๓๘๐. เมื่อทำวันนี้ให้ดีที่สุดแล้ว..พรุ่งนี้..ก็ไม่มีอะไรต้องเสียใจ..


คงไม่มีใครตอบได้ นอกจากตัวเราเอง..ว่าทำไมบุคลากรในโรงเรียนขนาดเล็ก..ถึงต้องทำงานหนัก..แล้วคุ้มกันไหม..กับผลสัมฤทธิ์ที่จะออกมา..ถ้าไม่เป็นไปตามเป้าหมายล่ะ..อะไรจะเกิดขึ้น

วันอาทิตย์..นักเรียนชั้น ป.๖ มาเรียนเสริมพิเศษ(ติว) ๕ สาระวิชาหลัก..เมื่อวานวันเสาร์ ไม่สามารถสอนเสริมได้ เพราะมีนักเรียน ๒ คน ต้องไปสมัครสอบเรียนต่อ ม.๑ ..ใกล้สอบโอเน็ตแล้ว ไม่ติวอย่างที่เคยทำมา..จะรู้สึกว่าขาดอะไรไป หรือถ้า..อยู่เฉยๆ ก็เท่ากับตั้งอยู่ในความประมาทอย่างมาก..

ครูไม่ครบชั้น..ครูไม่ถนัดในบางรายวิชา..แต่ต้องนำพานักเรียน..สู่สนามสอบระดับชาติ เป็นเช่นนี้ทุกปี..ปัญหาเล็กๆ อยู่ที่..นักเรียนยังเรียนไม่จบหลักสูตร การสอนยังไม่ครอบคลุมตัวชี้วัดและนักเรียนยังขาดความพร้อม..การเติมเต็มด้วยการติว..จึงเป็นตัวช่วยทั้งครูและนักเรียน...

ผมบอกไม่ถูกว่าการ ติว..เป็นวิธีการที่ถูกต้องไหม..เป็นการปฏิรูปการเรียนรู้หรือเปล่า...แต่ครูและเด็ก...ไม่เคยมีความสุขเลย....

ผมเฝ้าประคับประคอง..ผลสัมฤทธิ์..ไม่ให้ต่ำกว่าระดับชาติมาหลายปี แต่ปีนี้รู้สึก..ได้สำนึก..ว่าเราบริหารจัดการศึกษาในโรงเรียนขนาดเล็ก..มาถูกทางแล้วหรือยัง..ถ้าคิดว่า..การสร้างคุณภาพ..เพื่อแข่งกับตัวเอง ก็ไม่น่าหนักใจ..และถ้าทำงานเต็มที่แล้ว คะแนนยังต่ำ ก็ไม่น่าเสียใจใช่ไหม เพราะเราทำเต็มที่ ทำดีที่สุดแล้ว..ใคร..จะเอาไปจัดอันดับแบบไหนอย่างไร..ก็คงไม่ต้องกังวล..

บ่ายมากแล้ว..คุณครูฝน..คุณครูดาว..ที่ช่วยติวให้นักเรียนมายกมือไหว้ เพื่อลากลับบ้าน..ผมขอบคุณคุณครู ที่สู้อุตส่าห์มาทำงานให้โรงเรียนในวันหยุด..ผมยื่นเงินใบละ ๕๐๐ ให้คุณครูคนละใบ...บอกว่า..ไปทานข้าวและพักผ่อนเยอะๆนะ..ขับรถดีๆล่ะ..พรุ่งนี้พบกัน..

ผมกับคุณครู..ใช้เวลาในช่วงวันหยุด..อย่างคุ้มค่า ทำมาอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ ทั้งงานพัฒนาวิชาการและสิ่งแวดล้อม มันอาจไม่ใช่การทำงานเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม..ให้โรงเรียนขนาดเล็ก..เพียงอย่างเดียว..แต่มันเป็นส่วนหนึ่งของจรรยาบรรณและอุดมการณ์..ที่ต้องสั่งสมไว้ให้สมกับที่เป็น..ข้าราชการ..ที่ทำงานในท้องถิ่นห่างไกล...แต่ถูกประเมินด้วยเกณฑ์และข้อทดสอบระดับชาติ..ทุกปี

หรือจะเป็นเช่นนี้..เรื่อยไป..จนกว่าเกมชีวิตราชการจะจบสิ้น..ใช่ไหม..ผมจึงเฝ้ามอง..ต้นไม้หน้าอาคารเรียนที่ยืนต้นตายสนิท เพราะถูกกาฝากเกาะกินอาหารในลำต้นจนไม่เหลืออะไรให้ดำรงชีพ ผมรู้สึกหดหู่ใจ ผมเหมือนคนหมดอาลัยตายอยาก เหมือนคนหมดไฟ..แล้วกระนั้นหรือ..ทั้งที่ผมเอง ก็เพิ่งจ้างคนงานมาตัดกิ่งกาฝากออก..เพื่อรักษาต้นไม้ใหญ่เอาไว้..เช่นเดียวกัน..การขอความอนุเคราะห์ให้ครูมามีส่วนร่วมในการติวนักเรียนในวันหยุด..เพื่อรักษาความยั่งยืนของโรงเรียนเอาไว้...ก็คงเป็นเรื่องที่ไม่แตกต่างกันเท่าไร....

คงไม่มีใครตอบได้ นอกจากตัวเราเอง..ว่าทำไมบุคลากรในโรงเรียนขนาดเล็ก..ถึงต้องทำงานหนัก..แล้วคุ้มกันไหม..กับผลสัมฤทธิ์ที่จะออกมา..ถ้าไม่เป็นไปตามเป้าหมายล่ะ..อะไรจะเกิดขึ้น

คิดอีกที..เมื่อทำวันนี้ให้ดีที่สุดแล้ว..พรุ่งนี้..ก็ไม่มีอะไรต้องเสียใจ..

ชยันต์ เพชรศรีจันทร์

๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙


หมายเลขบันทึก: 601949เขียนเมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2016 21:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2016 21:22 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

สาเหตุแห่งความทุกข์ ความวิตก

ความกังวล ความเครียด....ประการหนึ่ง

มาจาก " คิดคำนึง กังวล ว้าวุ่น "

แต่ในเรื่องของ..." วันหรุ่งนี้" หรือ "อนาคต"

นั่นเอง แม้ว่าจะรู้อยู่ว่า " วันนี้เราทำดีที่สุดแล้ว"

ก็ตามที... สติมั่น ปัญหาหมด...เป็นกำลังใจให้จ้ะ


พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท