แม่เมตตา ลูกร่าเริง ใจเข้มแข็ง


เมื่อปล่อยวางใจ ได้จิตคิดบวก พวกเราเบากาย สบายสร้างสรรค์ พัฒนาทุกคน ให้สนใจโลก ไม่โศกก่อนสาย ไม่ตายเปล่าเอย
นี่คือนิยามกลอนอธิบายกิจกรรมบำบัดจิตสังคม (กิจ คือ จิตจดจ่อ กรรม คือ กายกระทำ บำบัด คือ พัฒนา จิต คือ รับรู้สึกนึกคิด สังคม คือ สื่อสารภายในกับภายนอกตัวตน) จากงานจิตอาสากว่า 10 ปีที่เปลี่ยนแปลงสุขภาวะตนและสังคมไทย...ฝันผมเป็นจริงแล้ว...ขอบพระคุณคุณพ่อคุณแม่คุณครูคุณพี่น้องเพื่อนและตัวเอง






คืนนี้ค้นหาความดี สติมีสัมพันธ์กัน เราฉันสื่อสารดวงใจ ใฝ่ฝันถึงเราทำดี ชีวิตชีวาสุขทุกข์ คลุกเคล้าปล่อยวางความหมาย ให้คลายพักนิ่งทบทวน เราล้วนให้อภัยเอย

ประสบการณ์นี้มีคุณค่า กิจกรรมการพัฒนาเด็ก...จิตจดจ่อกายคลายใจให้อารมณ์ดี...มีสังเกตปลุกพลังสมองจากเสียงภาวนากับดนตรีคลาสสิค...ตา หู จมูก ลิ้น กาย และดวงใจใส่สติสัมปชัญญะรวมหัวใจกับจิตใจเพือรักตัวเองสื่อสารลูก


ผลลัพธ์สร้างสรรค์ รักกันแม่ลูก จิตผูกพันมั่น ทีมทันสามารถ คุยคาดวางแผน สุดแสนคุณค่า ร่ำลาอารมณ์ บ่มเพาะความดี


ค่ายนี้มีรัก นักกิจกรรม ทำจิตจดจ่อ ขอพัฒนา อาสาช่วยเด็ก เช็คสมองใจ ไออุ่นคุณแม่ แน่แท้สื่อรัก พักพิงฝึกฝน ดลบันดาลเอย


หนึ่งพันธกิจชีวิต จิตสังคม ผมสือสาร สานปัญญา ค่าน้ำนม บ่มความดี มีเมตตา พาเข้มแข็ง แบ่งปันใจ ให้ร่าเริง เชิงสร้างสรรค์ พลันสุขเอย


ขอบพระคุณคุณแม่นก คุณแม่ๆลูกๆ รวมทั้งคุณครูการศึกษาพิเศษ อจ.กับนศ.กิจกรรมบำบัด และนักกายภาพบำบัดทุกท่านทีถอดบทเรียนได้ดีเยี่ยมครับ


แม่นกเฟสว่า "ทราบซึ้งน้ำใจของ อ. ป๊อบมากที่ ทุ่มเทตั้งใจ ช่วยเหลือพวกเราอย่างไม่หวังสิ่งใดๆ ตอบแทน แม่นกจะจำและทำตามอย่างอ. ป๊อบ ขอแม่นกเป็นลูกศิษย์อีกท่านนะคะ"

ท้ายสุดผมประทับใจในจดหมายของคุณแม่นกถึงน้องลูกหินผู้จากไปโลกนี้ไปแล้ว

จดหมายถึงลูกหิน
5 ก.ค. 59

หลังจากหนู...หมดกรรมบนโลกมนุษย์แล้ว
แม่ก็มีปณิธานอันยิ่งใหญ่เพื่อหนู ด้วยการขออุทิศชีวิตนี้ ช่วยงานเด็กพิการ...จนกว่าจะหมดลมหายใจเช่นกัน แม้รู้ว่ามันเป็นงานยากและต้องเหนื่อยอีกนาน แต่มันก็ไม่ทำให้ใจของแม่ หวั่นไหวเลยแม้แต่น้อย

บ้านของเราจึงเกิดงานบุญใหญ่ๆ ติดต่อกันหลายงาน และวันที่ 1-2-3 ก.ค. 59 ที่ผ่านมา เรามีงานใหญ่ที่แม่เองก็ตื่นเต้นเช่นเดียวกัน คือ โครงการ “ค่ายสร้างมืออาชีพ เพื่อช่วยเด็กพิการรุนแรง”

งานนี้มีผู้คนมากมาย ทั้งเสียสละตัวเอง ทั้งมารับความช่วยเหลือ อิ่มอกอิ่มใจไปตามๆกัน แม่จึงอยากมาเล่าสู่ให้หนูฟังว่า สิ่งที่ทำมันเกิดประโยชน์กับผู้คนมากมายจริงๆ ลูกรักของแม่

