ชีวิตที่พอเพียง ๒๗๑๑ เฉียดหิมพานต์ ๓. ศรีนาการ์


ศรีนาการ์ หรือศรีนคร (Srinagar) เมืองมุสลิม ความสูง ๑.๕ กิโลเมตรเหนือระดับน้ำทะเลเมืองแห่งทะเลสาบและ บ้านเรือ ที่จริงทริปนี้เราไปเที่ยวไม่ไกลบ้านมากนักและพื้นที่อยู่ในเขตเส้นรุ้ง ๓๔ องศาเหนือเท่านั้นไม่ได้อยู่เหนือหรือ ใกล้ขั้วโลกอย่างที่ไปเที่ยวประเทศเขตทะเลบอลติก ในช่วงสงกรานต์ ซึ่งเราไปถึงเส้นรุ้ง ๖๐ องศาเหนือ ดังเล่าไว้ที่นี่

แต่เราก็ไปเที่ยวเขตหิมพานต์ คือใกล้ภูเขาหิมาลัย เห็นทิวเขาหิมาลัยอยู่ลิบๆทางทิศตะวันออกเฉียงใต้สมัยเด็กๆ อ่านเรื่องป่าหิมพานต์ รู้สึกว่าอยู่ไกล และไกลตัวเหลือเกิน ไม่เคยฝันว่าตัวเองจะมีบุญวาสนาได้ไปเยือนแต่เดี๋ยวนี้คนชั้นกลาง ไปเที่ยวได้สบายเมื่อวันที่ ๒๑ มิถุนายน มีคนมาเล่าให้ผมฟังว่าไปเที่ยวในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาในเวลา ๑ สัปดาห์ ใช้เงิน ทั้งหมดเพียง ๒๕,๐๐๐ บาทโดยไปกันเอง ไม่ได้ใช้บริการของบริษัททัวร์

ผมเข้ายูทูป ดูวีดิทัศน์ tourist attraction in Srinagar เพื่อหาความรู้ไว้ก่อนว่าจะไปพบเห็นอะไร

ชมวีดิทัศน์ของทิวทัศน์ ที่นี่

คนไทยที่เคยไปเที่ยวมาแล้ว เล่าไว้ที่ , รีวิวนี้สุดยอดครับ ใครจะไปเที่ยวควรอ่านอย่างยิ่ง

แต่หิมพานต์ในนิยายปรัมปรากับที่เราไปพบเห็นเองต่างกันนะครับเพราะเวลาอ่านนิยายปรัมปราเราจินตนาการ ตามประสบการณ์ชีวิตของตนเองคำว่าป่าของเรา เป็นป่าที่มีต้นไม้หนาทึบแบบป่าเขตร้อนแต่ป่าหิมพานต์อยู่สูงกว่า ระดับน้ำทะเล ๓ - ๕ กิโลเมตร และภูมิประเทศไม่เอื้อต่อการดำรงชีวิตจึงมีสิ่งมีชีวิตน้อยผมดูจากวีดิทัศน์ก่อนเดินทาง แล้วรู้สึกว่าเรากำลังจะไปเที่ยวในป่าหินไม่ใช่ป่าไม้

อ่านจากวิกิพีเดีย เรากำลังจะไปเที่ยวดินแดนแห่งหัตถกรรม และผลไม้แห้งก็แสดงว่าเขาต้องมีต้นผลไม้มากเหมือนกัน และหัตถกรรมลือชื่อคือผ้าแคชเมียร์ ที่ทอจากขนสัตว์

เย็นวันที่ ๒๓ สาวน้อยกับผมชมวีดิทัศน์นำชมความงามของ Kashmir ชุดนี้ สดชื่นอย่างยิ่ง

สวนชาลิมาร์ (Shalimar Bagh) สวนแห่งความรัก ที่ชาห์จาฮานกีร์สร้างให้แก่พระมเหสีนูร์จาฮานกษัตริย์องค์นี้เป็นพ่อของชาห์จาฮานที่สร้างทัชมาฮาลเป็นสวนโมกุล (Mughal Garden) ที่ใหญ่ที่สุดในสามสวนในเมืองนี้ ดูวีดิทัศน์ ที่นี่

สวนนิฉัท (Nishat Bagh) สวนโมกุลใหญ่ที่สองและมีดอกไม้สวยงามเช่นเดียวกันดูวีดิทัศน์ ที่นี่

