นับจากนี้ไปเราคงต้องหันกลับมาทบทวนเกี่ยวกับเรื่องของพลังงาน โดยเฉพาะเรื่อง “น้ำมัน” กันอีกรอบแล้วนะครับ หลังจากที่ถูกให้ปักใจเชื่อว่ามันเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่จะต้องหมดไปในระยะเวลาอันสั้นทำให้หลายประเทศทั่วโลกในอดีตต่างใช้น้ำมันกันแบบจำกัดจำเขี่ยประหยัดกันแบบสุดๆ บ้างก็กักตุนสำรองล่วงหน้ากันเป็นรายห้าปีสิบปีกันเลยทีเดียวตามแต่งบประมาณในท้องพระคลังของแต่ละประเทศจะเอื้ออำนวย เพราะว่ากันว่า “พลังงานจากซากฟอสซิล” “ทองคำดำ” นั้นมันจะหมดโลกไปจริงๆ
ราคาน้ำมันในห้วงช่วงที่เศรษฐกิจจีนร้อนแรง ปาเข้าไป
ความต้องการน้ำมันที่น้อยลงโดยจีนเป็นผู้นำ เพราะเศรษฐกิจของจีนที่ชะลอตัว ไม่ร้อนแรงหวือหวาเหมือนช่วงที่กำลังเร่งเครื่องปั๊มตัวเลขทางเศรษฐกิจให้โตแบบก้าวกระโดด ปัจจัยพื้นฐานทั้ง ข้าว อ้อย ปาล์ม ยางพารา แร่ธาตุ พลังงาน ก๊าซ น้ำมัน จีนก็ค่อยๆนำเข้าน้อยลง ผนวกกับเศรษฐกิจยุโรป อเมริกาก็แย่พอๆ กัน ซ้ำเติมให้ความต้องการใช้น้ำมันจึงยิ่งน้อยลงไปอีก
ความต้องการใช้น้ำมันน้อยลงและแหล่งผลิตน้ำมันมีเพิ่มมากขึ้นโดยอเมริกา ราคาน้ำมันโลกจึงถดถอย พ่อค้าขายน้ำมันแถบตะวันออกกลางที่เคยร่ำรวยก็ยากจนลง เคยล่ำซำจากการขายน้ำมันที่
ในเมื่อโลกภายนอกเราก็ต้องฝ่า โลกภายในก็ต้องสู้ ก็ไม่ควรอยู่อย่างกล้าๆ กลัวๆ รีบนำศาสตร์ของพระราชา “หลักเศรษฐกิจพอเพียง” มาปรับใช้โดยเร็วนะครับ ทำโซนพอเพียงให้แก่ตนเอง เอาไว้สร้างความสุขทุกวินาทีที่มีลมหายใจไปตลอดจนวันสิ้นลมในโซนพื้นที่พอเพียงสักหนึ่งไร่ (ท่านจะมีร้อยไร่พันไร่ไม่สำคัญของเพียงหนึ่งไร่นะครับ)มีนาข้าว
มนตรีบุญจรัส
ชมรมเกษตรปลอดสารพิษwww.thaigreenagro.com
ไม่มีความเห็น