"เราแสวงหานายช่างผู้ทำเรือน เมื่อไม่ประสบ
จึงได้ท่องเที่ยวไปสู่สังสาระ
มีชาติเป็นเอนก
ความเกิด บ่อย ๆ เป็นทุกข์,
แน่ะนายช่างผู้ทำเรือน เราพบท่าน แล้ว,
ท่านจะทำเรือนอีกไม่ได้,
ซี่โครงทุกซี่ ของท่าน
เราหักเสียแล้ว ยอดเรือนเราก็รื้อเสียแล้ว,
จิตของเรา
ถึงธรรมปราศจากเครื่องปรุงแต่งแล้ว,
เพราะเรา บรรลุธรรมที่สิ้นตัณหาแล้ว"
เมื่อวานได้รับโจทย์ใหญ่ล่าสุด
เป็นโจทย์ที่มีพลังเพียงพอ ที่จะสั่นสะเทือนจิตใจให้วุ่นวายได้
ชวนจิต ออกมาช่วยได้ทัน พอผ่อนหนักเป็นเบาได้บ้าง
เมื่อเช้าจึงพอเคลียร์ใจได้บ้าง แต่ก็ยังไม่หมดเชื้อดีนัก
วันนี้จิตจึงตก ๆ ตั้ง ๆ วุ่น ๆ ว่าง ๆ ปนเปกันไป
นายช่างผู้สร้างเรือน ได้กลับมาอีกครั้ง
เพียรสักพัก ตอนเย็นจึงกลับมาว่างได้จนถึงตอนนี้ หนอ
ตอนที่นายช่างผู้สร้างเรือนกลับมาปรุงแต่งใจนั้น
โอ้โฮ! สลัดไม่หลุด ใจมันขุ่นมัว คันยุกยิก วุ่นวาย ยังกะหมาขี้เรื้อน หนอ
*** มีประเด็นสำคัญที่น่าสนใจ 2 ประการ ได้แก่
1. ในกรณีของผู้ปฏิบัติธรรม ใจจะคุ้นชิ้นกับสวรรค์ / ความว่าง / โลกสวย อะไรทำนองนั้น
แต่ถ้าบังเอิญ เ-ผ-ล-อ เห็นหรือสัมผัสความอยุติธรรมความจริงของโลกเข้าอย่างกระทันหันไม่ทันตั้งตัว
รับไม่ได้ รับไม่ทัน คราวนี้ล่ะวุ่นแน่ ๆ
2. ในกรณีของผู้ที่ไม่ได้ฝึกตน ไม่ได้ปฏิบัติธรรม
ยิ่งถ้าเป็นเด็กมัธยมแล้วด้วย โอกาสจะ "ดีแตก" มีสูงมาก
อันอาจสามารถทำให้ชีวิตล้มทั้งกระดาน หรือกลายเป็นพญามารได้ง่าย ๆ หนอ
ไม่มีความเห็น