วันที่ 14 กิจกรรม เหาจ๋า…ลาก่อน (3/06/2559)


วันศุกร์นี้มีนัดแต่เช้ากับคุณครูเต๋า ซึ่งเป็นครูพี่เลี้ยงของเพื่อน ผู้คิดโครงการ กำจัดเหา เริ่มตั้งแต่ในตอนเช้าได้นำใบน้อยหน่า น้ำมะขามเปียก และ เหล้าขาวที่เด็กนักเรียนเตรียมมา มาปั่นรวมกันทำเป็น ยากำจัดเหาสมุนไพร และยังมียากำจัดเหาที่ทางโรงพยาบาลนำมาให้ ซึ่งครูเต๋าบอกว่ามีสูตรหมักเหา 3 สูตร คือ สูตรสมุนไพร สูตรยาของโรงพยาบาล และสูตรผสมยาและสมุนไพร และต้องเตรียมไว้ตั้งแต่ตอนเช้าเพราะครูจะต้องไปสอนเด็กๆ ไม่มีเวลาว่างมาทำแล้ว แต่จะนำมาใช้ในตอนบ่าย โดยที่นักเรียนทุกคนในโรงเรียนจะต้องได้หมักยาเหาสมุนไพร แม้คนที่ไม่มีเหาก็ต้องทำ เพื่อป้องกันและเพื่อความแน่ใจว่าเหาจะได้หายไป

และในวันนี้ก็มีสอน 2 ชั่วโมงในตอนเช้า ซึ่งสอนเสร็จพักรับประทานอาหารเสร็จ ก็จะต้องมาเตรียมอุปกรณ์ในการทำกิจกรรมกำจัดเหา เด็กนักเรียนทุกคนก็ต้องเตรียมผ้าเช็ดตัว แชมพู และหมวกของตนเอง ครูจะต้องช่วยนักเรียนหมักเหาด้วย ในขณะที่ทำการหมักเหา ฉันและเพื่อนนักศึกษาจะต้องช่วยกันทำ ตอนแรกคิดว่านักเรียนมัธยมต้นจะไม่ค่อยเป็น แต่ไม่ใช่เลย เป็นเยอะกว่านักเรียนประถมศึกษา ครูพี่เลี้ยงบอกว่า ส่วนใหญ่เด็กมัธยมที่เป็นเพราะติดน้องที่อยู่บ้านเวียงพิงค์ เพราะบ้านเวียงพิงค์เด็กจะได้นอนด้วยกัน ทำให้ติดเหากันเยอะ ซึ่งการหมักเหานักเรียนจะต้องหมักทิ้งไว้จนกว่าจะกลับบ้านค่อยไปล้างออก และเมื่อนักเรียนทุกคนได้หมักแล้ว จะต้องกลับมานั่งเรียนต่ออีก 2 ชั่วโมง ในชั่วโมง เพิ่มเวลารู้ และนักเรียนทุกคนจะต้องหมักไว้จนกว่าจะกลับบ้าน และไปล้างออกที่บ้าน ครูให้เหตุผลว่าถ้าไม่หมักนานๆ เหาจะไม่ตาย ฉันนั่งมองดูเด็กๆหมักเหา คงจะรู้สึกคันน่าดู บางคนเกาไปบนหมวก เกาไป เรียนไป ไม่น่าจะมีสมาธิในการเรียนแน่ๆ แต่ก็ช่วยให้เด็กหายได้ก็เป็นเรื่องที่ดี ครูพี่เลี้ยงบอกว่า “ถ้าสอบบรรจุได้ไปอยู่บนดอย ก็คงได้ทำแน่ๆ และนี่ก็คงเป็นอีกประสบการณ์หนึ่งที่จะได้รับ ได้ฝึก อยากให้ได้อะไรไปเยอะๆจากที่แห่งนี้”

จากที่ฟังครูพูด และได้ลองทำหลายๆอย่างมาเป็นเวลา 2 อาทิตย์แล้ว รู้สึกได้เลยว่าการเป็นครูไม่ใช่แค่เรื่องสอนจริงๆ การดูแลเด็กก็สำคัญมากเช่นกัน ครูต้องเข้าใจในตัวของเด็กให้มากที่สุด หากเด็กเกิดปัญหาอะไร ต้องถามเด็กไม่ใช่ดุเด็ก ถามถึงที่มาที่ไปของสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วค่อยหาทางแก้ไขร่วมกัน เพราะทุกอย่างที่ทำจะมีเหตุและผลในสิ่งนั้นๆอยู่แล้ว สุดท้ายนี้สิ่งที่พบและเจอมาจากการเป็นฝึกเป็นครูและเห็นครูทำงาน คือความสุขใจ แม้จะเหนื่อย ดังเช่นที่ครูได้พูดอยู่เสมอ “เราจะทำทุกอย่างได้ดีและมีความสุข ถ้าใจรัก”

คำสำคัญ (Tags): #วันที่ 14
หมายเลขบันทึก: 607832เขียนเมื่อ 4 มิถุนายน 2016 23:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 มิถุนายน 2016 23:00 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท