ล่องเรือ ชมนกอุทยานนกน้ำคูขุด


ล่องเรือ ชมนกอุทยานนกน้ำคูขุด

เสน่ห์ธรรมชาติตอกย้ำความสมบูรณ์ทรัพยากร-ระบบนิเวศทะเลสาบสงขลา

ทะเลสาบสงขลา มีเรื่องราวให้พูดถึงได้ในหลากหลายมิติ ภายใต้การบริหารงานของนายนิพนธ์ บุญญามณี นายกองค์การบริหารจังหวัดได้ได้กำหนดนโยบายเพื่อขับเคลื่อนในการพัฒนาจังหวัดสงขลาไว้ 8 ยุทธศาสตร์ด้วยกัน ในด้านการพัฒนาฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าสนับสนุนฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ และระบบนิเวศของทะเลสาบสงขลา โดยการเพิ่มพันธุ์สัตว์น้ำ และป่าชายเลนอย่างเหมาะสมตามหลักวิชาการและความต้องการของประชาชน

มีพี่ที่อบจ.สงขลา ชวนไปดูการขุดลอกร่องน้ำ ทะเลสาบสงขลา และคลองในพื้นที่มีปัญหาภัยแล้ง ใจก็อยากลงทะเลมีเสียงใครคนหนึ่งบอกว่าถ้าจะดูนกต้องไปช่วงนี้ เพราะหลังเมษายนไปแล้ว นกจะอพยพกลับไป

เดินดุ่มๆ ไปยังห้องหัวหน้าอุทยานฯ ท่านกำลังเตรียมข้อมูลอยู่พอดี คุยกันเสร็จ ท่านก็บอกว่าจะลงทะเลไปดูไหม อ่านใจเราออกเลย จะช้าอยู่ทำไม หัวหน้าขอหมวกด้วยนะค่ะ ท่านหยิบโทรศัพท์สั่งลูกน้องเตรียมเรือ

เกือบเที่ยงวัน เจ้าหน้าที่บอกว่าน่าจะร้อนหน่อย แต่ช่วงนี้ก็มีนกหลากหลายชนิดอพยพมาหากิน ซึ่งมาจากทั้งไซบีเรีย และจีน ที่ทางโน้นกำลังหนาว

ก่อนออกเรือหัวหน้าบัณฑิต สุภาไชยกิจ เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส ทำหน้าที่หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลสาบสงขลา จังหวัดสงขลา-พัทลุง เล่าให้ฟังว่าเมื่อปี 2518 บริเวณแถวนี้เป็นป่าชายเลนที่สมบูรณ์มากๆ แต่ละปีมี นกอพยพมาจำนวนมาก ชาวบ้านก็ไปไล่ล่านก ล่าสัตว์เอาไปจำหน่ายก็มีการร้องเรียนไปยังกรมป่าไม้ ทางกรมป่าไม้ก็ส่งเจ้าหน้าที่ลงมาตรวจสอบ

กรมป่าไม้ได้ประกาศเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ทะเลสาบสงขลา เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2518 เป็นอุทยานนกน้ำที่ใหญ่ที่สุดในเอเซียมีพื้นที่อยู่ในเขตรับผิดชอบทั้งหมด 227,916 ไร่ (365 ตารางกิโลเมตร)

อุทยานนกน้ำคูขุด หรือ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลสาบสงขลา ตั้งอยู่ที่บ้านคูขุด หมู่ที่ 4 ตำบลคูขุด อำเภอสทิงพระ ครอบคลุมพื้นที่ อ.เมืองสงขลา อ.รัตภูมิ อ.สทิงพระ และ อ.กระแสสินธุ์ นอกจากนี้พื้นที่ส่วนหนึ่งติดต่อกับ อ.ปากพะยูน จังหวัดพัทลุง

เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลสาบสงขลานี้ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเกาะ คือมีเกาะเล็กเกาะน้อยมากมาย และหญ้าทะเลขึ้นเขียวขจีเหมือนกับทุ่งหญ้ากลางทะเลซึ่งเป็นธรรมชาติที่มีทิวทัศน์งดงามมาก เกาะเหล่านี้บางเกาะอยู่ในพื้นที่ของ อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง เช่น เกาะนางคำ เกาะญวน เกาะเสือ เกาะหมาก และบางเกาะไม่มีคนอาศัยอยู่เลย แต่ทว่ามีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวกันมาก เพราะมีบรรยากาศที่ดีเหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ อย่างเช่น เกาะบรรทม เกาะคำเหียง เกาะกระ และเกาะโคบ ซึ่งมีลักษณะภูมิประเทศด้านหนึ่งติดกับทะเลสาบ อีกด้านเป็นภูเขาเล็กๆ เหมาะแก่การนั่งดูนก เพราะบริเวณนี้มีต้นราโพ และต้นจากมากจึงเป็นที่อยู่และที่วางไข่ของนกอีโก้ง

อุทยานนกน้ำเป็นส่วนหนึ่งของทะเลสาบสงขลา มีอาหารอุดมสมบูรณ์ จากการสำรวจของกรมป่าไม้พบว่ามีนกชนิดต่างๆ 44 วงศ์ 137 สกุล 219 ชนิด ซึ่งนกเหล่านี้จะมาอยู่อาศัยเป็นจำนวนมากในช่วงเดือนธันวาคม-เมษายน ที่บริเวณที่ทำการอุทยานมีเรือทัวร์ชมรอบๆ บริเวณอุทยานนกน้ำ ใช้เวลาเที่ยวชมนกประมาณ 1 ชั่วโมง รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ สำนักงานเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลสาบสงขลา โทร. 0 - 7439 - 7042

