หลายคนอาจจะไม่คุ้นหรือไม่เคยได้ยินกับคำว่า DOI แต่ DOI ในประเทศไทยเกิดจากแนวคิดของศาสตราจารย์ นายแพทย์ สิทธิพร จิตต์มิตรภาพ เลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ได้เห็นถึงประโยชน์ของ DOI เพื่อตรวจสอบความซ้ำซ้อนของวิจัย จึงได้มอบให้ศูนย์สารสนเทศ นำรหัส DOI มาใช้ ทางศูนย์สารสนเทศการวิจัย จึงได้จัดทำโครงการนี้ขึ้นมา ในปี 2555 จึงได้เริ่มมีการจัดทำ DOI ขึ้น
DOI หมายถึง ตัวระบุวัตถุดิจิทัล หรือเราเรียกกันย่อๆ สั้นๆ ว่า DOI หรือ Digital Object Identifier ทำหน้าที่เป็นตัวเลขประจำเอกสารดิจิทัล พูดแบบนี้ทุกคนคงจะนึกถึง เลข ISSN แต่ความต่างของมันอยู่ที่ DOI จะมีเทคโนโลยีความซ้ำซ้อน สามารถเชื่อมโยงไปยังไฟล์เอกสารได้
รูปแบบของ DOI
จะประกอบด้วย 2 ส่วน คือ เลขส่วนแรก (Prefix) เลขส่วนเติม (Suffix)
1. เลขส่วนแรก (Prefix)
10.14455 หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน
10.14456 บทความวารสาร
10.14457 สถาบันการศึกษารัฐ
10.14458 สถาบันการศึกษาเอกชน
2. เลขส่วนเติม (Suffix) วช. กำหนดใช้ กลุ่มเลข Suffix แบ่งย่อยดังนี้
ตัวอย่าง 10.14457/CU.The.2010.1
ตัวอย่าง 10.14457/PSU.res.2011.1
ตัวอย่าง 10.14456/nulj.2015.10
ทางคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ได้เห็นความสำคัญกับการจัดทำเลข DOI นี้ จึงได้มีโอกาสเข้าร่วมประชุมในการส่งเสริมให้หน่วยงานต่างๆ ได้จัดทำเลข DOI เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2558 บรรณาธิการและบุคลากรในกองบรรณาธิการ เข้าร่วมจัดทำ DOI (Digital Object Identifier) ซึ่งจัดทำโดยสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เพื่อการเข้าถึงข้อมูลสารสนเทศดิจิทัล Open Access (OA) หรือ การเข้าถึงแบบเปิด โดยทางวารสารนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร (Naresuan University Law Journal - NULJ) ได้นำข้อมูลบทความในวารสารลงในฐานข้อมูลดังกล่าว ฉบับเต็ม (Full Text) ทั้งนี้ โดยเริ่มลงบทความตั้งแต่ปีที่ 7 ฉบับที่ 2 (พฤศจิกายน) 2557) เป็นต้นไป หรือเข้าเว็บวารสารนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวรได้โดยตรง โดยผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดบทความวารสารฉบับเต็ม เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการศึกษาค้นคว้าวิจัย โดยมิได้มีวัตถุประสงค์เพื่อการค้าหากำไร
การขอรับบริการ
ทั้งนี้หากมีปัญหาสามารถติดต่อได้ที่ ฝ่ายบริหารจัดการตัวระบุวัตถุดิจิทัล ศูนย์สารสนเทศการวิจัย สำนักงานคณะกรรมการแห่งชาติ (วช.) โทร.0-2561-2445 ต่อ 353, 507, 570
ประโยชน์ของ DOI
รู้ถึงประโยชน์อย่างนี้แล้ว มาออกเลข DOI เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงงานวิจัยในประเทศไทยของเรากันนะคะ
ที่มา : ศูนย์สารสนเทศการวิจัย สำนักงานคณะกรรมกรวิจัยแห่งชาติ, ดีโอไอ-ไทยแลนด์ DOI-Thailand, 2558
นานแค่ไหนแล้วครับที่ไม่ได้เขียนบันทึก
สบายดีนะครับ ;)...