ปรัชญาและระบบการศึกษา -1.0
การศึกษาไทยติดกับดัก 'ปรัซญาและระบบการศึกษา -1.0' ซึ่งด้อยพัฒนาและล้าหลังมานาน เพราะสังคมไทยไม่ได้มองว่าการศึกษาคือการพัฒนาชีวิตคน ตามศักยภาพ สร้างทักษะและประสบการณ์ชีวิต สร้างสัมมาอาชีพและการทำงาน การสร้างคนให้มีจิตอาสา เสียสละเพื่อส่วนรวมสังคมและประเทศชาติ มิใยจะต้องไปกล่าวถึงความรู้และทักษะในศตวรรษที่ 21 เพราะสังคมไทยมองแคบๆ ว่าการศึกษาคือการท่องหนังสือเพื่อสอบและแข่งขันกันแย่งที่นั่งในโรงเรียน สถาบันการศึกษา และมหาวิทยาลัย เอาวิชาเป็นตัวตั้ง ไม่ได้เอาชีวิตคนเป็นตัวตั้ง มุ่งแต่ให้คนไต่เต้าไปเอาดี ไปเป็นเจ้าคนนายคน มีแต่ท่องหนังสือแบบไม่เข้าใจและเอาไปใช้ประโยชน์ได้น้อย เป็นการศึกษาที่แยกตัวออกจากปัญหาและความเป็นจริงของสังคม ให้ความสำคัญกับใบปริญญาบัตรมากกว่าความรู้ ทักษะ ประสบการณ์ และความสามารถจริงๆ ส่งเสริมวัตถุนิยมและบริโภคนิยม เอาแต่วัตถุเงินตราและหน้าตาเป็นเป้าหมายของชีวิตของคนในสังคมไทย
แต่การศึกษาไทยมีความผิดพลาดที่ฉกรรจ์ คือ การให้เด็กและเยาวชนเอาแต่ท่องจำวิชาเพื่อสอบเป็นการทำลายศักยภาพและสุขภาวะของเด็กและเยาวชน ทำลายความสนใจใฝ่รู้ ความกระตือรือร้น ความใฝ่ฝัน จินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ ฯลฯ ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญและจุดเน้นของการศึกษาสมัยใหม่ ในศตวรรษที่ 21 การศึกษาไทยจึงยังล้าหลังและติดค้างอยู่ในเวอร์ชั่น -1.0
เด็ก เยาวชน และผู้ใหญ่ไทย ซึ่งเป็นผลผลิตของปรัชญาและระบบการศึกษา -1.0 ส่วนใหญ่จึงขาดทักษะในศตวรรษที่ 21 (21st Century Skills) คิดไม่เป็น เขียนไม่เป็น พูดไม่รู้เรื่อง ปฏิบัติไม่ได้ ทำงานไม่เป็น ทำงานร่วมกับคนอื่นไม่ได้ ขาดทักษะและเครื่องมือที่จะศึกษาเรียนรู้ต่อไป อ่อนแอทางความคิดและจิตใจ ขาดความรับผิดชอบ ไม่มีวินัยในตนเอง ขาดความสำนึกและความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ขาดความเสียสละต่อส่วนรวมสังคมและประเทศชาติ เป็นปรัชญาและระบบการศึกษาที่สอนและสร้างคนไทยให้เป็นศรีธนญชัย เป็นส่วนใหญ่ และเป็นเวลานาน แม้จะกระทำทุจริตคอร์รับชั่น คดโกง ผิดกฎหมาย และศีลธรรมมาอย่างไร แต่ร่ำรวย มีหน้ามีตาในสังคม และมีอำนาจ ก็ไม่เป็นไร ยังให้การเคารพนับถือและยกย่องเชิดชูให้เกียรติได้
หากไม่สามารถปฏิรูปและเปลี่ยนแปลงปรัชญาและระบบการศึกษาไทยจาก -1.0 ให้เป็น 4.0 ได้ สังคมไทย 4.0 ระบบเศรษฐกิจ 4.0 และประเทศไทย 4.0 คงจะไม่ประสบผลสำเร็จ
ไม่มีความเห็น