช้ต้นกล้า ครั้งละ ๒-๓ ต้น ก็พอ แต่นักเรียนใช้อย่างเต็มไม้เต็มมือ ๕ – ๖ ต้น ต่อครั้ง งานนี้ รับรองกอข้าวต้องได้กอใหญ่ๆ อย่างแน่นอน
ต้นกล้า เขียว สดใส ไร้เดียงสา สัมผัสน้ำใหม่ในนา ดูสดชื่น ตั้งลำต้นตรง อย่างรวดเร็ว นักเรียนดำนาเสร็จเรียบร้อยกลับเข้าห้องเรียน แต่น้ำในนา ยังพลิ้วไหว ให้ต้นกล้า สั่นพลิ้ว โบกสะบัดเบาๆ เหมือนจะบอกขอบคุณนักเรียนและผู้ปกครอง.ที่.ให้ต้นกล้า...ได้มาอยู่ในแปลงนาโรงเรียน.. ที่อบอุ่น ไร้มลพิษ ได้เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งแวดล้อมในโรงเรียน...กับอนาคต ที่เชื่อว่าจะงดงาม..อย่างแน่นอน.
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๑๑ สิงหาคม ๒๕๕๙
ไม่มีความเห็น