นักท่องเที่ยวที่ต้องการลงไปดูนกสามารถติดต่อที่อุทยานได้มีเรือให้บริการ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายต่อลำประมาณ 300-500 บาทแล้วแต่ระยะทาง เอาว่าตอนนี้เรือพร้อมแล้ว แม้ว่าอากาศจะร้อนสักหน่อย แต่พอลงทะเลอากาศสบายๆ เย็นด้วยลม ไม่แสบผิว ร่องน้ำค่อนข้างมีปัญหา ก่อนลงเรือเจ้าหน้าที่ชลประทานมาพบหัวหน้าบัณฑิตขออนุญาตสำรวจร่องน้ำที่จะขุดพอดี

หัวหน้าบัณฑิต บอกเราว่าปี 2559 กรมชลประทานให้งบประมาณมา 19 ล้านบาทเพื่อขุดลอกร่องน้ำ และองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาก็เพิ่งลงขุดไปเมื่อเร็วๆนี้ เพื่อให้เรือสามารถสัญจรไปมาได้

เป้าหมายเราคือนกสารพัดชนิด จุดแรกที่ไปคือนกเป็ดน้ำ อืม...!!! เยอะจริงๆ ลอยคอเล่นน้ำกันเป็นกลุ่ม พอเรือเข้าไปใก้ลก็แตกฝูง แต่ก็เป็นภาพที่สวยงาม ตลอดเส้นทางเรือนอกจากนกเป็ดน้ำก็มีนกเป็ดผี มีมากมายหลากหลายจริงๆ บ้างตัวชอบเล่นกล้องด้วย บินโฉบไปโฉบมา ฉวัดเฉวียน พลิกซ้าย พลิกขวาท้าลม จนพวกเราออกอาการทึ่งไปตามๆ กัน นกมันคงแสนรู้

ด้วยความใจดีของหัวหน้าบัณฑิต ท่านพาเราไปดู ที่นกวางไข่ด้วย นกที่ย้ายถิ่นเหล่านี้มาไข่ทิ้งไว้ตามกอหญ้า และใบสาหร่าย ท่านหัวหน้าบอกว่าแต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ฟัก เพราะกลายเป็นเหยื่อของอีกา เราสังเกตุว่าที่อุทยานแห่งนี้มีอีกาจำนวนมากด้วย

ในช่วงที่ออกเรือจากโซนที่นกมาวางไข่ เรือเราชนเข้ากับโคลนอย่างจัง หัวหน้าบัณฑิตแหย่ผู้เขียนว่าไม่เป็นไร น้ำตื้นมาก เราสามารถเดินกลับได้ ในใจก็คิดว่าไม่ตลกนะ...!!! ถ้าเรือไปต่อไม่ได้นี่มันกลางทะเลสาบสงขลานะ นายท้ายเรือดับเครื่อง เอาขยะออกจากใบพัด ใจเราที่นั่งมารู้สึกหวั่น ๆ ถ้าเจอเข้ากับนักท่องเที่ยวล่ะ…!!!

แต่หลังจากทริปเราคงไม่เป็นไรแล้ว เพราะชลประทานมาขุดร่องน้ำ เรือนักท่องเที่ยวคงวิ่งฉิ่วแล้วถึงตอนนั้น

ปลายทางวันนี้ของเราคือนกปากห่าง ทันทีที่เรือเข้าเขต เราพบว่ามีลานหญ้าขนาดใหญ่มากๆ มีนกอาศัยอยู่กันหลายหมื่นตัว สารพัดชนิด พี่ที่ไปด้วยกันบอกว่าลงไปลุยไหม แต่หัวหน้าอุทยานบอกว่า มีหญ้าเยอะเป็นแนวยาวแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าเป็นบกนะ ด้านล่างคือน้ำ เธอเลยเปลี่ยนความคิด และลงมือจับภาพอีกครั้ง การเข้าไปนอกจากเสียงเรือแล้ว พวกเราคุยกันน้อยมาก เพราะด้านหน้านกกำลังเล่นลม บ้างตัวจับคู่ บ้างตัวกลางปีกบนยอดไม้ เหมือนนางงามกำลังโชว์เรือนร่าง บ้างคู่ก็กระแชะกระชิด ฯลฯ

ธรรมชาติช่างงดงาม ร่องน้ำบ้างช่วงลึก ต้นลำพูแตกหน่อเป็นแนวยาว

สวยเกินคำบรรยาย การพัฒนาภายในเขตอุทยานฯแห่งนี้ แม้แต่การขุกร่องลำก็ทำด้วยความระมัดระวังเพื่อไม่ให้ไปกระทบระบบนิเวศน์ของป่า

เวลาเลยเที่ยงมาหน่อยๆ สิ่งที่เห็นคือเรือประมงพื้นบ้านทยอยเข้าฝั่ง พวกเราทุกคนอยากรู้ว่าพวกเขาได้ปลาหรือเปล่า สุดท้ายทุกคนก็เดินไปยังเป้าหมายเหมือนจะนัดกัน ปลาขี้ตัง และปลาอีกหลากหลายชนิดถูกนำมาส่งยังร้านอาหารในละแวกใกล้เคียง

อุทยานแห่งนี้ยังคงสมบูรณ์ไปด้วยสัตว์น้ำ สัตว์หลากหลายชนิด และนกหลากหลายสายพันธุ์ และด้วยความอุดมสมบูรณ์ของทะเลแห่งนี้ทำให้นกจำนวนมากไม่ยอมย้ายกลับกลายเป็นนกประจำถิ่นในเวลาต่อมา

หมายเลขบันทึก: 606052เขียนเมื่อ 7 พฤษภาคม 2016 12:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม 2016 12:52 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท