บันทึกชุดเลี้ยงลูกสู่ความสำเร็จในชีวิตนี้ตีความมาจากหนังสือ Raise Great Kids : How to Help Them Thrive in School and Lifeซึ่งเป็นหนังสือชุดรวบรวมบทความเด่นจากนิตยสาร Scientific American Mind หนังสือเล่มนี้เพิ่งออกจำหน่ายในเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๙
บันทึกที่ ๗ ช่วยเด็กเรียนรู้สีและจำนวน ตีความจากบทความชื่อ Why Johnny Can’t Name His Colors โดย Melody Dyeบอกว่าโครงสร้างภาษาอังกฤษทำให้เด็กเล็กสับสนคำนามกับคำคุณศัพท์เพราะภาษาอังกฤษเอาคำคุณศัพท์นำหน้าคำนามที่มันขยายความเด็กมักจะจับความจากคำแรกเป็นหลักผู้ใหญ่ช่วยเด็กได้โดย พูดคำนามก่อนแล้วจึงค่อยขยายความด้วยคำคุณศัพท์ที่บอกสีหรือบอกจำนวนจะช่วยให้เด็กเรียนรู้คำเกี่ยวกับสีและจำนวนได้ง่ายขึ้น
เรื่องนี้อาจไม่ค่อยเป็นปัญหาต่อเด็กไทยเพราะภาษาไทยเราขึ้นต้นด้วยคำนาม ส่วนตำคุณศัพท์บอกสีและบอกจำนวนตามมาข้างหลังอยู่แล้ว แต่ผู้เขียนบอกว่า ข้อสรุปเชิงเดาของผมนี้ ยังไม่มีการทดลองพิสูจน์
ผู้เขียนสรุปประเด็นไว้ ๓ ประเด็น คือ
เรื่องนี้อาจดูเป็นเรื่องเล็ก แต่ผู้เขียนบอกว่าเป็นเรื่องใหญ่มากในอเมริกาที่เด็กจำนวนมากสับสนในการเรียนรู้คำเกี่ยวกับสีเช่นเมื่อเอาถ้วย ๔ ใบ เป็นถ้วยสีเดียวล้วน คือสีแดง เขียวน้ำเงิน เหลือง วางตรงหน้าเด็กอายุ ๒ ขวบบอกให้หยิบถ้วยสีเหลืองจะมีเด็กหยิบผิดจำนวนมากเพราะเด็กสับสนคำเกี่ยวกับสี
ผู้เขียนบอกว่า เพราะเด็กเรียนรู้เรื่องสีจากคำพูดที่ผู้ใหญ่พูดด้วยโดยเอาคำของสีเชื่อมโยง กับคำอื่นที่มาด้วยกันบ่อยๆเช่นเด็กได้ยินคำว่า red fire truck บ่อยๆแต่ไม่เคยได้ยินคำว่า red ice cream เลย ก็จะประกอบเป็นความเข้าใจเรื่องสีเชื่อมกับคำพูด
เขาทำงานวิจัยเพื่อพิสูจน์สมมติฐานว่าโครงสร้างภาษาอังกฤษดังกล่าวข้างต้นทำให้เด็กเริ่มหัดพูดเข้าใจ ภาษาเกี่ยวกับสีและจำนวนได้ยากหากใช้คำพูดสลับคำเอาคำนามมาก่อน แล้วค่อยขยายความด้วยคำคุณศัพท์ บอกสีหรือจำนวน เด็กจะเข้าใจง่ายขึ้นหรือไม่ผลลัพธ์คือใช่
เราต้องไม่ลืมว่า เด็กในวัยเด็กเล็กมีเรื่องให้เรียนรู้มากมาย
ผมอ่านเรื่องนี้แล้วค้างคาใจว่าเราน่าจะมีวิธีฝึกให้เด็กเรียนรู้คำเกี่ยวกับสีได้ง่ายๆไม่ว่าในภาษาใดโดยใช้ของเล่นเช่นมีรถเด็กเล่น ๕ คัน แต่ละคันสีเดียว เช่นสีแดง เหลือง เขียวน้ำเงินชมพูเราเอารถทั้ง ๕ คันมาให้เด็กเล่นและเรียกว่ารถซ้ำๆจนเด็กรู้ว่าลักษณะอย่างนั้นเป็นรถแล้วก็เอารถสีแดงมาบอกว่าสีแดง รถสีแดงเอาของอื่นที่สีแดง เช่นหมวกสีแดงปากกาสีแดงเด็กไม่น่าจะสับสน
ผมเถียงในใจว่า การสอนให้รู้สีโดยไม่ให้ดูสีน่าจะผิดเราน่าจะให้เด็กเรียนสีจากการมองดูและรับรู้สี ด้วยตนเองโดยจักษุสัมผัสของตนเองเชื่อมโยงกับเสียงที่เป็นคำบอกสีเป็นการเรียนโดยสร้างความรู้ขึ้นเองในสมองไม่ใช่โดยจับโยงจากถ้อยคำของผู้ใหญ่เท่านั้นไม่ทราบว่าวิธีคิดของผมเข้าป่าเข้าดง ไปไกลแค่ไหน
วิจารณ์ พานิช
๙ พ.ค. ๒๕๕๙
ไม่มีความเห็น