อนาคตที่จะเกิดวิกฤตการณ์เงินโลก

ถ้าพูดถึงอดีตกาลของแต่ละประเทศเรารวมทั้งประเทศไทยของเราด้วยกได้รับผลกระทบภาวะเศรษฐกิจทางการเงินกันถ้วนหน้า เช่นวิกฤตต้มยำกุ้ง วิกฤตซับไพรมในอเมริกา วิกฤตฟองสบู่แตกในญี่ปุ่น แม้กระทั่งวิฤตแฮมเบอร์เกอร์ โดยวิกฤตการณต้มยำกุ้งที่เกิดขึ้นในประเทศไทยเอง ซึ่งทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ที่เกิดขึ้นจากปัญหาของไทยเองเป็นหลัก โดยเป็นผลจากภาวะฟองสบู่จากการเก็งกำไรในภาคอสังหาริมทรัพย์และตลาดหุ้นไทยที่ดิ่งตัวลง หลังจากที่นักลงทุนต่างชาติไม่เชื่อต่อความสามารถในการชำระหนี้ต่างประเทศของไทย ภายใต้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ทำให้เกิดการไหลออกของเงินทุน ทางการไทยจึงต้องยอมปรับค่าเงินบาท ในขณะที่ทุกประเทศในภูมิภาคเอเชียก็ต่างล้วนเผชิญกับปัญหาการเคลื่อนย้ายเงินทันและการแสวงหาสภาพคล่องในรูปของเงินดอลล่าห์ ในลักษณะเกี่ยวกับที่ไทยประสบอยู่เช่นกัน

ในอนาคตถ้าตอนนี้ยังมีภาวะเศรษฐกิจที่ดีก็จะส่งผลให้ทุกอย่างดีไปด้วย แต่เราไม่สามารถที่จะคาดการณ์ได้ว่ามันจะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ ละจะทวีความรุนแรงมากน้อยเพียงใด ไม่สามารถที่จะหาคำตอบได้ แต่ยังไงก็ยังจะต้องมีการเตรียมพร้อมในการรับมือเผื่อว่าในอนาคตเกิดเหตุการณ์เกิดขึ้นอีกครั้ง เรายังก็สามารถที่จะรับมือ แก้ไขได้ทันท่วงที จะทำให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด เราก็ควรเอาประสบการณ์ปัญหาของภาวะที่เกิดในอดีตมาแก้ไข โดยมีการออกมาตรการป้องกันก็สามารถบรรเทาความรุนแรงที่จะมากระทบได้ดี การเตรียมพร้อมทางด้านสภาพคล่องจะสำคัญถึงสำคัญที่สุด การถือสินทรัพย์มากๆ ก็อาจจะได้รับผลกระทบมากจากวิกฤติเนื่องจากว่าราคาของสินทรัพย์จะลดลง และจะทำการผ่องออกเป็นสภาพคล่องได้ยาก หรือก็ไม่สามารถทำใจขายในราคาที่ต่ำมากๆ ได้ เมื่อมีสัญญาณไม่ค่อยดี ต้องทำการขายสินทรัพย์ก่อนและถือเงินสดไว้ ปัญหาส่วนใหญ่ก็คือ ทำใจไม่ได้หรือไม่ก็โลภว่ามันจะมีราคาสูงขึ้นไปอีก เราาควรที่จะมีกระจายความเสี่ยงออกไปลงทุนในตลาดอื่นๆ นอกประเทศ เมื่อเกิดวิกฤต ค่าของเงินจะอ่อนตัวลงอย่างรวดเร็ว การไปถือครองทรัพย์สินในต่างประเทศจะช่วยบรรเทาผลกระทบต่อสถานะโดยรวมได้ดี

ดังนั้นต่อให้เกิดวิฤตการณ์เงินโลกหรือไม่เกิดขึ้น เราก็ต้องมีสติ มีการรับมือการป้องกันอยู่เสมอ เพื่อที่จะส่งผละกระทบให้กับประเทศให้น้อยที่สุดเท่าที่ทำได้