การเดินธุดงค์ในกาลครั้งนี้ของท่านอาจารย์กงมากับพระวิริยังค์มีความหมายอย่างยิ่ง เพราะเป็นการปลดภาระจากการก่อสร้างวัดและการผูกพันการสั่งสอนประชาชน พร้อมกับการถือเขาถือเราในการยึด กุลปลิโพธ (ความห่วงในสกุลอุปัฏฐาก :ผุู้บันทึกแปลจากอินเตอร์เน็ต)
หลวงพ่อวิริยังค์เข้าใจในภายหลังว่าการเดินธุดงค์ครั้งนี้พระอาจารย์กงมาต้องการทรมานตัวเองและตัวหลวงพ่อวิริยังค์ด้วย เพราะมีจุดมุ่งหมายอยู่ ๒ ประการ คือ ประการ๑ ต้องการทรมานกิเลส เมื่อพบที่สงบดีก็พักภาวนาอยู่หลายวันเพื่อเพิ่มพูนพลังจิต ประการที่ ๒ เพื่อไปพบพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ อันเป็นจุดประสงค์ที่แท้จริง
จากอำเภอมะขาม เดินด้วยเท้าตามทางเกวียน เมื่ออ่อนเพลียถวายท่านอาจารย์กงมาด้วยน้ำที่สะพายมา ๑ แก้ว ท่านบ่นกับหลวงพ่อวิริยังค์ว่า...ร่างกายนี้มันคอยจะหาเรื่องอยู่เรื่อย ...มันคอยจะให้กลับไปนอนบนเตียงที่วัดอยู่เรื่อย...ถึงไปไหนมาไหนจะมีรถยนต์เรือไฟแต่เราจะไม่ยอเชื่อมัน...ม้จะลำบากก็จะทรมานมันต่อไป...พอหายเหนื่อยท่านก็พาเดินต่อไป
ถึงอำเภอพญากำพุด กิ่งอำเภอที่ทุรกันดารมาก กลางกลดนอนตามโคนไม้ใช้บาตรทำเป็หมอน นอนตามมีตามได้ ท่านอาจารย์กงมาให้โอวาทอีกว่า...อันการที่จะหาเรื่องกังวลใส่ตัวเองนั้นมันไม่สมควรเป็นอย่างยิ่งและควรจะพิจารณาในเมื่อเห็นหญิงสาวให้เห็นเป็นสิ่งปฏิกูลน่าเกลียดและพิจารณามิให้มันเข้ามาอยู่ในใจว่าเป็นของสวยงามทั้งตัวเราและตัวเขา...
........
บันทึกหน้า..เข้าเขตเขมร...
ขอบคุณ บันทึกดีดีนี้ค่ะ ...
ท่านคือพระผู้ปฏิบัติโดยแท้จริงจ้ะ
กำลังตั้งใจอ่านเลย
มีพระดีแบบนี้มากๆก็ดีนะครับ
รออ่านอีกครับ
ต้องขออภัยอาจารย์ขจิตครับ ที่บันทึกไม่ต่อเนื่องเพราะใช้เวลาเบรกเที่ยงบันทึกจากการอ่านแล้วถอดสรุปออกมาในแต่ละตอน
จะพยายามบันทึกให้จบครับ
มาอ่านต่อจนจบครับ
555