เรื่องเล่าสถานที่สำคัญในมหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ศาลพระภูมิเจ้าที่แปลงเปลี่ยนเป็น “ศาลกระดิ่ง”
ในยุคก่อนเป็น มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ศาลพระภูมิเจ้าที่เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของนิสิตและบุคลากรเป็นอย่างมาก อาทิ ยามเจ็บไข้ได้ป่าวเราก็ไปกราบขอพรและอธิฐานกันที่นั้นเสมอ จะสอบแต่ล่ะที่ ก็จะเห็นนิสิตไปบนบานศาลกล่าวอย่างเนืองแน่น ศาลทั้งศาลก็จะเต็มไปด้วยพวงมาลัย และดอกไม้ธูปเทียน สำหรับวันนี้ศาลพระภูมิเจ้าที่ดูจะระครึ้มและขรึมขลังเป็นอย่างบอกไม่ถูก ตัวศาลถูกห่มคลุมไปด้วยใบไม้อันดกหนา แถวบริบทรายรอบตัวศาลพระภูมิยังหลากล้มไปด้วยระฆังระโยงรยางค์เต็มไปหมด ครั้นเมื่อใดที่สายลมแผ่วผ่านมาต้องสัมผัสกับระฆังหรือกระดิ่ง ก็พลอยเกิดเสียงกังวานใสไล่เรียงกันเป็นจังหวะๆราวกับมีคนไปเดินเคาะและแกว่งไกว แต่สิ่งที่น่าแปลกใจและเป็นคำถามที่ส่วนตัวของผมสงใสก็คือว่า “ทำไมเราต้องนำกระดิ่งไปบนบานศาลกล่าว และใครเป็นจุดเริ่มต้น” แต่เมื่อนำไปบนแล้วกลับได้สิ่งที่บนบานไว้ มันคือสิ่งตอกย้ำว่า เราควรนำกระดิ่งไปบนบานศาลกล่าวที่ศาลกระดิ่ง สุดท้ายนี้ศาลกระดิ่งก็ยังเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของนิสิตนักศึกษาทั่วทั้งมหาวิทยาลัย
กระดิ่งที่นำมาบนบานศาลกล่าว