กลุ่มที่ 1 คือ กลุ่มวิทยากร ได้แก่
ดร.ป๊อบ อ.แอน อ.เดียร์ ทั้ง 3 ท่าน มาจากกลุ่มสาขาวิชากิจกรรมบำบัด คณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล ท่านเสียสละแรงใจ แรงกายมาสอน พร้อมๆ กับการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ในตัวแม่อย่างพวกเรา ดร.ป๊อบ คนเก่งของเรา แม่รู้ว่าท่านเก่งมาก เพราะท่านเคยสอนให้แม่ครั้งหนึ่งตอนเดือนมค. 59 ครั้งนั้นหนูยังมีชีวิตอยู่เลย ท่านมาสอนการหายใจที่ถูกต้อง และการกลืน จนแม่อึ้งอยู่พักใหญ่ว่าเลี้ยงลูกมาตั้ง 15 ปี แต่ไม่รู้เลยว่า หนูหายใจทางปาก และนั่นแหละเป็นจุดเริ่มต้นของงานวันนี้ เพราะหนูทำให้แม่รู้ว่า เพื่อนๆ ของหนูหลายคนคงขาดความรู้ที่สำคัญเหมือนกัน

ในงาน 3 วัน 2 คืน ท่านตั้งใจสอนพวกเรา ทั้งความรู้ที่ทั้งแปลกใหม่ มหัศจรรย์ ทั้งการเพาะบ่มความดี ใส่เข้าไปในตัวแม่ๆ ทั้งหลาย ท่านมีความรู้มากมายจริงๆ จนพวกเรามึนกันไปหมด แม่เองก็มึนเช่นกัน เลยคิดว่า ต้องทำเป็นหนังสือ หาคนจดบันทึกและถอดความรู้ออกมาให้มากที่สุด และนำความรู้นี้ไปเผยแพร่ต่อไปอีก

แต่สิ่งที่แม่ประทับ ดร.ป๊อบมากที่สุดคือ ความทุ่มเท ความตั้งใจ เกินร้อย ขนาดนึกขึ้นได้กลางดึก ตอนตี 2 ก็ยังตื่นมาเตรียมงาน เพื่อให้ทุกคนชาวค่ายได้รับความรู้อย่างเต็มเปี่ยม แม่ให้ค่าตอบแทนท่านเพียงเล็กน้อย … ท่านปฏิเสธ ไม่รับ และบอกว่า ตั้งใจมาช่วยด้วยหัวใจ... แถมไม่พอ ยังบริจาคกลับมาช่วยเด็กๆ อีกตั้ง 36,000 บาท มันทำให้แม่รู้ว่า การให้มันยิ่งใหญ่ขนาดไหน ขอบคุณจริงๆ ที่ลูกทำให้แม่ได้รู้จักแต่คนดีๆ อย่างดร.ป๊อบที่มีแต่ความเสียสละในหัวใจ ขอบพระคุณจริงๆ

กลุ่มที่ 2 ที่แม่อยากกล่าวถึง คือ กลุ่มผู้ให้ทุน มูลนิธิ SCG
คุณพิชิต ลีละพันธ์เมธา : ผู้อำนวยการสำนักงานบัญชีส่วนกลาง, น้องเอื้อย และทีมงาน SCG ทุกๆ ท่าน ที่ทั้งช่วยในการ
- มอบทุนในการจัดค่ายดีๆ ให้เกิดขึ้น
- นำพนักงานของ SCG โดยเฉพาะน้องเอื้อย มาช่วยทำงานรวมใจเป็นหนึ่งเดียวในงานค่าย 3 วัน 2 คืน ที่ทุ่มเททำงานอย่างหนักเพื่อเด็กๆ และคนที่ชักนำให้แม่รู้จักน้องเอื้อย คือ น้องป่าน อาสาสมัครประจำบ้านแม่นกที่แนะนำมาให้รู้จักกันอีกที เรียกว่า รู้จักต่อๆ ไป เพื่อชวนกันมาสร้างความดีบนโลกมนุษย์นี่เอง
- มามอบเครื่องดูดเสมหะที่ต้องใช้ในยามจำเป็น สำหรับ 4 ครอบครัว
- และเห็นคุณค่าของพวกเรา พร้อมทั้งมาพูดให้กำลังใจในการเลี้ยงลูกที่พิเศษกว่าใครๆ

พวกเราได้พยายามเลี้ยงลูกอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่ … SCG มาสร้างและเพิ่มโอกาสให้เรามีความรู้ จนสามารถยืนได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง เป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่จริงๆ จ๊ะลูกจ๋า แม่ต้องขอบพระคุณจริงๆ

กลุ่มที่ 3 อาสาสมัคร ที่มาจากหลากหลายอาชีพ มาช่วยเติมเต็มในงานนี้
- ทั้งช่างภาพมืออาชีพ 2 ท่าน คุณเอ เพื่อนของน้องเอื้อย ตั้งใจมาช่วยถ่ายภาพ...จนแม่เห็นแล้ว ชอบภาพมากๆๆๆๆ และคุณไพบูลย์ ต้องบอกไว้เลยว่า ท่านนี้เป็นอาสาสมัครคนเก่งประจำบ้านแม่นกเลย ไม่ว่างานไหนๆ ถ้าไม่ติดอะไร เป็นต้องมาให้ทุกงาน ทั้งถ่ายภาพ ทั้งช่วยประสานงาน บางอย่างที่แม่ไม่ถนัด แถมไม่พอ ยังช่วยเผยแพร่ เรื่องราวของพวกเราผ่าน FB ให้ทุกคนได้รู้จักเรา มากยิ่งขึ้นไปอีก
- ผู้จดบันทึกในงาน งานนี้แม่ต้องขอบคุณครูชัย นะลูก ที่แนะนำคนมีคุณภาพมาช่วยจดบันทึก เพราะแม่ต้องการนำความรู้นี้ไปเขียนเป็นหนังสืออีก เพื่อพิมพ์ และแจกจ่ายให้คนที่เค้าสนใจ จะได้เป็นวิทยาทานต่อๆ กันไปอีกละจ๊ะ ลูกจ๋า

- และอาสาสมัครที่เราไม่เอ่ย ไม่ได้ คือพวกแม่ๆ ของเรานี่แหละที่ช่วยกันคนละไม้ คนละมือ ร่วมทำกิจกรรม ทั้งตัวเองต้องมารับความรู้ในงาน แถมต้องมีหน้าที่กันคนละงานสองงาน

บางคนก็ต้องเป็นแม่บ้าน คอยดูแลอาหารการกินให้เพียงพอกับทุกคน บางคนก็ต้องทำบัญชีในงานให้เรียบร้อย บางคนต้องเป็นทั้งแม่ ทั้งพิธีกรในงาน พวกเราต่างก็ทำหน้าที่ของตัวเองให้สมบูรณ์ เพื่อให้เพื่อนๆ ของหนูได้รับความรู้ บวกความรักอย่างเต็มที่ แม่อยากบอกลูกว่า งานนี้ ไม่ใช่เด็กๆ เท่านั้นนะค่ะที่ได้รับประโยชน์ ผู้ใหญ่อย่างพวกแม่ ก็โดนฝึกจิตด้วยเช่นกัน ฝึกอะไรนะหรอ ก็ฝึกให้แม่พูดกับลูกด้วยภาษาดอกไม้ และอ่อนโยนกับหนูไงคะ ที่สำคัญให้ฉลาดในอารมณ์ คือไม่เป็นทาสของความโกรธ ความเศร้า ความกลัว นะซิลูกจ๋า

ดร.ป๊อบสอนพวกเราว่า
ถ้าลูกโกรธ ต้องมีเมตตากับลูก ด้วยการพูดว่า “ลูกดี”
ถ้าลูกเศร้า ต้องทำให้ลูก ร่าเริง ด้วยการพูดว่า “ลูกมีพลัง”
ถ้าลูกกล้ว ต้องทำให้ลูก เข้มแข็ง ด้วยการพูดว่า “ลูกเก่ง”

เยอะแยะมากมายในค่าย ที่มีแต่สิ่งดีๆ เกิดขึ้นมากมายจนไม่สามารถบรรยายออกมาได้หมด ต้องทำเป็นหนังสือเท่านั้น ถึงจะครบถ้วน

อ้อ และอีกกลุ่มที่แม่ต้องพูดถึงก็คือ คุณครูจากศูนย์การศึกษาพิเศษทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น ศูนย์การศึกษาพิเศษดินแดง ส่วนกลาง กรุงเทพมหานคร, ศูนย์การศึกษาพิเศษกาญจบุรี, และมูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ แม่มีความตั้งใจอย่างแรงกล้า ที่จะทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับเด็กพิการ ได้รับความรู้ และกระจายไปช่วยเหลือในโรงเรียนเด็กพิเศษด้วย อยากให้คุณครูได้เรียนรู้เทคนิค มากมายจากวิทยากรคนเก่งของเรา

สมใจแม่จริงๆ และแม่เองก็ต้องขอบพระคุณที่คุณครูทั้งหลาย ยอมมาเรียนในส่วนที่ตัวเองรู้มาแล้ว หรือเรียกได้ว่า ท่านทำตัวเป็นน้ำครึ่งแก้วเสมอ ขอบคุณจริงๆ งานนี้ตอนแรกๆ แม่คิดว่าคงไม่เหนื่อยสักเท่าไหร่ แต่ที่ไหนได้ พอกลับมาถึงบ้าน ต้องนอนอย่างเดียว เพราะมันเพลียสมองคะลูก แม่คงใช้หัวคิดตลอดเวลา เพราะต้องดูแลคนในค่าย กว่า 50 ชีวิต ให้พวกเค้าปลอดภัยโดยเฉพาะเด็กๆ และได้รับประโยชน์อย่างคุ้มค่า ให้สมกับที่เค้าเสียสละตัวเองมารับความรู้ในครั้งนี้ เพราะชีวิตของแม่เป็นชีวิตที่เกิดมาเพื่อลูก และเกิดมาเพื่อช่วยเหลือคนอื่น
รู้สึกภูมิใจในหน้าที่ที่ได้รับ ถึงแม้ว่าจะเหนื่อย แต่แม่ก็มีความสุขเป็นที่สุด และต้องขอขอบพระคุณทุกๆ คน ทุกๆ ท่านจากใจ

ลูกรู้ไหมค่ะ ทุกครั้งที่เริ่มทำงานช่วยเหลือผู้อื่น แม่จะขอนุญาติบอกเล่า ปณิธานของตนเองเสมอว่า

เมื่อหนูยังมีชีวิตอยู่
หน้าที่ของแม่ …คือ ทำหน้าที่ให้หนูพ้นทุกข์จากโรคที่เป็นอยู่

และเมื่อหนูจากไปแล้ว
หน้าที่ของแม่...คือ ทำหน้าที่สร้างคุณงามความดีให้เพื่อนมนุษย์ และส่งกุศลให้หนู สูงที่สุดเท่าที่แม่คนนี้จะทำให้ได้
ภูมิใจที่มีลูกพิการ

แม่จะทำงานยึดงานในสายพระโพธิสัตว์ดั่ง พระแม่กวนอิม ท่านสอนว่า
อุทิศเสียสละเพียงหนึ่งส่วนแห่งศรัทธาจริงใจ
ยิ่งได้รับชีวิตผาสุกชื่นบานมิอาจประมาณ

อุทิศเสียสละเพียงหนึ่งส่วนแห่งความเมตตา
ยิ่งได้รับแรงปณิธานมิอาจประมาณ

อุทิศเสียสละเพียงหนึ่งส่วนแห่งธรรมะเป็นทาน
ยิ่งได้รับกำลังใจช่วยเหลือมิอาจประมาณ

อุทิศเสียสละเพียงหนึ่งส่วนแห่งวิทยาธรรมเป็นทาน
ยิ่งได้รับบุญวาสนาเพิ่มพูนมิอาจประมาณ

อุทิศเสียสละเพียงหนึ่งส่วนแห่งทรัพย์เป็นทาน
ยิ่งได้รับปัญญาดำเนินธรรมมิอาจประมาณ

อุทิศเสียสละเพียงหนึ่งส่วนแห่งวันเวลา
ยิ่งได้รับชีวิตปัญญาญาณมิอาจประมาณ

เป็นบุญของแม่ที่มีหนูมาเป็นครูสอน หนูต้องใช้ชีวิตที่ดูเหมือนมีแต่ความทุกข์ทรมาน มาพร่ำเพียรสอนให้แม่ เก่ง แกร่ง อดทน พยายามครั้งแล้ว ครั้งเล่าแก้ไขปัญหาด้วยปัญญา ต้องมีสติเป็นที่ตั้ง และสุดท้ายแม่ต้องอุทิศชีวิตของตน เพื่อทำงานช่วยเด็ก ให้พ้นจากทุกข์ เท่าที่สามารถของแม่จะทำได้
และแม่ก็พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่า
ชีวิตของหนูที่เป็นทุกข์ สามารถเปลี่ยนเป็นความสุขได้ไม่ยาก
ถ้าเรารู้จักใช้วิกฤตให้เป็นโอกาส

รักหนูสุดหัวใจ
(แม่นก)

ขอบพระคุณคุณแม่นกและทีมงานทุกๆท่านที่ช่วยนำพาให้ผมได้บอร์ดงานมหิดลวันแม่ปีนี้ได้ยอดเยี่ยมมากครับ คลิกชื่นชมข่าวมหิดลได้ที่นี่


หมายเลขบันทึก: 609727เขียนเมื่อ 4 กรกฎาคม 2016 16:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 พฤษภาคม 2020 08:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

สุดยอดเลยค่ะ ทุกๆท่าน ซาบซึ้งใจไปด้วยเลย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท