อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะกลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้งในปี 2559 โดยอาจมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 2 ครั้งในครึ่งหลังปี 2559 ซึ่งช่วงที่เศรษฐกิจไทยน่าจะฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ กอปรกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ยังตกต่ำ เป็นปัจจัยที่ทำให้ค่าเงินบาทยังอ่อนค่าต่อเนื่องปีหน้า โดยคาดว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในช่วง 36-37 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐในปี 2559
การฟื้นตัวเศรษฐกิจ จะส่งผลให้ภาพรวมของการเงินการธนาคารขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยคาดว่าสินเชื่อและเงินฝากขยายตัวได้ที่ร้อยละ 6.1 และ 6.8 ตามลำดับ สินเชื่อถูกขับเคลื่อนโดยภาคธุรกิจทั้งรายใหญ่และSMEs โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับแรงหนุนจากนโยบายของรัฐ เช่น อุตสาหกรรมการก่อสร้าง ในขณะที่สินเชื่ออุปโภคบริโภคขยายตัวจากความเชื่อมั่นที่สูงขึ้น ส่วนเงินฝากจะเติบโตตามแนวโน้มขาขึ้นของอัตราดอกเบี้ยนโยบาย การขยายตัวของสินเชื่อ และการปรับลดเพดานคุ้มครองของเงินฝากเหลือ 1 ล้านบาทในเดือนสิงหาคมปีหน้า ทำให้ธนาคารพาณิชย์ต้องสร้างฐานเงินฝากเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ภายใต้ภาวะการแข่งขันเงินฝากที่จะทวีความรุนแรงมากขึ้น
นอกจากนั้น คุณภาพสินเชื่อมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นมากกว่าปี 2558 โดยที่สัดส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (%NPL) มีแนวโน้มปรับตัวลดลงอยู่ที่ร้อยละ 2.6 หลักๆ มาจากการปรับตัวดีขึ้นของสินเชื่อภาคธุรกิจ ที่ได้รับอานิสงส์จากนโยบายรัฐที่จะให้เกิดเงินทุนหมุนเวียนภายในระบบมากขึ้น ในส่วนคุณภาพของสินเชื่ออุปโภคบริโภคโดยรวมยังทรงตัว แต่ในส่วนที่เป็นสินเชื่อบัตรเครดิต %NPL ยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง
ไม่มีความเห็น