ข้างบนนั้นเขียนที่บ้านเมื่อวันที่ ๒๒ และ ๒๓ มิถุนายนต่อไปนี้เขียนหลังเดินทาง

๒๕ มิถุนายน ๒๕๕๙ วันเสาร์

นั่งรถจากโรงแรม Country Inn & Suite ใกล้สนามบินเดลี ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ถึงสนามบินโดยไปทางโทลเวย์ ที่เรามองเห็นจากหน้าต่างโรงแรมเป็นถนนกว้างและสวยงามสนามบินก็กว้างมาก และใหม่ทันสมัยพิธีกรรมเข้าสนามบิน จำเพาะสำหรับอินเดียเพื่อป้องกันคนเข้าไปนอนในสนามบิน เขาจึงอนุญาตให้คนที่มีบัตรโดยสารและพาสปอร์ตเท่านั้นเข้าเราต้องเข้าแถวเข็นกระเป๋า เอาบัตรโดยสารและพาสปอร์ตให้เขาตรวจแล้วไปที่เคาน์เตอร์ของ Jet Airlinesคุณอุ้ยและทีม ไปจัดการ ต้องเอาพาสปอร์ตตัวจริงไป

เราได้รับแจกบัตรติดกระเป๋าถือสำหรับติดสิ่งของทุกชิ้นที่เราถือขึ้นเครื่องสำหรับเมื่อผ่านการตรวจความปลอดภัย เจ้าหน้าที่จะลงตราว่าผ่านการตรวจแล้วของที่ไม่มีตรานี้ห้ามเอาขึ้นเครื่อง

เรายืนรอจนเมื่อยแล้วเมื่อยอีกก็ได้ boarding pass พร้อมพาสปอร์ตคืนแล้วเดินไปผ่านพิธีตรวจความปลอดภัยแล้วเดินไปที่ประตู ๔๗ ไกลมาก มีทางเลื่อนให้เดินเป็นระยะๆ

เครื่องบินเป็น Boeing 737-800 เหมือนเดิม เลี้ยงอาหารว่างเป็นแซนวิชไก่หรือผักไม่อร่อยกาแฟก็สู้ของการบินไทยไม่ได้

ถึงศรีนาการ์ เมื่อออกจากเครื่องบิน มีเจ้าหน้าที่มาคอยตรวจ boarding passเป็นครั้งแรกที่ผมพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ทราบว่าเหตุผลคืออะไรเดาว่าเพื่อการรักษาความปลอดภัยเพราะแคชเมียร์เป็นดินแดนแห่งความขัดแย้งระหว่าง อินเดียกับปากีสถาน

ลงจากเครื่องบิน ทางทัวร์ของศรีนาการ์ไปรับ มีคนไปขนกระเป๋าถึงสายพานแต่เราก็ต้องตรวจอีกทีว่าเขาเอากระเป๋าของเราขึ้นรถเข็นหรือยังแล้วเดินตามเขาไปขึ้นรถ Innova รวม ๘ คันคันละ ๔ คน โดยทางทัวร์เขาจัดทีมไว้ล่วงหน้าแล้วสาวน้อยกับผมนั่งคันที่ ๑ ร่วมกับคุณเปาและคุณก้อม พาไปบ้านเรือชื่อ Wangnoo Sheraton อยู่ริมทะเลสาบ Nigeenโดยสร้างเรือนพักลักษณะคล้ายเรือยื่นลงไปในทะเลสาบมีระเบียงอยู่ในทะเลสาบถัดเข้ามาเป็นห้องนั่งเล่นห้องอาหารและห้องพัก ๑๐๑ - ๑๐๔ คือเรือหนึ่งลำพักได้ ๘ คนกินอาหารด้วยกัน เป็นอาหารแบบพื้นเมืองมีข้าวสวยที่กินคล้ายข้าวไทยมากกว่าที่เดลีไก่ทอดเนื้อปลาทอดกระหล่ำปลีผัดและถั่วฝักยาวผัดและทางธัมมาทัวร์เอาน้ำพริกมาปรุงรสด้วย

กินเสร็จนัดออกไปเวลา ๑๕.๓๐ น.เขาจัดเลี่ยงอากาศร้อนโดยพาไปร้านขายพรมและผ้าพาชมินา ชื่อ Sultan Sons Cottage Emporium ไปชมการอธิบายและแสดงพรมคุณภาพดีที่ทำด้วยขนแกะและแคชเมียร์คุณเปากับหมอสมศักดิ์รวมกันต่อ ๒ ผืน ราคาผืนละ ๗๕๐ เหรียญสหรัฐจากราคาที่บอกตอนแรกสองพันและเมื่อซื้อแล้วเขาชวนซื้ออีก คุณเปาบอกส่งๆ ว่าหากขาย ๔๐๐ จะซื้อลงท้ายเขาขายให้จริงๆ ราคา ๔๕๐ จากราคาเดิมสองพันสอง

กว่าจะออกจากร้านพรมก็เวลา ๑๗ น. ไปเที่ยวสวนนิฉัท กับสวนชาลิมาร์ แห่งละ ๓๐ นาทีได้ถ่ายรูปวิวและดอกไม้สวยสวนแรกเป็นสวนสร้างให้มเหสีสวนหลังสร้างให้ตัวเองซึ่งเป็นกษัตริย์ จึงต้องมีท้องพระโรงด้วย ทั้งสองสวนเป็นสวนโมกุล ซึ่งมีลักษณะพิเศษคือ ออกแบบให้มีแกนกลางขึ้นไปบนเขาสองข้างจัดสวนให้สมมาตรกัน

เรากลับไปกินอาหารเย็นที่โรงแรมเป็นอาหารพื้นเมืองแบบง่ายๆด้วยถาดหลุมมีข้าวแกงปลาผักโขม

ตกค่ำมีคนมาขายผ้าพาชมินาเสื้อกันหนาวพาชมินาซึ่งเป็นของเกรดต่ำแต่ก็ต่อราคาลงไปถูกมากสาวน้อยซื้อเสื้อกันหนาวราคาเพียง ๑,๐๐๐ รูปี (๕๐๐ บาท)ผมจึงให้ไปซื้อให้ผมตัวหนึ่ง ได้สีขาวราคาเดียวกัน

ห้องนอนมีแอร์ แต่ไม่เย็นและมีพัดลมเพดานนอนไม่สบาย

๒๖ มิถุนายน ๒๕๕๙

ผมตื่นก่อน ๖ น. แต่ก็สว่างแล้วพระอาทิตย์ขึ้นไปนานแล้ว ผมสวมกางเกงขาสั้นเสื้อยืดออกไปวิ่งออกกำลังพบว่าอากาศเย็นสบายน่าจะราวๆ ๒๐ องศาได้สังเกตภูมิประเทศว่ามีสวนสาธารณะอยู่ด้านหน้ากลุ่มบ้านเรือ ที่ให้บริการนักท่องเที่ยวและบ้านเรือมีเป็นแนวยาวอยู่ทั้งสองฝั่งทะเลสาบ Nigeenแต่ความคึกคักน้อยกว่าที่ทะเลสาบ Dal อย่างเทียบกันไม่ติด

วันนี้ตอนเช้าเรานั่งรถขึ้นเขาไปกุลมาร์ก ระยะทาง ๕๖ ก.ม. ใช้เวลา ๒ ชั่วโมงความสูง ๒,๗๓๐ เมตรเหนือระดับ น้ำทะเลพอเข้าไปใกล้ช่วงขึ้นเขาก็เห็นวิว ยอดเขามีหิมะปกคลุม สร้างความตื่นเต้นแก่นักถ่ายรูปตอนขึ้นเขาวิวสวย เห็นทั้งดอกไม้ป่าขึ้นเต็มเนินเขาและเห็นต้นสนขึ้นอยู่เต็มหุบเขาขึ้นไปถึงกุลมาร์กเห็นฝูงม้าบริการและเจ้าของม้า รอลูกค้าอยู่ขวักไขว่เราเดิน ๑ กิโลเมตรไปยังสถานีเคเบิ้ลคาร์ขึ้นเขาเข้าคิวอยู่นานขึ้นถึงสถานีจอดอากาศเย็นสบาย และวิวยอดเขาสวยงามถูกใจนักถ่ายรูปแถมยังมีกองทัพพ่อค้าผ้าพาชมินา มาขายในราคาที่ต่อได้ถูกเหลือเชื่อไกด์ท้องถิ่นบอกว่าเป็นผ้าขนสัตว์แต่ทอด้วยเครื่องจักรถึงตอนนี้เราพอรู้แล้วว่า ขนสัตว์มีหลายตำแหน่งร่างกายสัตว์ และหลายเกรดแน่นอนว่าของราคาถูกก็ย่อมมีคุณภาพย่อมเยาลงด้วย

ช่วงบ่ายเราเที่ยวศรีนาการ์ โดยไปเที่ยวมัสยิด จามาและล่องทะเลสาบ Nigeen ทริปนี้เราเที่ยว ๓ ทะเลสาบ นี่เป็นทะเลสาบเดียวที่มีสิ่งมีชีวิตอุดมสมบูรณ์

Jama Masjid อายุกว่า ๖ ร้อยปีมีบริเวณใหญ่โตกว้างขวาง อยู่ในเขตเมืองเก่าล้อมรอบด้วยร้านค้าทำให้มองจาก ภายนอกไม่สง่าเท่าที่ควรแต่เมื่อเข้าไปข้างในบริเวณก็จะรู้สึกถึงความโอ่อ่าและเป็นสถาปัตยกรรมที่แปลกมีคนเอ่ยว่า ยอดอาคารคล้ายวัดพม่าส่วนที่เป็นโดมอยู่ที่ยอดหลังคาด้านหนึ่ง เป็นโดมเล็กๆ พอเป็นสัญลักษณ์ คนที่นี่มีไมตรีจิตเรายืนชมและถ่ายรูปด้านล่างอาคาร เพราะไกด์บอกว่า ไม่อนุญาตให้เข้าไปในอาคารแต่คนมุสลิมมาเชิญเราทั้งคณะขึ้นไปบนอาคาร ทำให้เราได้เห็นความงามของเสาไม้ ซึ่งมีถึง ๓๗๘ ต้น และได้เห็นพฤติกรรมของคนในมัสยิด ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงถือศีลอด

ช่วงชมมัสยิด อากาศร้อนอบอ้าวมากพอไปลงเรือล่องทะเลสาบอากาศร้อนก็คลายลง ได้ลมเอื่อยๆ จากเรือที่เคลื่อนไปจากฝีพาย ที่พายช้าๆได้เห็นต้นบัว และกลุ่มคนตกปลาในทะเลสาบล่องทะเลสาบโดยลงเรือฝั่งตรงข้าม กับโรงแรมบ้านเรือล่องอญุ่ประมาณ ๑ ชั่วโมงไม่วายมีเรือขายของมาเสนอขายสินค้าหลายชนิด

กลับไปกินอาหารเย็นที่โรงแรมบ้านเรือ

วิจารณ์ พานิช

๒๖ มิถุนายน ๒๕๕๙

ห้อง ๑ เรือลำที่ ๒โรงแรม Wangnoo Sheraton, Srinagar, India


1 เมืองศรีนาการ์



2 โรงแรมบ้านเรือ Wangnoo Sheraton



3 บรรยากาศการกินอาหารมื้อแรก เป็นอาหารเที่ยง


4 เรือสินค้าเริ่มเข้ามาทักทาย


5 รถโดยสารในศรีนาการ์



6 รถแผงลอยขายผัก



7 เจ้านี้ขายเฉพาะแตงโม


8 ไปซื้อพรม


9 ทะเลสาบดาล


10 ทางไปสวนนิฉัทและสวนชาลิมาร์


11 ในสวนนิฉัท


12 ในสวนชาลิมาร์


13 สวนชาลิมาร์



14 ห้องรับแขกภายในโรงแรมเรือ



15 ที่ระเบียงโรงแรมเรือ



16 บรรยากาศอาหารเช้าที่โรงแรมเรือ



17 ทางขึ้นเขาที่กุลมาร์ก



18 สองข้างทางเต็มไปด้วยดอกไม้ป่า


19 ด้านหน้าคือสนามกอล์ฟกุลมาร์ก หน้าหนาวเป็นลานสเก๊ตน้ำแข็ง


20 ด้านขวามือเป็นสนามกอล์ฟ


21 นั่งเคเบิ้ลคาร์ขึ้นเขา


22 บรรยากาศบนเขาที่กุลมาร์ก


23 บ้านาวเขาที่กุลมาร์ก ถ่ายจากเคเบิ้ลคาร์



24 ยอดหลังคา Jama Masjid ส่วนที่มีโดมเล็กๆ



25 บรรยากาศบนอาคารมัสยิด


26 นั่งเรือล่องทะเลสาบ


27 วิวทะเลสาบ

หมายเลขบันทึก: 610992เขียนเมื่อ 21 กรกฎาคม 2016 12:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 กรกฎาคม 2016 08:13 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท