สวัสดีวันจันทร์อันสดใส ยินดีต้อนรับเข้าสู่สัปดาห์ที่ 3 ของการฝึกสอนอย่างเป็นทางการกับการทำหน้าที่ยืนรับนักเรียนเช่นเคย แต่วันนี้มีเรื่องหน้าแตกแต่เช้าเลย ขณะที่ฉันทำหน้าที่เปิดประตูเพื่อรับเด็กลงจากรถ พร้อมกับพูดประโยคคุ้นชิน ที่ว่า “สวัสดีคุณพ่อ/คุณแม่ หรือยังคะ” ด้วยความซื่อของเด็กก็ได้ตอบกลับฉันมาว่า “ไม่ใช่พ่อครับ ลุงหนาน” ... อะไรกัน ฉันถึงกลับทำหน้าไม่ถูกเลยค่ะ ส่วนหน้าลุงหนานอะไรนั่นก็ทำหน้าเคร่งขรึมเอาซะเหลือเกิน โอเคเลยค่ะ ครั้งหน้าจำไว้เลยนะ ต้องพูดว่า “สวัสดีค่ะ ลุงหนาน”
ผ่านไปกับภารกิจหน้าเสาธง เข้าสู่การเรียนการสอนในคาบเรียนที่ 1 ภาษาไทย วันนี้สอนเรื่อง มาตราแม่เกย (นักเรียนถามว่าทำไมต้องเรียนด้วยครับ เอ้า! ก็ต้องเรียนสิคะ ไม่งั้นจะสะกดคำ หรืออ่านหนังสือได้ยังไง เด็กนักเรียนก็ทำหน้างง ๆ ไป นี่เราตอบไม่ดีหรือเปล่า แต่ก็ท่าจะจริง เพราะตอนนั้น ยังอึ้งอยู่กับคำถาม และยังคิดอยู่ว่าจะต้องตอบคำถามเด็กว่ายังไง) สำหรับการสอนในวันนี้มีบทร้อยกรองมาเป็นสื่อ เพื่อให้นักเรียนช่วยกันหาคำในมาตราแม่เกย หลังจากสอนเสร็จในขั้นสรุปก็ให้นักเรียนสรุปความรู้เป็นแผนผังมโนทัศน์ลงในสมุด ... ผ่านไป 1 วิชา
เมื่อถึงเวลาพาเด็กไปทานข้าวกลางวัน ก็หน้าที่นำสวดและ เฝ้าถาดหลุมอย่างเช่นเคย จากนั้นก็ไปกินข้าว อะไรกันจะเข้าคาบเรียนที่ 4 แล้ว มีสอนคณิตศาสตร์ต่อนี่นา…รีบเลย
สำหรับคณิตศาสตร์ วันนี้สอนเรื่องการเรียงลำดับจำนวน เรียงถูกบ้าง ผิดบ้าง เฮ้อ! ปล่อยผ่านเลยก็ไม่ได้ เด็กไม่ได้ทำอย่างไงดีคะ สอนนอกรอบสิค่ะ Gifted อย่างเดียวเลยค่ะ...
ผ่านไปอีก 1 วัน กับการสอนในวันนี้ ถึงเวลาดูแลนักเรียนเพื่อรอผู้ปกครองมารับ รู้สึกว่าผู้ปกครองเริ่มเข้ามาพูดคุยกับเรามากขึ้น ส่วนใหญ่จะถามถึงนักเรียนว่าเป็นยังไงบ้าง ส่วนใหญ่ผู้ปกครองก็จะบอกว่า “ถ้ามันม่ะฟังนะ เอาเต๋มตี้เลยเน้อ ทิชเชอร์ ” เป็นประโยคที่น่าฟัง และอยากทำให้เต็มที่มากเลย แต่ทำไม่ได้หรอกค่ะ...กลัวมาก หากทำอะไรลงไป ก็ได้แค่เดินออกไปนอกห้อง และถอนหายใจยาว ๆ แล้วก็จบอย่างทุกอย่าง
เพราะเด็กยังไงก็คือเด็กอยู่วันยังค่ำ
ไม่มีความเห็น